Buffalo (mine protected vehicle)

บัฟฟาโล (อังกฤษ: Buffalo) เป็นหุ้มเกราะต้านทานทุ่นระเบิดและซุ่มโจมตี (เอ็มแรป) แบบล้อยาง ที่สร้างขึ้นโดย ซึ่งเป็นแผนกของบริษัท โดยเป็นยานพาหนะที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์บริษัทฟอร์ซโพรเทกชัน รองลงมาคือ ที่เป็นรถหุ้มเกราะต้านทานทุ่นระเบิดและซุ่มโจมตี กับ ที่เป็นรถตรวจการณ์ป้องกันเบา (LPPV)

บัฟฟาโล
บัฟฟาโลขณะใช้เพื่อขุดระเบิดแสวงเครื่องระหว่างการฝึก
ชนิด	เอ็มแรป
แหล่งกำเนิด	สหรัฐ
บทบาท
ผู้ใช้งาน	ดูประจำการ
สงคราม	สงครามอิรัก, สงครามอัฟกานิสถาน
ประวัติการผลิต
บริษัทผู้ผลิต
ช่วงการผลิต	ค.ศ. 2003
ข้อมูลจำเพาะ
มวล	45,320 ปอนด์ (20,560 กก.) (น้ำหนักรถเปล่า) 56,000 ปอนด์ (25,000 กก.) (น้ำหนักสูงสุด)
ความยาว	27 ฟุต (8.2 ม.)
ความกว้าง	8.5 ฟุต (2.6 ม.)
ความสูง	13 ฟุต (4.0 ม.)
ลูกเรือ	2+4 นาย
เกราะ	ปกป้องล้อทั้งหมดและทุ่นระเบิดตรงกลาง
เครื่องยนต์	เอเอสอีที เอไอ-400 ไอ6 330 กิโลวัตต์ (450 แรงม้า)
ความจุน้ำหนักบรรทุก	38,680 ปอนด์
เครื่องถ่ายกำลัง	เอชดี-4560พี
กันสะเทือน	ล้อ
ความสูงจากพื้นรถ	15 นิ้ว (410 มม.)
ความจุเชื้อเพลิง	85 แกลลอน
พิสัยปฏิบัติการ	300 ไมล์ (483 กม.)
ความเร็ว	65 ไมล์ต่อชั่วโมง (105 กม./ชม.)

ประวัติ

รถบัฟฟาโลได้รับการออกแบบโดยอิงจากรถป้องกันทุ่นระเบิดอย่างของประเทศแอฟริกาใต้ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งแคสเปอร์เป็นรถสี่ล้อ ในขณะที่บัฟฟาโลมีหกล้อ ทั้งนี้ บัฟฟาโลยังมีแขนเป็นข้อขนาดใหญ่ ที่ใช้สำหรับการถอดและทำลายระเบิด ยานพาหนะทั้งสองรุ่นมี ซึ่งควบคุมแรงระเบิดให้ห่างจากผู้โดยสาร

ในเวลานี้บัฟฟาโลยังติดตั้งแอลอาร์โอดี ของบีเออี ซิสเต็มส์ เพื่อการป้องกันเพิ่มเติมจากกระสุนอย่างอาร์พีจี-7 เกราะแก้วเพียงพอที่ความหนา 6 นิ้ว ส่วนติดตั้งอยู่บนล้อทั้งหกล้อ บัฟฟาโลผสมผสานการป้องกันขีปนาวุธและระเบิดเข้ากับเทคโนโลยีอินฟราเรด เพื่อตรวจจับการมีอยู่ของอาวุธยุทโธปกรณ์อันตราย และแขนหุ่นยนต์เพื่อทำให้อาวุธยุทโธปกรณ์ระเบิดไร้ความสามารถ กำลังพลปฏิบัติการแขนหุ่นยนต์และกรงเล็บ 30 ฟุตของบัฟฟาโลจากภายในตัวถังหุ้มเกราะผ่านกล้องที่ติดตั้งและอุปกรณ์ประสาทสัมผัส เพื่อกำจัดทุ่นระเบิดและระเบิดแสวงเครื่องอย่างปลอดภัย

ใน ค.ศ. 2004 สหรัฐมีบัฟฟาโลประจำการในในจำนวนจำกัด โดยได้สั่งซื้อเพิ่มอีก 15 คัน ในราคา 10 ล้านดอลลาร์ กระทั่งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2008 บริษัทฟอร์ซโพรเทกชัน, อิงก์ ได้ส่งมอบบัฟฟาโลกคันที่ 200 ให้แก่กองทัพสหรัฐ

ใน ค.ศ. 2009 บริษัทฟอร์ซโพรเทกชันได้เริ่มผลิตรุ่นเอ2 โดยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเพลาหลังแอ็กเซิลเทค, เครื่องยนต์แคตซี13, เกียร์แคตซีเอกซ์31 และระบบกันสะเทือน พร้อมกับการอัปเกรดเพิ่มเติมในระบบปรับสภาวะอากาศ, ฝากระโปรงหน้า และกันชนหน้า วิธีที่ง่ายที่สุดในการระบุรุ่นเอ1 จากรุ่นเอ2 คือกันชนหน้าของเอ2 มีขนาดใหญ่กว่า รถบรรทุกเอ็มแรปบัฟฟาโลเอ2 คันสุดท้ายแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 จากนั้น บริษัทฟอร์ซโพรเทกชันได้ถูกซื้อกิจการโดยบริษัทแลนด์ซิสเตมส์ (GDLS) ใน ค.ศ. 2011 ด้วยมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์

รุ่น

• บัฟฟาโล เอช
• บัฟฟาโล เอ2

ประจำการ

แผนที่ของบัฟฟาโลประจำการเป็นสีน้ำเงิน

•  สหรัฐ - รุ่นเอ1 จำนวน 200 คัน และรุ่นเอ2 ประมาณ 450 คัน
•  แคนาดา - 5 คัน บวกเพิ่มอีก 10 คันสำหรับการส่งมอบใน ค.ศ. 2009 โดย 19 คันประจำการในอัฟกานิสถาน ซึ่งแคนาดายุติภารกิจในในอัฟกานิสถานเมื่อ ค.ศ. 2011 และเลิกใช้ในอัฟกานิสถานแล้ว^[]
•  ฝรั่งเศส - 5 คัน
•  อิตาลี
•  ปากีสถาน: 20 คัน (บัฟฟาโลรุ่น(หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด)) ได้รับจากสหรัฐ ภายใต้ใน ค.ศ. 2010
•  สหราชอาณาจักร - 18 คัน

การปรากฏที่โดดเด่นในสื่อ

บัฟฟาโลได้ปรากฏตัวในฐานะโหมดยานพาหนะของแห่งฝ่ายดีเซปติคอนในภาพยนตร์มหาวิบัติจักรกลสังหารถล่มจักรวาล (ค.ศ. 2007) และในภาคต่อคือทรานส์ฟอร์เมอร์ส อภิมหาสงครามแค้น โดยเจฟฟ์ แมนน์ ผู้ออกแบบงานสร้างได้กล่าวว่า "เราพบภาพของยานพาหนะกวาดทุ่นระเบิดที่มีแขนขนาดใหญ่และดูเหมือนเป็นส้อมในตอนท้าย เราเลยโทรหาคนที่เป็นเจ้าของโดยหวังว่าจะมีโอกาสเช่าหรือซื้อได้ แต่เมื่อเราได้ข้อมูลแล้ว กลับกลายเป็นว่าส้อมมีความกว้างเพียง 14 นิ้ว (360 มิลลิเมตร)—พวกเขาหลอกลวงทุกอย่างในโฟโตชอปโดยสิ้นเชิง.... เราต้องสร้างอุปกรณ์ให้พอดีกับแขนที่มีอยู่ ซึ่งจะไม่กระเด้งมากเกินไปเพราะกว้างประมาณ 10 ฟุต (3.0 เมตร)"

นอกจากนี้ ยานพาหนะบัฟฟาโล และ ได้รับการใช้โดยทีมหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด (EOD) ของกองทัพเรือ ในรายการโทรทัศน์อย่าง""^[]

ดูเพิ่ม

• เอ็มแรป
• คามาซไทฟูน

ระเบียงภาพ

• รถยานเกราะป้องกันทุ่นระเบิดบัฟฟาโล และจีไอ
• บัฟฟาโลขณะแสดงแขนหุ่นยนต์
• บัฟฟาโลที่อยู่รอดโดยห้องโดยสารไม่บุบสลายหลังจากการโจมตีด้วยระเบิดแสวงเครื่องซึ่งถอดสองล้อหน้าและเพลาล้อออก
• บัฟฟาโลประจำการในประเทศอิตาลี
• บัฟฟาโลในประจำการสหราชอาณาจักรพร้อมเพิ่มเติม

อ้างอิง

1. Buffalo fact sheet มีนาคม 19, 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Force Protection. (requires login)
2. Buffalo Armoured Vehicle 2008-12-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. armedforces-int.com
3. (PDF). United States Department of Defense. August 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-20.
4. BAE’s LROD Cage Armor. Defense Industry Daily
5. . Department of Defense. 2004-09-10. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-02-06.
6. "200th Buffalo MRAP delivered to military". Upi.com. 2008-06-06. สืบค้นเมื่อ 2011-10-29.
7. http://www.asd-network.com/press_detail/18127/Buffalo_A2_Undergoes_Testing_at_White_Sands.htm^[]
8. . Defenseindustrydaily.com. 2007-05-08. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-06-30. สืบค้นเมื่อ 2011-10-29.
9. . Forceprotection.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-27. สืบค้นเมื่อ 2011-10-29.
10. "Force Protection – Orders for an Additional 48 EROC Vehicles: Blast-Resistant Buffalo and Cougars – Industry News Release". . November 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-04. สืบค้นเมื่อ 2008-11-04.
11. (ในภาษาฝรั่งเศส) [. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-15. สืบค้นเมื่อ 2008-06-28.{{}}: CS1 maint: archived copy as title () La Task Force 700 se prépare au théâtre afghan, 06/28/2008, TTU
12. French Military Orders Buffalo Vehicles from Force Protection, 07/23/2008
13. https://armadainternational.com/wp-content/uploads/2018/01/ARM_COM_1302_03_MineProtectedTransport.pdf ^[]
14. "Major U.S. Arms Sales and Grants to Pakistan Since 2001" (PDF).
15. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-08-05. สืบค้นเมื่อ 2022-03-23.
16. "Force Protection Receives Multiple Buffalo Vehicle Orders". Business Wire. 2008-11-13. สืบค้นเมื่อ 2011-10-29.
17. . ENI. 2007-06-15. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-17. สืบค้นเมื่อ 2007-09-13.

แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ บัฟฟาโล (รถยานเกราะป้องกันทุ่นระเบิด)

• ForceProtection.net
• Army Recognition