ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
กระสุนขนาด 5.56×45 มม. นาโต้ หรือ 5.56 นาโต้ เป็นกระสุนปืนเล็กยาวชนวนกลางที่ปรับปรุงจากกระสุนขนาด .223 เรมิงตัน โดยบริษัท เอฟ เอ็น (Fabrique Nationale; FN) ประเทศเบลเยียม และเข้าประจำการทั้งในกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ (NATO) ตลอดจนประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกองค์การดังกล่าว เนื่องจากเป็นกระสุน 5.56 มม. นาโต้มีความลงตัวทั้งอำนาจสังหารและอำนาจหยุดยั้งที่ไว้ใจได้ จึงมีปืนเล็กยาวจู่โจมอีกหลายรุ่นที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานกับกระสุน 5.56 มม. ดังกล่าวนี้
ประวัติ
นับแต่ประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศเอกราชจากประเทศอังกฤษได้สำเร็จ กองทัพสหรัฐฯได้ประจำการปืนเล็กยาวแบบคาบศิลาเป็นจำนวนมากจนเมื่อล่วงเข้าสู่ยุคของกระสุนแบบปลอกโลหะและดินควันน้อย กองทัพสหรัฐฯจึงได้ทยอยเปลี่ยนจากปืนคาบศิลามาเป็นปืนเล็กยาวที่ใช้กระสุนแบบครบนัดทั้งหมด โดยได้เลือกประจำการปืนเล็กยาวขนาด .30 นิ้วมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1892 ปืนเล็กยาวรุ่นแรกที่ประจำการ คือ ปืน Krag-Jørgensen ขนาด .30-40 Kragของประเทศนอร์เวย์ แต่เนื่องจากปืนรุ่นนี้มีปัญหาหลายประการ ในภายหลังกองทัพสหรัฐฯจึงได้ซื้อสิทธิบัตรปืนเล็กยาว Gewehr 98 จากบริษัทเมาเซอร์ ประเทศเยอรมนี พร้อมทั้งนำระบบดึงขึ้นเข็มแทงชนวนของปืน Krag มาติดตั้งเพิ่มเข้าไปและผลิตเป็นปืน M1903 Springfield และได้นำกระสุนขนาด 8 มม. เมาเซอร์ (7.92×57 มม.) มาทำการดัดแปลงให้ใช้กับหัวกระสุนขนาด .30 นิ้วเดิมของปืน Krag ต่อไป พร้อมทั้งยืดปลอกออกเป็น 63 มิลลิเมตรทำให้บรรจุดินส่งได้มากขึ้นและเรียกว่ากระสุนใหม่นี้ว่า .30-06 Springfield (7.62×63 มม.)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพฯสหรัฐฯได้เริ่มทยอยโอนปืน M1903 Springfield ไปให้กองกำลังท้องถิ่นและบางส่วนได้นำมาดัดแปลงเป็นปืนเล็กยาวซุ่มยิง M1903A4 ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงสงครามเกาหลี ในขณะเดียวกันก็ได้ทยอยบรรจุปืนเล็กยาวบรรจุเอง M1 Garand เข้าประจำการ โดยปืน M1 Garand ออกแบบโดยจอห์น ซี กาแรนด์ ซึ่งในช่วงแรกออกแบบให้ใช้กับกระสุนขนาด 7×51 มิลลิเมตร (.276 Pedersen) และสามารถบรรจุในคลิปกระสุนได้ 10 นัด แต่เมื่อกองทัพสหรัฐฯรับมาพิจารณาใน ค.ศ.1932 ก็มีคำสั่งให้เปลี่ยนมาใช้กระสุน .30-06 ทำให้ปืนบรรจุกระสุนได้เพียง 8 นัด และรับเข้าประจำการเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1936 ให้ชื่อเป็นทางการว่า United States Rifle, Caliber .30, M1 และใช้งานมาจนถึงสงครามเกาหลี โดยในระหว่างที่ปืน M1 Garand ประจำการนี้ กองทัพสหรัฐฯก็ได้มีโครงการ T20 ทำการดัดแปลงปืน M1 Garand ให้บรรจุกระสุนได้มากขึ้นโดยใช้ซองกระสุน 20 นัดของปืนเล็กกล M1918 Browning Automatic Rifle (BAR) และทำการเพิ่มระบบยิงแบบอัตโนมัติเข้าไปกลายเป็นโครงการ T37
