ไมยราบยักษ์ | |
---|---|
ไมยราบยักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Rosids |
อันดับ: | Fabales |
วงศ์: | Fabaceae |
สกุล: | |
สปีชีส์: | M. pigra |
ชื่อทวินาม | |
Mimosa pigra L. |
ไมยราบยักษ์ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Mimosa pigra, อังกฤษ: pricky wood weed, mimosa, giant sensitive plant, catclaw mimosa, black mimosa) เป็นพืชดอกมีลักษณะเป็นไม้พุ่มในวงศ์ถั่ว เป็นวัชพืชต่างถิ่นประเภทรุกรานที่มีความรุนแรง เนื่องจากสามารถเติบโตและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีความทนต่อสภาพน้ำท่วมและแห้งแล้งได้ดี
ข้อมูลด้านพฤกษศาสตร์
ลำต้น ไมยราบยักษ์ เป็นพืชตระกูลถั่ว และเป็นไม้ยืนต้น มีลำต้นสูงได้มากกว่า 3 เมตรมีหนามออกจากผิว ลำต้นมีกิ่ง กิ่งยาวประมาณ 2-6 เมตร มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและหนาแน่น
ใบ ใบไมยราบยักษ์เป็นใบประกอบแบบขนนก มีทั้งใบหลัก และ ใบย่อย ใบหลักมีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ใบย่อยช่วงแรก มี 7-16 คู่ ใบย่อยช่วงสองมี 25-40 คู่ ก้านใบมีลักษณะเป็นหนามและมีขนสาก ใบของไมยราบยักษ์เมื่อถูกกระตุ้นจะไม่มีการหุบ เหมือนไมยราบทั่วไป
ดอก ดอกไมยราบยักษ์จะออกเป็นช่อหรือที่มักเรียกว่า ช่อดอก ซึ่งมักจะเกิดที่ส่วนปลายสุดของกิ่งและจากซอกของใบ ในดอกย่อยเกสรตัวผู้จะมีสีแดงและสีม่วงซีดเห็นเด่นชัด
ผลและเมล็ด ฝักมีลักษณะแบนยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร และมีขนสากปกคลุมคลุมอย่างหนาแน่น เมล็ดมีลักษณะกลม สีน้ำตาล ขนาดยาว 0.4 x 0.6 ซม. และกว้าง 0.2 x 0.3 ซม. มีปลายเมล็ดด้านหนึ่งแหลมสำหรับงอกออกของต้นอ่อน
ข้อมูลด้านชีววิทยา
ไมยราบยักษ์ มีการขยายพันธุ์แบบอาศัยเพศแต่รายละเอียดเรื่องการผสมพันธุ์ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ไมยราบยักษ์จะมีดอกทุกเดือนแต่ดอกและเมล็ดที่สมบูรณ์จะขึ้นอยู่กับหน้าฝนเป็นหลัก ระยะเวลาจากการเปลี่ยนช่อดอกไปสู่ระยะออกดอก ใช้เวลา 7-9 วันและเป็นฝักที่สมบูรณ์ใช้เวลา 28-30 วัน บนฝักของไมยราบยักษ์มีลักษณะเป็นขนหยาบแข็ง และการแตกออกของฝัก จะแตกเป็นบางส่วนเท่านั้น แต่ละส่วนมีเมล็ด เมล็ดเหล่านี้จะกระจายไปตกหล่นตามแม่น้ำ ลำธารต่างๆ หรือมีสัตว์เป็นตัวนำพาไป
ข้อมูลด้านนิเวศวิทยา
เราสามารถพบไมยราบยักษ์ได้รอบๆบริเวณแหล่งน้ำ หรือที่น้ำท่วมถึง ในปีค.ศ. 1970 ไมราบยักษ์ก็กลายเป็นวัชพืชที่ร้ายแรงที่ส่งผลต่อทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์และในอุทยานแห่งชาติทางตอนเหนือของออสเตรเลีย พวกมันโตไวและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งหรือน้ำท่วมได้ อีกทั้งเมล็ดของมันสามารถลอยน้ำได้
พื้นที่ที่มีการถูกคุกคาม
ต้นกำเนิด
ประเทศอาร์เจนตินา , ประเทศโบลิเวีย , ประเทศบราซิล , ประเทศชิลี , ประเทศโคลอมเบีย , ประเทศเอกวาดอร์ , ประเทศฝรั่งเศส , กลุ่มเกาะกัวเดอลุป , ประเทศกายอานา , ประเทศฮอนดูรัส , ประเทศเม็กซิโก , ประเทศนิการากัว, ประเทศปานามา , ประเทศปารากวัย , ประเทศเปรู , ประเทศซูรินาม , ประเทศอุรุกวัย และ ประเทศเวเนซุเอลา
ต่างประเทศ
ประเทศออสเตรเลีย , สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก , ประเทศอียิปต์ , ประเทศอินโดนีเซีย , ประเทศญี่ปุ่น , สาธารณรัฐเคนยา , ประเทศมาเลเซีย , ประเทศมอริเตเนีย , แอฟริกาใต้ , ประเทศแซมเบีย , ประเทศไทย , ประเทศเวียดนาม
ผลกระทบจากไมยราบยักษ์
ไมยราบยักษ์ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพโดยการเข้าไปแทนที่ที่พื้นที่ชุ่มน้ำ และรุกล้ำพื้นที่ปศุสัตว์และพื้นที่ของชนพื้นเมือง อีกทั้งยังบดบังทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆและเป็นวัชพืชที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วแต่กำจัดได้ยาก จึงแย่งที่อยู่และอาหารของพืชพื้นเมือง ทำให้พืชพื้นเมืองมีจำนวนลดน้อยลง
ประโยชน์
ด้านการเลี้ยงผึ้ง เป็นแหล่งพืชอาหารสำคัญที่ให้เกสรในการผลิตรอลยัลเยลลีทางภาคเหนือของประเทศไทย
ด้านเชื้อเพลิง เมื่อถึงฤดูแล้งสามารถนำกิ่งที่แห้งมาทำเป็นฟืนได้
ด้านยารักษา ในแอฟริกา ไมยราบยักษ์ถูกใช้เป็นยาชูกำลัง และเป็นยาสำหรับโรคท้องร่วง , โรคหนองในและเลือดเป็นพิษ ในแทนซาเนีย ใบที่ถูกบดเป็นผงจะนำไปรวมกับน้ำเพื่อบรรเทาอาการบวม ในแซมเบีย นำรากมาใช้โรยบนผิวหนังที่เป็นโรคเรื้อน ส่วนเมล็ดนำมาใช้ในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับฟัน
การควบคุมการกัดเซาะ สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาการกัดเซาะของน้ำในที่สูงชันได้
ปรับปรุงดิน นำมาใช้เป็นพืชคลุมดินได้
ควบคุมมลพิษ ไมยราบที่เติบโตในบริเวณปากทางเข้าของอ่างเก็บน้ำจะช่วยกำจัดเศษต่างๆที่มากับน้ำก่อนเข้าอ่างเก็บน้ำ
อ้างอิง
- "ไมยราบยักษ์=". puechkaset.com. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2559.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "ไมยราบยักษ์". puechkaset.com. สืบค้นเมื่อ 20 กันยายน 2559.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "Mimosa pigra L". worldagroforestry.org. สืบค้นเมื่อ 18 กันยายน 2559.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))[] - "การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้เทคโนโลยีการผลิต และปริมาณของเกสรกับปริมาณรอยัลเยลลี". kukr.lib.ku.ac.th. สืบค้นเมื่อ 24 กันยายน 2559.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Mimosa pigra ที่วิกิสปีชีส์
- Mimosa pigra 2016-03-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at the Global Invasive Species Database
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
imyrabyksimyrabykskarcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Plantaeimidcdladb Angiospermsimidcdladb Eudicotsimidcdladb Rosidsxndb Fabaleswngs Fabaceaeskul spichis M pigrachuxthwinamMimosa pigra L imyrabyks chuxwithyasastr Mimosa pigra xngkvs pricky wood weed mimosa giant sensitive plant catclaw mimosa black mimosa epnphuchdxkmilksnaepnimphuminwngsthw epnwchphuchtangthinpraephthrukranthimikhwamrunaerng enuxngcaksamarthetibotaelaaephrkracayidxyangrwderw nxkcakniyngmikhwamthntxsphaphnathwmaelaaehngaelngiddikhxmuldanphvkssastrlatn imyrabyks epnphuchtrakulthw aelaepnimyuntn milatnsungidmakkwa 3 emtrmihnamxxkcakphiw latnmiking kingyawpraman 2 6 emtr mikaretibotxyangrwderwaelahnaaenn ib ibimyrabyksepnibprakxbaebbkhnnk mithngibhlk aela ibyxy ibhlkmikhwamyawpraman 20 esntiemtr ibyxychwngaerk mi 7 16 khu ibyxychwngsxngmi 25 40 khu kanibmilksnaepnhnamaelamikhnsak ibkhxngimyrabyksemuxthukkratuncaimmikarhub ehmuxnimyrabthwip dxk dxkimyrabykscaxxkepnchxhruxthimkeriykwa chxdxk sungmkcaekidthiswnplaysudkhxngkingaelacaksxkkhxngib indxkyxyeksrtwphucamisiaedngaelasimwngsidehnednchd phlaelaemld fkmilksnaaebnyawpraman 5 10 esntiemtr kwangpraman 2 esntiemtr aelamikhnsakpkkhlumkhlumxyanghnaaenn emldmilksnaklm sinatal khnadyaw 0 4 x 0 6 sm aelakwang 0 2 x 0 3 sm miplayemlddanhnungaehlmsahrbngxkxxkkhxngtnxxnkhxmuldanchiwwithyaimyrabyks mikarkhyayphnthuaebbxasyephsaetraylaexiyderuxngkarphsmphnthuyngimepnthiaenchd imyrabykscamidxkthukeduxnaetdxkaelaemldthismburncakhunxyukbhnafnepnhlk rayaewlacakkarepliynchxdxkipsurayaxxkdxk ichewla 7 9 wnaelaepnfkthismburnichewla 28 30 wn bnfkkhxngimyrabyksmilksnaepnkhnhyabaekhng aelakaraetkxxkkhxngfk caaetkepnbangswnethann aetlaswnmiemld emldehlanicakracayiptkhlntamaemna lathartang hruxmistwepntwnaphaipkhxmuldanniewswithyaerasamarthphbimyrabyksidrxbbriewnaehlngna hruxthinathwmthung inpikh s 1970 imrabykskklayepnwchphuchthirayaerngthisngphltxthunghyaeliyngstwaelainxuthyanaehngchatithangtxnehnuxkhxngxxsetreliy phwkmnotiwaelathnthantxsphaphaewdlxmthiaehngaelnghruxnathwmid xikthngemldkhxngmnsamarthlxynaid phunthithimikarthukkhukkham tnkaenid praethsxarecntina praethsobliewiy praethsbrasil praethschili praethsokhlxmebiy praethsexkwadxr praethsfrngess klumekaakwedxlup praethskayxana praethshxndurs praethsemksiok praethsnikarakw praethspanama praethsparakwy praethsepru praethssurinam praethsxurukwy aela praethsewensuexla tangpraeths praethsxxsetreliy satharnrthprachathipitykhxngok praethsxiyipt praethsxinodniesiy praethsyipun satharnrthekhnya praethsmaelesiy praethsmxrieteniy aexfrikait praethsaesmebiy praethsithy praethsewiydnamphlkrathbcakimyrabyksimyrabyksthalaykhwamhlakhlaythangchiwphaphodykarekhaipaethnthithiphunthichumna aelaruklaphunthipsustwaelaphunthikhxngchnphunemuxng xikthngyngbdbngthsniyphaphkhxngaehlngthxngethiywtangaelaepnwchphuchthimikarecriyetibotxyangrwderwaetkacdidyak cungaeyngthixyuaelaxaharkhxngphuchphunemuxng thaihphuchphunemuxngmicanwnldnxylngpraoychndankareliyngphung epnaehlngphuchxaharsakhythiiheksrinkarphlitrxlyleyllithangphakhehnuxkhxngpraethsithy danechuxephling emuxthungvduaelngsamarthnakingthiaehngmathaepnfunid danyarksa inaexfrika imyrabyksthukichepnyachukalng aelaepnyasahrborkhthxngrwng orkhhnxnginaelaeluxdepnphis inaethnsaeniy ibthithukbdepnphngcanaiprwmkbnaephuxbrrethaxakarbwm inaesmebiy narakmaichorybnphiwhnngthiepnorkheruxn swnemldnamaichinkaraekpyhaekiywkbfn karkhwbkhumkarkdesaa samarthnamaichaekpyhakarkdesaakhxngnainthisungchnid prbprungdin namaichepnphuchkhlumdinid khwbkhummlphis imyrabthietibotinbriewnpakthangekhakhxngxangekbnacachwykacdesstangthimakbnakxnekhaxangekbnaxangxing imyrabyks puechkaset com subkhnemux 20 knyayn 2559 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help imyrabyks puechkaset com subkhnemux 20 knyayn 2559 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help Mimosa pigra L worldagroforestry org subkhnemux 18 knyayn 2559 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help lingkesiy karsuksakhwamsmphnthrahwangkarichethkhonolyikarphlit aelaprimankhxngeksrkbprimanrxyleylli kukr lib ku ac th subkhnemux 24 knyayn 2559 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Mimosa pigra khxmulthiekiywkhxngkb Mimosa pigra thiwikispichis Mimosa pigra 2016 03 25 thi ewyaebkaemchchin at the Global Invasive Species Database