เมมฟิส (อาหรับ: مَنْف Manf คอปติก: ⲙⲉⲙϥⲓ; กรีก: Μέμφις) เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอียิปต์ล่าง ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง ราว 20 กม. (12 ไมล์) ตอนใต้ของเมืองกิซา
menes | |
ซากปรักหักพังของ the pillared hall แห่งฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 ที่มิต ราฮินา | |
แสดงที่ตั้งภายในประเทศอียิปต์ | |
ที่ตั้ง | , , ประเทศอียิปต์ |
---|---|
ภูมิภาค | อียิปต์ตอนล่าง |
พิกัด | 29°50′41″N 31°15′3″E / 29.84472°N 31.25083°E |
ประเภท | Settlement |
ความเป็นมา | |
ผู้สร้าง | ไม่ทราบ มันมีตั้งแต่สมัยฟาโรห์ไอรี-ฮอร์ |
สร้าง | ก่อนศตวรรษที่ 31 ก่อนคริสตกาล |
ละทิ้ง | ศตวรรษที่ 7 |
สมัย | ถึงยุคกลางตอนต้น |
ชื่อที่ขึ้นทะเบียน | เมมฟิสและสุสาน – กลุ่มพีระมิดตั้งแต่กีซาถึงดาห์ชูร์ |
ประเภท | วัฒนธรรม |
เกณฑ์ | i, iii, vi |
ขึ้นเมื่อ | 1979 (ครั้งที่ 3) |
เลขอ้างอิง | 86 |
แคว้น | รัฐอาหรับ |
ตามตำนานที่เกี่ยวข้องโดย นักประวัติศาสตร์และนักบวชในยุคราชอาณาจักรทอเลมีแห่งอียิปต์โบราณ เมืองก่อตั้งขึ้นโดยฟาโรห์เมเนส เป็นเมืองหลวงของอียิปต์ในสมัยราชอาณาจักรเก่า และเป็นเมืองสำคัญใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตลอดประวัติศาสตร์โบราณ มันครอบครองตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่ปากแม่น้ำไนล์และเป็นที่ที่ตั้งของท่าเรือหลักของอียิปต์ล่างคือ เพรู - เนเฟอร์ มีโรงงานหีบห่อและคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่กระจายอาหารและสินค้าทั่วราชอาณาจักรโบราณ ในช่วงยุคทองเมมฟิสเติบโตขึ้นมาในฐานะศูนย์กลางการค้าการค้าและศาสนาในระดับภูมิภาค
ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าเมมฟิสอยู่ภายใต้การคุ้มครองของ เทพแห่งช่างฝีมือ และมีวิหารของเทพพทาห์ คือ ฮัต-กา-พทาห์ (หมายถึง "สวนแห่งวิญญาณของเทพพทาห์") เป็นโครงสร้างที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง ชื่อของวิหารนี้กลายเป็นภาษากรีกในฐานะ Aί-γυ-πτoς (Ai-gy-ptos) โดยนักประวัติศาสตร์ เชื่อกันว่าเป็นแหล่งกำเนิดของชื่อภาษาอังกฤษยุคใหม่ใน
ประวัติความเป็นมาของเมมฟิสมีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับอียิปต์โบราณ เชื่อกันว่าความสำคัญของเมืองลดลงเพราะการสูญเสียความสำคัญทางเศรษฐกิจในช่วงยุคหลัง จากการเกิดเมืองชายฝั่งอะเล็กซานเดรีย และความสำคัญทางศาสนาที่ลดลงหลังจากการละทิ้งศาสนาโบราณตามคำสั่งของเทสซาโลนิกา (ค.ศ. 380) ซึ่งทำให้คริสต์ศาสนาเป็นศาสนาหลักของจักรวรรดิโรมัน
เมมฟิสขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 2522 ภายใต้ชื่อ เมมฟิสและสุสาน - กลุ่มพีระมิดตั้งแต่กีซาถึงดาห์ชูร์ ร่วมกับกลุ่มพีระมิดแห่งกีซา และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ในบริเวณกีซา ซัคคารา และดาห์ชูร์ที่ส่วนมากสร้างในช่วงราชวงศ์ที่สามถึงหกของยุคราชอาณาจักรเก่า
อ้างอิง
- P. Tallet, D. Laisnay: Iry-Hor et Narmer au Sud-Sinaï (Ouadi 'Ameyra), un complément à la chronologie des expéditios minière égyptiene, in: BIFAO 112 (2012), 381–395, available online
- Bard, Encyclopedia of the Archaeology of Ancient Egypt, p. 694.
- Meskell, Lynn (2002). Private Life in New Kingdom Egypt. Princeton University Press, p.34
- Shaw, Ian (2003). The Oxford History of Ancient Egypt. Oxford University Press, p.279
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
emmfis xahrb م ن ف Manf khxptik ⲙⲉⲙϥⲓ krik Memfis epnemuxnghlwngekaaekkhxngxiyiptlang tngxyuiklkbemuxng raw 20 km 12 iml txnitkhxngemuxngkisaemmfis praethsxiyipt منفmenessakprkhkphngkhxng the pillared hall aehngfaorhaeremsisthi 2 thimit rahinaaesdngthitngphayinpraethsxiyiptthitng praethsxiyiptphumiphakhxiyipttxnlangphikd29 50 41 N 31 15 3 E 29 84472 N 31 25083 E 29 84472 31 25083praephthSettlementkhwamepnmaphusrangimthrab mnmitngaetsmyfaorhixri hxrsrangkxnstwrrsthi 31 kxnkhristkallathingstwrrsthi 7smythungyukhklangtxntnaehlngmrdkolkodyyuensokchuxthikhunthaebiynemmfisaelasusan klumphiramidtngaetkisathungdahchurpraephthwthnthrrmeknthi iii vikhunemux1979 khrngthi 3 elkhxangxing86aekhwnrthxahrb tamtananthiekiywkhxngody nkprawtisastraelankbwchinyukhrachxanackrthxelmiaehngxiyiptobran emuxngkxtngkhunodyfaorhemens epnemuxnghlwngkhxngxiyiptinsmyrachxanackreka aelaepnemuxngsakhyiklthaelemdietxrereniyntlxdprawtisastrobran mnkhrxbkhrxngtaaehnngyuththsastrthipakaemnainlaelaepnthithitngkhxngthaeruxhlkkhxngxiyiptlangkhux ephru enefxr miorngnganhibhxaelakhlngsinkhakhnadihythikracayxaharaelasinkhathwrachxanackrobran inchwngyukhthxngemmfisetibotkhunmainthanasunyklangkarkhakarkhaaelasasnainradbphumiphakh chawxiyiptobranechuxwaemmfisxyuphayitkarkhumkhrxngkhxng ethphaehngchangfimux aelamiwiharkhxngethphphthah khux ht ka phthah hmaythung swnaehngwiyyankhxngethphphthah epnokhrngsrangthioddednthisudaehnghnunginemuxng chuxkhxngwiharniklayepnphasakrikinthana Ai gy ptos Ai gy ptos odynkprawtisastr echuxknwaepnaehlngkaenidkhxngchuxphasaxngkvsyukhihmin prawtikhwamepnmakhxngemmfismikarechuxmoyngxyangiklchidkbxiyiptobran echuxknwakhwamsakhykhxngemuxngldlngephraakarsuyesiykhwamsakhythangesrsthkicinchwngyukhhlng cakkarekidemuxngchayfngxaelksanedriy aelakhwamsakhythangsasnathildlnghlngcakkarlathingsasnaobrantamkhasngkhxngethssaolnika kh s 380 sungthaihkhristsasnaepnsasnahlkkhxngckrwrrdiormn emmfiskhunthaebiynepnmrdkolkodyxngkhkaryuensokinpi 2522 phayitchux emmfisaelasusan klumphiramidtngaetkisathungdahchur rwmkbklumphiramidaehngkisa aelasingkxsrangtang inbriewnkisa skhkhara aeladahchurthiswnmaksranginchwngrachwngsthisamthunghkkhxngyukhrachxanackrekaxangxingP Tallet D Laisnay Iry Hor et Narmer au Sud Sinai Ouadi Ameyra un complement a la chronologie des expeditios miniere egyptiene in BIFAO 112 2012 381 395 available online Bard Encyclopedia of the Archaeology of Ancient Egypt p 694 Meskell Lynn 2002 Private Life in New Kingdom Egypt Princeton University Press p 34 Shaw Ian 2003 The Oxford History of Ancient Egypt Oxford University Press p 279