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ได้มีการวิจัยดินขับแบบใหม่ขึ้นจนสำเร็จจนสามารถใช้ในปริมาณน้อยลงแต่ให้แรงขับเท่าเดิม กองทัพสหรัฐฯจึงได้นำกระสุน .30-06 มาทำการลดความยาวปลอกจาก 63 มิลลิเมตรลงเป็น 51 มิลลิเมตร เพื่อนำไปใช้กับปืนในโครงการ T37 กลายเป็นโครงการ T44 แล้วในที่สุดก็ประจำการเป็นปืน M14 และ M15 ในปี ค.ศ. 1957 ส่วนกระสุน 7.62 มิลลิเมตรของปืน M14 ก็กลายเป็นกระสุน ซึ่งเป็นกระสุนมาตรฐานของปืนกลและปืนเล็กยาวหลายรุ่นในปัจจุบัน นอกจากนี้บริษัทวินเชสเตอร์ยังได้นำกระสุน 7.62 มม. นาโต้นี้ไปผลิตขายให้พลเรือนในชื่อว่า .308 Winchester อีกด้วย
แต่แล้วปืน M14 ก็มีอายุการใช้งานได้ไม่นาน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องตัวปืนและกระสุนมีน้ำหนักมากทำให้ทหารพกพาไปได้น้อย อีกทั้งมีปัญหาเรื่องแรงสะท้อนถอยหลังสูง โดยเฉพาะเมื่อแบบอัตโนมัติจะไม่สามารถควบคุมปืนได้เลย ทำให้โครงการวิจัยปืนเล็กยาวที่ใช้กระสุนขนาดหน้าตัดเล็กแต่มีความเร็วสูงมีความชัดเจนขึ้นมาแทน ซึ่งโครงการนี้มีชื่อว่า Project SALVO ตั้งขึ้นมาแต่ ค.ศ. 1948 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างอาวุธประจำกายทหารราบที่ใช้กระสุนขนาด .22 ความเร็วสูง มีระยะหวังผล 300 เมตรขึ้นไป ภายหลังจึงได้มีข้อกำหนดเพิ่มเติมว่าต้องมีน้ำหนักเบา เลือกยิงได้ทั้งแบบทีละนัดและยิงเป็นชุด และต้องยิงเจาะหมวกเหล็กได้ในระยะ 500 เมตร
ใน ค.ศ. 1957 บริษัท Armalite ซึ่งเป็นแผนกอาวุธปืนของบริษัทแฟร์ไชล์ด แอร์คราฟต์ คอร์ป (Fairchild Aircraft Corp.) ได้เข้าร่วมโครงการนี้ โดยยูจีน สโตนเนอร์ได้นำแบบปืน AR-10 ขนาด 7.62 มิลลิเมตรมาย่อส่วนเป็นปืน AR-15 เพื่อใช้กับกระสุน .222 เรมิงตัน ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทเรมิงตัน อาร์มส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพสหรัฐฯให้ออกแบบและวิจัยกระสุนชนิดใหม่ที่จะนำมาใช้กับปืนเล็กยาวเอ็ม 16 โดยทางบริษัทได้นำกระสุน .222 เรมิงตัน ซึ่งเป็นกระสุนปืนเล็กยาวชนวนกลางที่นิยมใช้ในการล่าสัตว์ขนาดเล็กและขนาดกลางของทางบริษัทมาเป็นต้นแบบในการวิจัย ด้วยการยืดปลอกเพื่อเพิ่มปริมาณดินขับกระสุนและในขณะเดียวกันก็เป็นลดแรงดันในรังเพลิงโดยรวมลง โดยเรียกกระสุนใหม่นี้ว่า .222 เรมิงตัน แมกนั่ม ซึ่งเป็นกระสุนที่มีความเร็วต้นสูงขึ้นจากเดิม 3,095 ฟุต/วินาที เพิ่มเป็น 3,250 ฟุต/วินาที และมีแรงดันในรังเพลิงประมาณ 56,000 ปอนด์/ตารางนิ้ว (PSI) โดยทางบริษัทเรมิงตันได้เรียกชื่อกระสุนใหม่นี้ในทางพาณิชย์ว่า .223 เรมิงตัน ส่วนในทางทหารจะเรียกกระสุนนี้ว่า 5.56×45 มม. หรือ 5.56 มม.
ในระยะแรกเข้าประจำการ ทางกองทัพสหรัฐฯยังคงกำหนดให้ใช้คุณสมบัติเดิมของกระสุน 5.56 มม.กับปืนเอ็ม 16 ตามที่บริษัทเรมิงตันออกแบบ โดยมีรหัสที่ใช้ในกองทัพสหรัฐฯว่า M193 ต่อมาองค์กรแซมมี (SAAMI) ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้กำหนดมาตรฐานขึ้นมาใหม่ดังนี้ คือ
- ต้องใช้หัวกระสุนน้ำหนัก 55 เกรน
- มีความเร็วต้นที่ 3,250 ฟุต/วินาที เมื่อยิงจากปืนซึ่งมีลำกล้องยาว 20 นิ้ว หรือเร็วกว่านั้นเมื่อยิงจากปืนที่มีความยาวลำกล้องมากกว่า
- ใช้ยิงกับปืนยาวที่มีระยะครบรอบเกลียว 1 รอบที่ระยะ 12 ฟุตหรืออัตรา 1:12 และ
- มีแรงดันในรังเพลิงไม่เกิน 52,000 ปอนด์/ตารางนิ้ว (PSI) เมื่อใช้ในปืนทหาร และไม่เกิน 55,000 ปอนด์/ตารางนิ้วเมื่อใช้ในปืนพาณิชย์
เมื่อกระสุน 5.56 มม. แบบ M193 เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มประเทศองค์การ NATO ทางบริษัท เอฟ เอ็น จึงได้นำกระสุนแบบ M193 ไปปรับปรุงใหม่ โดยเปลี่ยนหัวกระสุนจากเดิมหนัก 55 เกรนเป็น 62 เกรน และเพิ่มปริมาณดินขับกระสุน ทำให้ได้กระสุนแบบใหม่ที่มีความเร็วต้นเพียง 3,025 ฟุต/วินาที แต่มีแรงดันในรังเพลิงมากถึง 62,366 ปอนด์/ตารางนิ้ว เมื่อทดสอบด้วยวิธี NATO EPVAT หรือ 55,114 ปอนด์/ตารางนิ้ว เมื่อทดสอบด้วยวิธี SCATP 5.56 ซึ่งมีขีปนวิถีที่ดีกว่ากระสุนแบบ M193 มาก และเข้าประจำการในกองทัพเบลเยียมโดยใช้รหัสว่า SS109 ต่อมาเมื่อกระสุนรุ่นดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การนาโต้ จึงได้มีการกำหนดรหัสให้ใหม่ว่า 5.56×45 mm. NATO
ส่วนกองทัพสหรัฐฯเองก็ได้นำกระสุน 5.56 นาโต้แบบ SS109 มาปรับปรุงเป็นกระสุนในรูปแบบของตนเอง โดยเพิ่มแกนเหล็กบริเวณหัวกระสุนเพื่อเพิ่มอำนาจทะลุทะลวงและแต้มสีเขียวบริเวณปลายหัวกระสุนเพื่อเป็นสัญลักษณ์ และกำหนดรหัสที่ใช้ในกองทัพว่า M855 รวมทั้งมีคำสั่งให้บริษัทโคลท์ทำการปรับปรุงปืน M16A1 เป็นปืน M16A2 เพื่อรองรับกระสุนแบบ M855 ในเวลาต่อมา
ความแตกต่างระหว่างกระสุนขนาด 5.56 นาโต้กับกระสุน .223 เรมิงตัน
หลังจากที่ทางบริษัท เอฟ เอ็น ได้นำกระสุน M193 ไปปรับปรุงโดยเปลี่ยนหัวกระสุนจากเดิม 55 เกรนเป็น 62 เกรน จึงทำให้หัวกระสุนมีความยาวเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องใช้กับปืนที่มีระยะครบรอบเกลียวเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยเริ่มแรกกำหนดไว้ที่อัตรา 1:9 ต่อมาเมื่อองค์การนาโต้รับกระสุนส่องวิถีแบบ L110 ของกองทัพเบลเยียมเข้าประจำการ กระสุนรุ่นดังกล่าวมีความยาวหัวกระสุนมากกว่ากระสุน M855 จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนปืนให้มีอัตราครบรอบเกลียวเป็น 1:7 เพื่อรองรับการใช้งานกระสุนดังกล่าว รวมถึงมีการเพิ่มปริมาณดินขับกระสุน ทำปลอกกระสุนให้หนาขึ้นกว่าเดิม และมีการปรับความลาดเอียงของไหล่ปลอกกระสุนเสียใหม่ เพื่อรองรับแรงดันในรังเพลิงที่สูงถึง 62,366 ปอนด์ต่อตารางนิ้วได้ ซึ่งทำให้เมื่อนำกระสุน 5.56 นาโต้ไปใช้กับปืนพาณิชย์ขนาด .223 เรมิงตัน ไหล่กระสุนจะไม่แนบไปกับรังเพลิง ทำให้เมื่อยิงไปแล้วอาจมีอาการปลอกแตกบริเวณคอปลอกหรือมีอาการจานแก็ปแตกทะลุออกมาบริเวณจานท้ายกระสุน รวมถึงทำให้ขอรั้งปลอกหักชำรุดได้
อาวุธปืนเล็กยาวจู่โจมบางส่วนที่ใช้กระสุน 5.56 นาโต้
- Bushmaster ACR
- Fusil Automático Doble
- FAMAS
- FARA 83
- FN SCAR
- HK-416
- HK33
- HK G36
- IMI Tavor TAR-21
- LAPA FA-03
- M16
- M4
- Rheinmetall RH-70
- Rung Paisarn RPS-001
- SA80
- Sterling SAR-87
- SIG SG 550
- Steyr AUG
อ้างอิง
- Stan Christ, "5.56mm NATO Alternatives", Special Weapons Magazine, Semi-Annual #50 2007, p. 52-59.
ดูเพิ่ม
- 5.45×39 มม.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud krasunkhnad 5 56 45 mm naot hrux 5 56 naot epnkrasunpunelkyawchnwnklangthiprbprungcakkrasunkhnad 223 ermingtn odybristh exf exn Fabrique Nationale FN praethsebleyiym aelaekhapracakarthnginklumpraethssmachikxngkhkarsnthisyyapxngknaextaelntikehnuxhruxnaot NATO tlxdcnpraethsthiimichsmachikxngkhkardngklaw enuxngcakepnkrasun 5 56 mm naotmikhwamlngtwthngxanacsngharaelaxanachyudyngthiiwicid cungmipunelkyawcuocmxikhlayrunthiphthnakhunephuxichngankbkrasun 5 56 mm dngklawnicaksayipkhwa 5 56 45 mm NATO SS109 30 30 Winchester 7 62 51 mm NATO hmayehtu krasun 5 56 mm aebb SS109 khxngbristh FN caimaetmsiekhiywthihwkrasunehmuxnkrasun M855 khxngshrth prawtipun M1903 Springfield nbaetpraethsshrthxemrikaprakasexkrachcakpraethsxngkvsidsaerc kxngthphshrthidpracakarpunelkyawaebbkhabsilaepncanwnmakcnemuxlwngekhasuyukhkhxngkrasunaebbplxkolhaaeladinkhwnnxy kxngthphshrthcungidthyxyepliyncakpunkhabsilamaepnpunelkyawthiichkrasunaebbkhrbndthnghmd odyideluxkpracakarpunelkyawkhnad 30 niwmatngaetpi kh s 1892 punelkyawrunaerkthipracakar khux pun Krag Jorgensen khnad 30 40 Kragkhxngpraethsnxrewy aetenuxngcakpunrunnimipyhahlayprakar inphayhlngkxngthphshrthcungidsuxsiththibtrpunelkyaw Gewehr 98 cakbristhemaesxr praethseyxrmni phrxmthngnarabbdungkhunekhmaethngchnwnkhxngpun Krag matidtngephimekhaipaelaphlitepnpun M1903 Springfield aelaidnakrasunkhnad 8 mm emaesxr 7 92 57 mm mathakarddaeplngihichkbhwkrasunkhnad 30 niwedimkhxngpun Krag txip phrxmthngyudplxkxxkepn 63 milliemtrthaihbrrcudinsngidmakkhunaelaeriykwakrasunihmniwa 30 06 Springfield 7 62 63 mm inchwngsngkhramolkkhrngthisxng kxngthphshrthiderimthyxyoxnpun M1903 Springfield ipihkxngkalngthxngthinaelabangswnidnamaddaeplngepnpunelkyawsumying M1903A4 ichinsngkhramolkkhrngthi 2 cnthungsngkhramekahli inkhnaediywknkidthyxybrrcupunelkyawbrrcuexng M1 Garand ekhapracakar odypun M1 Garand xxkaebbodycxhn si kaaernd sunginchwngaerkxxkaebbihichkbkrasunkhnad 7 51 milliemtr 276 Pedersen aelasamarthbrrcuinkhlipkrasunid 10 nd aetemuxkxngthphshrthrbmaphicarnain kh s 1932 kmikhasngihepliynmaichkrasun 30 06 thaihpunbrrcukrasunidephiyng 8 nd aelarbekhapracakaremuxwnthi 6 mkrakhm kh s 1936 ihchuxepnthangkarwa United States Rifle Caliber 30 M1 aelaichnganmacnthungsngkhramekahli odyinrahwangthipun M1 Garand pracakarni kxngthphshrthkidmiokhrngkar T20 thakarddaeplngpun M1 Garand ihbrrcukrasunidmakkhunodyichsxngkrasun 20 ndkhxngpunelkkl M1918 Browning Automatic Rifle BAR aelathakarephimrabbyingaebbxtonmtiekhaipklayepnokhrngkar T37 phayhlngsngkhramolkkhrngthisxng idmikarwicydinkhbaebbihmkhuncnsaerccnsamarthichinprimannxylngaetihaerngkhbethaedim kxngthphshrthcungidnakrasun 30 06 mathakarldkhwamyawplxkcak 63 milliemtrlngepn 51 milliemtr ephuxnaipichkbpuninokhrngkar T37 klayepnokhrngkar T44 aelwinthisudkpracakarepnpun M14 aela M15 inpi kh s 1957 swnkrasun 7 62 milliemtrkhxngpun M14 kklayepnkrasun sungepnkrasunmatrthankhxngpunklaelapunelkyawhlayruninpccubn nxkcaknibristhwinechsetxryngidnakrasun 7 62 mm naotniipphlitkhayihphleruxninchuxwa 308 Winchester xikdwy aetaelwpun M14 kmixayukarichnganidimnan enuxngcakmipyhaeruxngtwpunaelakrasunminahnkmakthaihthharphkphaipidnxy xikthngmipyhaeruxngaerngsathxnthxyhlngsung odyechphaaemuxaebbxtonmticaimsamarthkhwbkhumpunidely thaihokhrngkarwicypunelkyawthiichkrasunkhnadhnatdelkaetmikhwamerwsungmikhwamchdecnkhunmaaethn sungokhrngkarnimichuxwa Project SALVO tngkhunmaaet kh s 1948 odymiwtthuprasngkhthicasrangxawuthpracakaythharrabthiichkrasunkhnad 22 khwamerwsung mirayahwngphl 300 emtrkhunip phayhlngcungidmikhxkahndephimetimwatxngminahnkeba eluxkyingidthngaebbthilandaelayingepnchud aelatxngyingecaahmwkehlkidinraya 500 emtr in kh s 1957 bristh Armalite sungepnaephnkxawuthpunkhxngbristhaefrichld aexrkhraft khxrp Fairchild Aircraft Corp idekharwmokhrngkarni odyyucin sotnenxridnaaebbpun AR 10 khnad 7 62 milliemtrmayxswnepnpun AR 15 ephuxichkbkrasun 222 ermingtn sungphthnaodybristhermingtn xarms praethsshrthxemrika thiidrbmxbhmaycakkxngthphshrthihxxkaebbaelawicykrasunchnidihmthicanamaichkbpunelkyawexm 16 odythangbristhidnakrasun 222 ermingtn sungepnkrasunpunelkyawchnwnklangthiniymichinkarlastwkhnadelkaelakhnadklangkhxngthangbristhmaepntnaebbinkarwicy dwykaryudplxkephuxephimprimandinkhbkrasunaelainkhnaediywknkepnldaerngdninrngephlingodyrwmlng odyeriykkrasunihmniwa 222 ermingtn aemknm sungepnkrasunthimikhwamerwtnsungkhuncakedim 3 095 fut winathi ephimepn 3 250 fut winathi aelamiaerngdninrngephlingpraman 56 000 pxnd tarangniw PSI odythangbristhermingtnideriykchuxkrasunihmniinthangphanichywa 223 ermingtn swninthangthharcaeriykkrasunniwa 5 56 45 mm hrux 5 56 mm inrayaaerkekhapracakar thangkxngthphshrthyngkhngkahndihichkhunsmbtiedimkhxngkrasun 5 56 mm kbpunexm 16 tamthibristhermingtnxxkaebb odymirhsthiichinkxngthphshrthwa M193 txmaxngkhkraesmmi SAAMI praethsshrthxemrika cungidkahndmatrthankhunmaihmdngni khux txngichhwkrasunnahnk 55 ekrn mikhwamerwtnthi 3 250 fut winathi emuxyingcakpunsungmilaklxngyaw 20 niw hruxerwkwannemuxyingcakpunthimikhwamyawlaklxngmakkwa ichyingkbpunyawthimirayakhrbrxbekliyw 1 rxbthiraya 12 futhruxxtra 1 12 aela miaerngdninrngephlingimekin 52 000 pxnd tarangniw PSI emuxichinpunthhar aelaimekin 55 000 pxnd tarangniwemuxichinpunphanichy emuxkrasun 5 56 mm aebb M193 erimidrbkhwamniyminklumpraethsxngkhkar NATO thangbristh exf exn cungidnakrasunaebb M193 ipprbprungihm odyepliynhwkrasuncakedimhnk 55 ekrnepn 62 ekrn aelaephimprimandinkhbkrasun thaihidkrasunaebbihmthimikhwamerwtnephiyng 3 025 fut winathi aetmiaerngdninrngephlingmakthung 62 366 pxnd tarangniw emuxthdsxbdwywithi NATO EPVAT hrux 55 114 pxnd tarangniw emuxthdsxbdwywithi SCATP 5 56 sungmikhipnwithithidikwakrasunaebb M193 mak aelaekhapracakarinkxngthphebleyiymodyichrhswa SS109 txmaemuxkrasunrundngklawidrbkartxbrbepnxyangdicakklumpraethssmachikxngkhkarnaot cungidmikarkahndrhsihihmwa 5 56 45 mm NATO swnkxngthphshrthexngkidnakrasun 5 56 naotaebb SS109 maprbprungepnkrasuninrupaebbkhxngtnexng odyephimaeknehlkbriewnhwkrasunephuxephimxanacthaluthalwngaelaaetmsiekhiywbriewnplayhwkrasunephuxepnsylksn aelakahndrhsthiichinkxngthphwa M855 rwmthngmikhasngihbristhokhlththakarprbprungpun M16A1 epnpun M16A2 ephuxrxngrbkrasunaebb M855 inewlatxma saykrasunkhnad 5 56 naot sungichkbpunkl M249 Minimi sngektwacaiskrasunthrrmda M855 canwn 4 ndtxkrasunsxngwithi M856 canwn 1 ndkhwamaetktangrahwangkrasunkhnad 5 56 naotkbkrasun 223 ermingtnhlngcakthithangbristh exf exn idnakrasun M193 ipprbprungodyepliynhwkrasuncakedim 55 ekrnepn 62 ekrn cungthaihhwkrasunmikhwamyawephimkhun cungcaepntxngichkbpunthimirayakhrbrxbekliywerwkhunkwaedim odyerimaerkkahndiwthixtra 1 9 txmaemuxxngkhkarnaotrbkrasunsxngwithiaebb L110 khxngkxngthphebleyiymekhapracakar krasunrundngklawmikhwamyawhwkrasunmakkwakrasun M855 cungtxngmikarprbepliynpunihmixtrakhrbrxbekliywepn 1 7 ephuxrxngrbkarichngankrasundngklaw rwmthungmikarephimprimandinkhbkrasun thaplxkkrasunihhnakhunkwaedim aelamikarprbkhwamladexiyngkhxngihlplxkkrasunesiyihm ephuxrxngrbaerngdninrngephlingthisungthung 62 366 pxndtxtarangniwid sungthaihemuxnakrasun 5 56 naotipichkbpunphanichykhnad 223 ermingtn ihlkrasuncaimaenbipkbrngephling thaihemuxyingipaelwxacmixakarplxkaetkbriewnkhxplxkhruxmixakarcanaekpaetkthaluxxkmabriewncanthaykrasun rwmthungthaihkhxrngplxkhkcharudidxawuthpunelkyawcuocmbangswnthiichkrasun 5 56 naotBushmaster ACR Fusil Automatico Doble FAMAS FARA 83 FN SCAR HK 416 HK33 HK G36 IMI Tavor TAR 21 LAPA FA 03 M16 M4 Rheinmetall RH 70 Rung Paisarn RPS 001 SA80 Sterling SAR 87 SIG SG 550 Steyr AUGxangxingStan Christ 5 56mm NATO Alternatives Special Weapons Magazine Semi Annual 50 2007 p 52 59 duephim5 45 39 mm bthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk