บทความนี้ไม่มีจาก |
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
จารึกเบฮิสตูน (มีทั้งเขียนเป็น Behistun, Bisotun, Bistun หรือ Bisutun; เปอร์เซีย: بیستون, เปอร์เซียโบราณ: Bagastana, หมายความว่า "เทวสถาน") เป็นจารึกหลายภาษาโดยใช้อักษรรูปลิ่มและอักษรแอราเมอิกเขียนอยู่บนหน้าผาใน ประเทศอิหร่าน มีความสำคัญมากเพราะนักประวัติศาสตร์ใช้ถอดรหัสอักษรรูปลิ่ม
จักรพรรดิดาไรอัสมหาราชตราจารึกนี้ขึ้น ณ ช่วงใดช่วงหนึ่งในระยะเวลาตั้งแต่การราชาภิเษกพระองค์เมื่อฤดูร้อนของปีที่ 522 ก่อน ค.ศ. ไปจนถึงการสวรรคตของพระองค์เมื่อฤดูใบไม้ร่วงของปีที่ 486 ก่อน ค.ศ. เนื้อหาเริ่มต้นด้วยอัตชีวประวัติสั้น ๆ ของพระองค์รวมถึงบรรพบุรุษและเชื้อสายของพระองค์ จารึกถัดมาเป็นลำดับเหตุการณ์หลังการสวรรคตของพระเจ้าไซรัสมหาราชและพระเจ้าคัมไบเสสที่ 2 ซึ่งพระเจ้าดาไรอัสทำการรบ 19 ครั้งในช่วงเวลา 1 ปี (สิ้นสุดในเดือนธันวาคม ปีที่ 521 ก่อนคริสตกาล) ได้ปราบกบฏต่างๆลงตลอดทั่วจักรวรรดิเปอร์เซีย กบฏที่ลุกฮือขึ้นนี้เป็นผลมาจากการสวรรคตของพระเจ้าไซรัสมหาราชและพระเจ้าคัมไบเสสที่ 2 พระโอรสของพระองค์ พวกกบฏถูกบงการโดยคนหลอกลวงจำนวนมากและคนสมรู้ร่วมคิดของพวกนั้นในเมืองต่างๆทั่วทั้งจักรวรรดิ ซึ่งแต่ละคนได้ประโคมข่าวถึงสถานะการเป็นกษัตริย์ของพระองค์เป็นโมฆะในช่วงสุญญากาศหลังการสวรรคตของพระเจ้าไซรัสมหาราช
พระเจ้าดาไรอัสมหาราชทรงประกาศถึงชัยชนะของพระองค์ในการรบทั้งหมดในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นั้น โดยอ้างความสำเร็จที่พระองค์เชื่อว่าเป็นพระกรุณาธิคุณของพระอหุระมาซดะ
จารึกเหมือนกันคือเขียนด้วยอักษรคูนิฟอร์ม มีสามรูปแบบคือใช้ภาษาที่แตกต่างกันสามแบบคือ ภาษาเปอร์เซียโบราณ ภาษาอีลาไมต์ และภาษาบาบิโลเนียน จารึกเป็นอักษรรูปลิ่ม จารึกหินโรเซตต้าเป็นอักษรไฮเออโรกลีฟอียิปต์ เอกสารที่สำคัญในการถอดระหัสของจารึกที่ขาดหายไป
จารึกสูงประมาณ 15 เมตร กว้าง 25 เมตร บนหน้าผาหินปูนสูง 100 เมตรจากถนนโบราณเชื่อมต่อเมืองหลวงของอาณาจักรบาลิโนเนียกับเมืองหลวงของอาณาจักรมีเดีย (เมืองบาบิลอนกับเมืองเอ็คบาทานา) ข้อความภาษาเปอร์เซียโบราณมี 414 บรรทัดในห้าคอลัมน์ ข้อความภาษาอีลาไมต์รวม 593 บรรทัดใน 8 คอลัมน์ และข้อความภาษาบาบิโลเนียน 112 บรรทัด จารึกมีรูปประกอบคือรูปสลักนูนต่ำของพระเจ้าดาไรอัสที่ 1 มหาราช ทรงถือคันธนูเป็นสัญลักษณ์แห่งราชอาณาจักร พร้อมด้วยพระบาทซ้ายเหยียบอยู่บนหน้าอกของรูปคนนอนอยู่ บุคคลที่นอนหงายอยู่เป็นที่ทราบกันว่าเป็นเคามาตะผู้อ้างสิทธิแห่งบัลลังก์ พระเจ้าดาไรอัสมีทหารองครักษ์สองคนอยู่ทางซ้ายมือ และบุคคลทั้ง 9 ยืนเรียงกันไปทางขวามือ และมีมือถูกผูกไว้และเชือกผูกคอของพวกเขาเป็นการแสดงถึงชนชาติที่ถูกยึดครอง สัญญลักษ์ ฟาราวาหะระ faravahar ลอยอยู่ข้างบน แสดงการประทานพรแก่พระราชาผู้กำลังขอพร รูปบุคคลผู้หนึ่งปรากฏเหมือนถูกสลักขึ้นภายหลังจากสิ่งอื่นๆสำเร็จแล้ว เช่นเดียวกับพระมัสสุ (เครา) ของพระเจ้าดาไรอัสเป็นบล็อกหินที่แยกกันถูกแนบติดยึดด้วยหมุดเหล็กและตะกั่ว
หลังจากการล้มสลายของราชวงศ์จักรวรรดิอะคีเมนิดและรัชทายาทของจักรวรรดิ และการหมดสิ้นไปของอักขระรูปลิ่มของชาวเปอร์เซียโบราณนำไปสู่การเลิกใช้ไป ธรรมชาติของการเขียนจารึกถูกลืมเลือนและคำอธิบายประหลาดกลายเป็นบรรทัดฐานแทนที่เป็นเวลาหนึ่งศตวรรษ ซึ่งถูกนำมาประกอบกับเรื่องราวของพระเจ้าดาไรอัสที่ 1 มหาราช มันเป็นที่เชื่อกันตั้งแต่รัชกาลของพระเจ้า Khosrau II หนึ่งในบรรดากษัตริย์ราชวงศ์อะคีเมนิดพระองค์สุดท้าย ผู้ที่มีพระชนม์ชีพอยู่ในช่วง 1000 ปีหลังจากยุคของพระเจ้าดาไรอัส ที่ 1 มหาราช
จารึกได้ถูกกล่าวถึงโดยนักปราชญ์ชาวกรีกผู้บรรทึกไว้ช่วงเวลาของมันประมาณ 400 ปีก่อนคริสตกาลและได้กล่าวถึงบ่อน้ำและสวนที่อยู่ข้างใต้จารึก เขาสรุปอย่างไม่ถูกต้องว่าจารึกเพื่อเพื่ออุทศถวายพระเจ้าซุสโดยพระราชินี Semiramis of Babylon นักประวัติศาสตร์ชาวโรมันชื่อ ทาสิทัส ยังได้กล่าวถึงมันและรวมไปถึงจารึกของบางส่วนของอนุสาวรีย์เสริมที่หายไปนาน ณ ฐานของหน้าผารวมไปถึงแท่นบูชาเทพเฮอคิวลิส เป็นสิ่งที่ถูกนำกลับคืนของพวกมัน รวมไปถึงรูปปั้นที่อุทิศถึงสร้างในปีที่ 148 ก่อนคริสตกาล เป็นของที่อยู่คงทนพร้อมด้วยจารึกของทาสิทัส Diodorus นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกยังได้เขียนถึง Bagistanon และอ้างว่ามันถูกจารึกไว้โดย Semiramis
ในปี ค.ศ.1598 (พ.ศ. 2141) Robert sherley ชาวอังกฤษได้เห็นจารึกในช่วงภาระกิจทางการทูตที่ไปยังเปอร์เซียในฐานะตัวแทนของออสเตรีย และนำไปเสนอแก่นักวิชาการชาวยุโรปตะวันตก คณะของเขาสรุปอย่างไม่ถูกต้องว่า มันเป็นข้อความคัมภีร์ดั้งเดิมของชาวคริสต์ นายพล Gardanne ชาวฝรั่งเศสคิดว่า มันแสดงถึงพระเยซูและอัครสาวกทั้ง 12 คนของเขา และเซอร์ Robert Ker Porte คิดว่า มันแสดงถึงเผ่าพันธุ์ที่หายไปของชาวอิสราเอลและพระเจ้า Shalmaneser ของอัสซีเรีย นักสำรวจชาวอิตาลีชื่อ Pietro della Valle ได้ไปเยี่ยมชมจารึกในกิจกรรมของนักแสวงบุญในราวปี ค.ศ. 1621
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamid carukebhistun mithngekhiynepn Behistun Bisotun Bistun hrux Bisutun epxresiy بیستون epxresiyobran Bagastana hmaykhwamwa ethwsthan epncarukhlayphasaodyichxksrruplimaelaxksraexraemxikekhiynxyubnhnaphain praethsxihran mikhwamsakhymakephraankprawtisastrichthxdrhsxksrruplimcarukhlakhlayphasabnhnaphaekhaebhistunodyckrphrrdidairxsmharach ckrphrrdidairxsmharachtracaruknikhun n chwngidchwnghnunginrayaewlatngaetkarrachaphieskphraxngkhemuxvdurxnkhxngpithi 522 kxn kh s ipcnthungkarswrrkhtkhxngphraxngkhemuxvduibimrwngkhxngpithi 486 kxn kh s enuxhaerimtndwyxtchiwprawtisn khxngphraxngkhrwmthungbrrphburusaelaechuxsaykhxngphraxngkh carukthdmaepnladbehtukarnhlngkarswrrkhtkhxngphraecaisrsmharachaelaphraecakhmibessthi 2 sungphraecadairxsthakarrb 19 khrnginchwngewla 1 pi sinsudineduxnthnwakhm pithi 521 kxnkhristkal idprabkbttanglngtlxdthwckrwrrdiepxresiy kbtthilukhuxkhunniepnphlmacakkarswrrkhtkhxngphraecaisrsmharachaelaphraecakhmibessthi 2 phraoxrskhxngphraxngkh phwkkbtthukbngkarodykhnhlxklwngcanwnmakaelakhnsmrurwmkhidkhxngphwknninemuxngtangthwthngckrwrrdi sungaetlakhnidpraokhmkhawthungsthanakarepnkstriykhxngphraxngkhepnomkhainchwngsuyyakashlngkarswrrkhtkhxngphraecaisrsmharach phraecadairxsmharachthrngprakasthungchychnakhxngphraxngkhinkarrbthnghmdinchwngkarepliynaeplngkhrngihynn odyxangkhwamsaercthiphraxngkhechuxwaepnphrakrunathikhunkhxngphraxhuramasda carukehmuxnknkhuxekhiyndwyxksrkhunifxrm misamrupaebbkhuxichphasathiaetktangknsamaebbkhux phasaepxresiyobran phasaxilaimt aelaphasababioleniyn carukepnxksrruplim carukhinoresttaepnxksrihexxorklifxiyipt exksarthisakhyinkarthxdrahskhxngcarukthikhadhayip caruksungpraman 15 emtr kwang 25 emtr bnhnaphahinpunsung 100 emtrcakthnnobranechuxmtxemuxnghlwngkhxngxanackrbalioneniykbemuxnghlwngkhxngxanackrmiediy emuxngbabilxnkbemuxngexkhbathana khxkhwamphasaepxresiyobranmi 414 brrthdinhakhxlmn khxkhwamphasaxilaimtrwm 593 brrthdin 8 khxlmn aelakhxkhwamphasababioleniyn 112 brrthd carukmirupprakxbkhuxrupslknuntakhxngphraecadairxsthi 1 mharach thrngthuxkhnthnuepnsylksnaehngrachxanackr phrxmdwyphrabathsayehyiybxyubnhnaxkkhxngrupkhnnxnxyu bukhkhlthinxnhngayxyuepnthithrabknwaepnekhamataphuxangsiththiaehngbllngk phraecadairxsmithharxngkhrkssxngkhnxyuthangsaymux aelabukhkhlthng 9 yuneriyngknipthangkhwamux aelamimuxthukphukiwaelaechuxkphukkhxkhxngphwkekhaepnkaraesdngthungchnchatithithukyudkhrxng syylks farawahara faravahar lxyxyukhangbn aesdngkarprathanphraekphrarachaphukalngkhxphr rupbukhkhlphuhnungpraktehmuxnthukslkkhunphayhlngcaksingxunsaercaelw echnediywkbphramssu ekhra khxngphraecadairxsepnblxkhinthiaeykknthukaenbtidyuddwyhmudehlkaelatakw hlngcakkarlmslaykhxngrachwngsckrwrrdixakhiemnidaelarchthayathkhxngckrwrrdi aelakarhmdsinipkhxngxkkhraruplimkhxngchawepxresiyobrannaipsukarelikichip thrrmchatikhxngkarekhiyncarukthuklumeluxnaelakhaxthibayprahladklayepnbrrthdthanaethnthiepnewlahnungstwrrs sungthuknamaprakxbkberuxngrawkhxngphraecadairxsthi 1 mharach mnepnthiechuxkntngaetrchkalkhxngphraeca Khosrau II hnunginbrrdakstriyrachwngsxakhiemnidphraxngkhsudthay phuthimiphrachnmchiphxyuinchwng 1000 pihlngcakyukhkhxngphraecadairxs thi 1 mharach carukidthukklawthungodynkprachychawkrikphubrrthukiwchwngewlakhxngmnpraman 400 pikxnkhristkalaelaidklawthungbxnaaelaswnthixyukhangitcaruk ekhasrupxyangimthuktxngwacarukephuxephuxxuthsthwayphraecasusodyphrarachini Semiramis of Babylon nkprawtisastrchawormnchux thasiths yngidklawthungmnaelarwmipthungcarukkhxngbangswnkhxngxnusawriyesrimthihayipnan n thankhxnghnapharwmipthungaethnbuchaethphehxkhiwlis epnsingthithuknaklbkhunkhxngphwkmn rwmipthungruppnthixuthisthungsranginpithi 148 kxnkhristkal epnkhxngthixyukhngthnphrxmdwycarukkhxngthasiths Diodorus nkprawtisastrchawkrikyngidekhiynthung Bagistanon aelaxangwamnthukcarukiwody Semiramis inpi kh s 1598 ph s 2141 Robert sherley chawxngkvsidehncarukinchwngpharakicthangkarthutthiipyngepxresiyinthanatwaethnkhxngxxsetriy aelanaipesnxaeknkwichakarchawyuorptawntk khnakhxngekhasrupxyangimthuktxngwa mnepnkhxkhwamkhmphirdngedimkhxngchawkhrist nayphl Gardanne chawfrngesskhidwa mnaesdngthungphraeysuaelaxkhrsawkthng 12 khnkhxngekha aelaesxr Robert Ker Porte khidwa mnaesdngthungephaphnthuthihayipkhxngchawxisraexlaelaphraeca Shalmaneser khxngxssieriy nksarwcchawxitalichux Pietro della Valle idipeyiymchmcarukinkickrrmkhxngnkaeswngbuyinrawpi kh s 1621 bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk