เทกแดต (อังกฤษ: Take That) คือกลุ่มศิลปินแนวป๊อปจากอังกฤษ สมาชิกวงประกอบไปด้วยมาร์ก โอเวน, ฮาวเวิร์ด ดอนัลด์, แกรี บาร์โลว์ และอดีตสมาชิกวง ร็อบบี้ วิลเลียมส์ และ เจสัน ออเรนจ์ ภายหลังที่พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1990 จึงแยกย้ายกันไป แล้วกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษที่ 2000
เทกแดต | |
---|---|
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ที่เกิด | แมนเชสเตอร์,อังกฤษ |
แนวเพลง | ป็อป, แดนซ์, ป็อปร็อก |
ช่วงปี | พ.ศ. 2533 - 2539 พ.ศ. 2548 - ปัจจุบัน (รวมตัวใหม่) |
ค่ายเพลง | โซนี่ บีเอ็มจี (พ.ศ. 2533 - 2538) ยูนิเวอร์แซล (พ.ศ. 2549 - ปัจจุบัน) |
สมาชิก | มาร์ก โอเวน ฮาวเวิร์ด ดอนัลด์ แกรี บาร์โลว์ |
อดีตสมาชิก | เจสัน ออเรนจ์ ร็อบบี้ วิลเลียมส์ |
เว็บไซต์ | takethat.com |
เทกแดตรวมวงที่เมืองแมนเชสเตอร์ในปี 1990 พวกเขามียอดขายอัลบั้มและซิงเกิลรวมกว่า 30 ล้านก๊อปปี๊ระหว่างปี 1991 - 1996 ในระหว่างปี 1991 อันเป็นปีที่ซิงเกิลแรกของพวกเขาได้เผยแพร่สู่สาธารณชน จนกระทั่งถึงปี 1996 ที่พวกเขาแยกย้ายกันไปนั้น บีบีซีกล่าวถึงเทกแดตว่า "เป็นวงดนตรีบริติชที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในสหราชอาณาจักรนับตั้งแต่วงเดอะบีทเทิลส์ อันเป็นที่รักของทั้งผู้สูงอายุ และวัยรุ่นโดยทั่วไป"[] เพลงแนวแดนซ์ป๊อป และโซลของเทกแดตขึ้นชาร์ตมากมายในสหราชอาณาจักรในช่วงครึ่งทศวรรษแรกของคริสต์ทศวรรษที่ 1990 อัลบั้ม 2 ชุดที่ขายที่ที่ส่วนของพวกเขาคือ Everything Changes ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเมอร์คิวรีในปี 1994 และอัลบั้ม ซึ่งออกจำหน่ายในปี 1996 โดยออลมิวสิกได้กล่าวไว้ว่า "ณ เวลานี้พวกเขาคือซูเปอร์สตาร์ในยุโรป คำถามหลักๆไม่ใช่ต้องมุ่งประเด็นที่ทำอย่างไรถึงมีซิงเกิลยอดนิยม แต่ควรถามว่ามีซิงเกิลขึ้นสู่อันดับหนึ่งเท่าไหร่"
ปัจจุบันวงนี้ได้มีเพลงที่เผยแพร่แล้ว 119 เพลง จาก 7 สตูดิโออัลบั้ม 1 อัลบั้มพิเศษ 2 อัลบั้มรวมเพลง และ 40 ซิงเกิล วงนี้มียอดขายมากกว่า 45 ล้านก๊อปปี๊ โดยมี 28 ซิงเกิลที่ทำอันดับถึง 40 อันดับแรกในชาร์ตของอังกฤษ 17 ซิงเกิลที่ขึ้นถึง 5 อันดับแรก และ 12 ซิงเกิลที่ขึ้นถึงอันดับ 1 โดยมียอดขายอัลบั้มกว่า 20 ล้านก๊อบปี้ นอกจากนี้แล้วทุกอัลบั้มของพวกเขา (ยกเว้นอัลบั้มแรก Take That & Party) นั้นสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ในชาร์ตของอังกฤษได้ทั้งหมด โดยในปี 2011 พวกเขาได้รางวัลบริทอะวอร์ดสในสาขาศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม
ประวัติ
การรวมตัว
ในปี 1990 ไนเจล มาร์ติน-สมิธ (Nigel Martin-Smith) ได้รวมกลุ่มเด็กหนุ่ม 5 คน คือ แกรี บาร์โลว์ อายุ 19 ปี จาก Cheshire ซึ่งได้ทำงานร้องเพลงและเล่นออร์แกนอยู่, ฮาวเวิร์ด ดอนัลด์ อายุ 21 ปี นักเพนท์สีรถ ซึ่งเขาก็รับงานดีเจ แดนเซอร์ และ เป็นโมเดลอยู่, เจสัน ออเรนจ์ อายุ 20 ปี นักวาดรูปและนักตกแต่ง เจสันในขณะนั้นก็รับงานเป็นแดนเซอร์ในรายการโทรทัศน์ที่ชื่อว่า "The Hitman and Her", มาร์ก โอเวน อายุ 18 ปี เสมียนธนาคาร และ ร็อบบี้ วิลเลียมส์ อายุ 16 ปี
ความสำเร็จ
ซิงเกิลแรกของวงนี้คือ "" โดยเพลงนี้สามารถขึ้นไปถึงอันดับที่ 82 ในชาร์ตของอังกฤษ ซิงเกิลต่อๆมาของวงอย่าง "" และ "" สามารถขึ้นไปถึงอันดับ 38 และ 47 ตามลำดับ ซิงเกิลแรกที่ประสบความสำเร็จของพวกเขาคือ "" เป็นเพลงคัฟเวอร์ของวงยุค'70 ชื่อ Tavares ขึ้นชาร์ทในอังกฤษสูงสุดอันดับ 7 ต่อมาเพลง "" สามารถขึ้นไปถึงอันดับ 15 หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเพลงฮิตอย่าง "" เป็นเพลงช้าที่แต่งโดย แกรี โดยสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 7 ในอังกฤษ จากนั้นก็ปล่อยเพลง "" เพลงเก่าของ และ ดอนน่า ซัมเมอร์ ไต่ชาร์ทไปถึงอันดับ 3 หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ออกอัลบั้มแรก ในปี 1992 โดยอัลบั้มนี้ขึ้นไปถึงอันดับ 2 ของชาร์ตอังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นอัลบั้มเดียวของวงที่ไม่สามารถขึ้นถึงอันดับ 1 โดยอัลบั้มนี้ขายได้ประมาณ 1 ล้านชุด
ปี 1993 วงได้ออกอัลบั้มอัลบั้ม Everything Changes โดยเพลงส่วนใหญ่จะแต่งโดยแกรี มีเพลงอันดับ 1 ถึง 4 เพลง [คือเพลง (เพลงนี้เป็นซิงเกิ แรกของวงที่สามารถขึ้นถึงอันดับ 1 ได้สำเร็จ) , (โดยเพลงนี้เป็นเพลงคัฟเวอร์ของแดน ฮาร์ทแมน), และ ] ส่วนซิงเกิลแรก นั้นขึ้นถึงอันดับ 2 ทั้งที่อัลบั้มก่อน Take That and Party ไม่มีซิงเกิลใดขึ้นถึงอันดับ 1 เลย และตัวอัลบั้มก็ขึ้นอันดับ 1 เช่นกัน ซิงเกิลที่ 6 คือ "" หยุดอยู่ที่อันดับ 3 อัลบั้มนี้ขายได้ถึง 3 ล้านชุดทั่วโลก
ปี 1995 วงได้ออกอัลบั้มNobody Else ปล่อยซิงเกิลแรกคือ "" สามรถขึ้นถึงอันดับ 1 ได้อีกครั้ง และซิงเกิลที่ 2 คือ "" เพลงนี้เป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของวง โดยเพลงนี้สามารถขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งของชาร์ตซิงเกิลของ 31 ประเทศ ซึ่งเพลงนี้ถือเป็นเพลงฮิตเพลงเดียวในอเมริกาของเทกแดต โดยขึ้นไปถึงอันดับ 7 โดยอัลบั้มนี้ถือเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทั้งในแแง่ของอัลบั้มและซิงเกิล โดยอัลบั้มนี้ขายได้กว่า 6 ล้านชุดทั่วโลก และทั้ง 3 ซิงเกิลได้ขึ้นถึงอันดับหนึ่งทั้งหมด
การจากไปของ ร็อบบี้ วิลเลียมส์
เริ่มต้นจาก กรกฎาคม 1995 เมื่อร็อบบี้ต้องการที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองที่ดูสดใส และเริ่มคบหา สังสรรค์กับวงโอเอซิส เป็นสาเหตุของข้อขัดแย้ง ทำให้ร็อบบี้ต้องออกจากวงไปในที่สุด แต่ เทกแดต ก็ยังคงโปรโมต เพลงซิงเกิลถัดมา "" (รีมิกซ์โดย จิม สไตน์แมน)ซึ่งยังคงขึ้นถึงอันดับหนึ่งเหมือนเดิม
วงแตก
13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1996 เทกแดต ประกาศยุบวง โดยออกอัลบั้มรวมเพลง Greatest Hits ซึ่งมีเพลง "" (เพลงเก่าของบีจีส์) เป็นซิงเกิลลาของวง ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่ 8 และเพลงสุดท้ายของเทกแดต ยุคแรกที่ไปถึงอันดับหนึ่ง (ทั้งนี้ วงได้ออกอีก 2 ซิงเกิล นั่นคือ "Every Guy" ซึ่งเป็นซิงเกิลโปรโมต และ "Sunday To Saturday" ที่ปล่อยเฉพาะในญี่ปุ่น) อัลบั้มนี้ขายได้กว่า 3 ล้านชุดทั่วโลก
แยกย้ายกันไป
- แกรี บาร์โลว์
- ออกอัลบั้มเดี่ยวในปี 1997 กับอัลบั้ม Open Road มีเพลงฮิตอันดับ 1 ในอังกฤษ 2 เพลงคือ Forever Love และ Love Won´t Wait ส่วนอัลบั้มที่ 2 Twelve Months, Eleven Days ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จากนั้น แกรี ก็ออกมาเปิดสตูดิโอของตัวเอง แต่งเพลงและโปรดิวซ์เพลงให้ศิลปิน เช่น ดอนนี ออสมอนด์, บลู และ เดลตา กู๊ดเรม เป็นต้น โดยในปี 2013 เขาได้ออกอัลบั้ม Since I Saw You Last โดยขายได้เกือบหนึ่งล้านชุด
- ร็อบบี้ วิลเลียมส์
- ออกซิงเกิลแรก Freedom เพลงเก่าของ จอร์จ ไมเคิล โดยในอัลบั้มแรกของเขา Life thru a Lens นั้นสามารถไปถึงอันดับ 1 ของชาร์ตอังกฤษ ร็อบบี้ ประสบความสำเร็จในการออกอัลบั้มอย่างมาก โดยได้ออกผลงานอย่าง I've Been Expecting You, Sing When You're Winning, Escapology, Intensive Care, Rudebox, Reality Killed the Video Star, Take the Crown และ Swings Both Ways โดย 9 จาก 10 อัลบั้มเดี่ยวของร็อบบี้นั้นสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ของชาร์ตอังกฤษ เขามีเพลงอันดับ 1 ในอังกฤษ 7 เพลง อัลบั้มและซิงเกิลของร็อบบี้สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 77 ล้านชุดทั่วโลก ทำให้ร็อบบี้เป็นศิลปินชายจากอังกฤษที่มียอดขายมากที่สุด
- มาร์ก โอเวน
- ออกอัลบั้มเดี่ยวทั้งหมด 4 อัลบั้ม คือ Green Man, In Your Own Time, How the Mighty Fall และ The Art of Doing Nothing ในปี2002 มาร์กเป็นผู้ชนะเลิศในรายการพิเศษของบิ๊ก บราเธอร์ในอังกฤษ ชื่อ "Celebrity Big Brother"
- ฮาวเวิร์ด ดอนัลด์
- ได้บันทึกเสียงซิงเกิลไว้ แต่ไม่ได้ออกวางขาย เขาได้หันไปเป็นดีเจ โดยเล่นในคลับในอังกฤษและเยอรมนี
- เจสัน ออเรนจ์
- ได้รับบทแสดงโดยเล่นเป็น Brent Moyer ใน Lynda La Plante's Killer Net ออกอากาศช่อง UK Channel 4 และเขาได้แสดงใน King's Head Theatre ในลอนดอน
การรวมตัวอีกครั้ง
เทกแดต ยังติดสัญญาที่จะต้องออกอัลบั้มอีก 1 อัลบั้ม ถ้าไม่ออกอัลบั้มจะถูกฟ้องร้องจากทางค่ายเพลง ซึ่งเป็นที่มาที่จะต้องออกอัลบั้มรวมเพลงชุดที่ 2 และ การโปรโมตอัลบั้มที่เป็นเงื่อนไขตามมา ฮาวเวิร์ดและเจสัน ตกลงเงื่อนไขทันที ตามมาด้วย มาร์กและแกรี โดยมาร์กได้เข้าไปหาร็อบบี้เพื่อเจรจาเรื่องนี้ โดยทุกคนคิดว่าร็อบบี้คงไม่ตกลง แต่ร็อบบี้ก็ได้สร้างความประหลาดใจ เมื่อเขาตกลงที่จะปรากฏตัวในฟิล์มโฆษณา แต่ต้องไม่พร้อมกับวง
16 พฤศจิกายน 2005 สมาชิก 4 คนของเทกแดต กลับมาอีกครั้งนึงในรายการทางช่อง ITV1 พูดคุยถึงการหายไปใน 10 ปีที่ผ่านมา ทั้ง 4 คนได้บันทึกสารคดี โดยนี่เป็นการทำให้คิดถึงการรวมตัวกันใหม่ และถูกย้ำให้ชัดเจนขึ้นในการเป็นผู้เข้าชิงในรายการ Rose d'Or award ที่มีผู้ชมกว่า 7 ล้านคน 25 พฤศจิกายน 2005 มีการแถลงข่าวว่า เทกแดต (4 คน) จะออกทัวร์คอนเสิร์ตในปี 2006 โดยใช้ชื่อว่า "The Ultimate Tour 2006" เริ่มต้นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2006 ซึ่งมีแขกรับเชิญอย่าง เบเวอร์ลีย์ ไนท์, ลูลู และ พุซซี่แคท ดอลส์ ที่มาร่วมโชว์ในดับลิน รวมไปถึง นอกจากนี้ ร็อบบี้ ยังได้ร่วมโชว์ในเพลง "Could it be Magic" โดยผ่านการบันทึกภาพในระบบฮอโลแกรมด้วย
อัลบั้มรวมเพลงชุดที่ 2 Never Forget – The Ultimate Collection พร้อมกับเพลงที่ไม่เคยออกมาก่อนอย่าง "Today I've Lost You" อัลบั้มรวมเพลงนี้ขายได้กว่า 2 ล้านชุด
อัลบั้ม Beautiful World
9 พฤษภาคม 2006 เทกแดต กลับมาอีกครั้งโดยเซ็นสัญญากับ Polydor Records ด้วยเงิน 3 ล้านปอนด์ โดยได้ออกซิงเกิลแรก "" ในวันที่ 13 พฤศจิกายน เพลงนี้ขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตอังกฤษในทันที ทำให้เป็นเพลงอันดับ 1 เพลงที่ 9 ของวงที่สามารถขึ้นถึงอันดับหนึ่งได้ โดยทางวงได้ออกอัลบั้ม Beautiful World ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2006 ซึ่งอัลบั้มนี้ขายได้กว่า 2.8 ล้านชุด ทำให้มันกลายเป็นอัลบั้มของวงที่ขายดีที่สุดในอังกฤษ
14 กุมภาพันธ์ 2007 เทกแดตได้ร่วมแสดงในงานบริท อวอร์ดส โดยเพลง Patience ชนะในสาขา British Single
4 มีนาคม 2007 เพลง "" ซิงเกิลที่ 2 จากอัลบั้มนี้ขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ ซึ่งถือเป็นเพลงอันดับ 1 เพลงที่ 10 ของวง แซงหน้าวงสไปซ์ เกิร์ลส และ แอบบ้า (ขึ้นอันดับ 1 ทั้งหมด 9 เพลง) นอกจากนี้แล้วทางวงได้ออกอีก 2 ซิงเกิล คือ (เข้าอันดับที่ 17 ของชาร์ตอังกฤษ) และ (ออกเฉพาะในภาคพื้นยุโรป)
หลังจากเทกแดตได้ทัวร์เสร็จ ทางวงได้ทำการเซ็นสัญญากับ พาราเมาท์ พิกเจอร์ส เพื่อแต่งเพลง เพลงสำหรับภาพยนตร์เรื่อง "" นำแสดงโดย แคลร์ เดนส์ โรเบิร์ต เดอนิโร และ เซียนนา มิลเลอร์ กำกับโดย แมทธิว วอห์น ถือเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เพลงแรกของเทกแดต เพลงนี้เข้าถึงอันดับที่ 2 ของชาร์ตอังกฤษ
อัลบั้ม The Circus
24 พฤศจิกายน 2008 ทางวงได้ออกซิงเกิล โดยสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ทำให้กลายเป็นซิงเกิลที่ 11 ที่สามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ก่อนที่จะออกอัลบั้มในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา แล้วได้ออกอีก 4 ซิงเกิล คือ (เข้าชาร์ตในอันดับที่ 14) , (อันดับ 97) , (อันดับ 9) และ (อันดับ 123) โดยอัลบั้มThe Circusมียอดขายในอังกฤษกว่า 2 ล้านก๊อปปี้
อัลบั้ม Progress และ Progressed
วันที่ 15 กรกฎาคม 2010 ร็อบบี้ วิลเลียมส์ได้กลับมาอยู่ในวง ทำให้เทก แดท มีสมาชิกครบ 5 คนอีกครั้ง โดยทางวงได้ออกอัลบั้มชุดที่หกProgressในวันที่ 15 พฤศจิกายน โดยได้ออก 2 ซิงเกิล ได้แก่ (เข้าชาร์ตในอันดับที่ 2) และ (อันดับ 28) แม้จะไม่มีซิงเกิลไหนที่ขึ้นถึงอันดับ 1 เลย แต่ตัวอัลบั้มนั้นทำยอดขายได้กว่า 4 ล้านชุด อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีที่สุดของวง และยังเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดในอังกฤษประจำปี 2010 อีกด้วย ต่อมาในวันที่ 10 มิถุนายน 2011 ทางวงได้ออกอัลบั้มพิเศษ Progressed โดยเทกแดตได้ออกผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง X-Men: First Class ชื่อเพลง (อันดับ 15) โดยในเวลาต่อมาได้ออกผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ ชื่อ (อันดับ 88) ด้วย โดยในอัลบั้มนี้ ทางวงได้ออกซิงเกิลเพื่อเป็นการโปรโมตงาน Red Nose Day ประจำปี 2011 ของมูลนิธิ Comic Relief ในชื่อ (อันดับ 52) และทางวงได้ออกซิงเกิลเพื่อโปรโมตการทัวร์คอนเสิร์ต Progress Live ของพวกเขาในชื่อ Eight Letters (อันดับ 176) ทั้งนี้ เพลง SOS สามารถขึ้นไปถึงอันดับที่ 91 ในชาร์ตของอังกฤษ ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงเดียวของวงที่สามารถขึ้นไปถึง 100 อันดับแรกของชาร์ต ทั้งๆที่ไม่ใช่ซิงเกิล
แยกทำงานเดี่ยวชั่วคราว
- แกรี บาร์โลว์
- ได้ออกอัลบั้มเดี่ยว Sing และ Since I Saw You Last และไปเป็นกรรมการในรายการ The X Factor UK
- ร็อบบี วิลเลียมส์
- ได้ออกอัลบั้มเดี่ยว Take The Crown และ Swing Both Ways
- มาร์ก โอเวน
- ได้ออกอัลบั้มเดี่ยว The Art Of Doing Nothing
- ฮาวเวิร์ด ดอนัลด์
- ได้ไปเป็นกรรมการในรายการในเยอรมนี Got To Dance
- เจสัน ออเรนจ์
- ได้ออกจากวงในปี 2014
อัลบั้ม III
หลังจากที่ร็อบบี วิลเลียมส์ได้ทำงานกับวงเป็นครั้งสุดท้ายในปี 2012 และเจสัน ออเรนจ์ได้ออกจากวงในปี 2014 ทำให้เทกแดตมีสมาชิกเพียงสามคนเท่านั้น โดยในวันที่ 14 พฤศจิกายน ทางวงได้ออกซิงเกิลที่ทีชื่อว่า โดยตัวซิงเกิลนั้นขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 ได้สำเร็จ ทำให้มันกลายเป็นซิงเกิลที่ 12 ที่สามารถขึ้นไปถึงอันดับที่ 1 ได้สำเร็จ และได้ออกอัลบั้มในวันที่ 28 พฤศจิกายน โดยทางวงได้ออกงานเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง คิงส์แมน โคตรพิทักษ์บ่มพยัคฆ์ ชื่อว่า ในวันที่ 2 มีนาคม 2015 ทางวงได้ออกซิงเกิลที่สองของอัลบั้ม ชื่อ และในวันที่ 8 มิถุนายน ก็ได้ออกซิงเกิลที่สามในชื่อ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน เทกแดทได้ออกอัลบั้มเวอร์ชันใหม่ โดยได้ออกซิงเกิล ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม เพลงนี้ขึ้นถึงอันดับที่ 56
สตูดิโออัลบั้มใหม่ อัลบั้มรวมเพลงใหม่ และทัวร์รอบโลก
ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2016 แกรี บาร์โลว์ได้ประกาศว่าทางวงกำลังทำอัลบั้มใหม่ โดจะออกวางแผงในปีนี้ พร้อมกับออกอัลบั้มรวมฮิตใหม่ในปี 2017 โดยได้กล่าวว่าร็อบบี วิลเลียมส์อาจมาร่วมแสดงทัวร์รอบโลกเพื่อฉลองการครบรอบ 25 ปี ในการออกอัลบั้มแรกของวง (Take That & Party)
ในวันที่ 21 ตุลาคม 2016 ได้มีการประกาศว่าจะมีอัลบั้มใหม่ออกวางแผงในชื่อ โดยออกวางแผงในวันที่ 24 มีนาคม 2017 และจะมีการออกทัวร์ในปีเดียวกัน พร้อมกับออกซิงเกิลแรกของอัลบั้มในชื่อ Giants โดยสามารถขึ้นไปถึงอันดับที่ 13 ของชาร์ตอังกฤษ
สมาชิก
- สมาชิกปัจจุบัน
- แกรี บาร์โลว์ (1990–96, 2005–ปัจจุบัน)
- ฮาวเวิร์ด ดอนัลด์ (1990–96, 2005–ปัจจุบัน)
- มาร์ก โอเวน (1990–96, 2005–ปัจจุบัน)
- สมาชิกในอดีต
- เจสัน ออเรนจ์ (1990–96, 2005–14)
- ร็อบบี วิลเลียมส์ (1990–95, 2010–12)
ไทม์ไลน์
ผลงาน
ดูบทความหลักที่:ผลงานของเทกแดท และ รายชื่อเพลงที่บันทึกโดยเทกแดต
สตูดิโออัลบั้ม
- (ปี 1992)
- Everything Changes (ปี 1993)
- Nobody Else (ปี 1995)
- Beautiful World (ปี 2006)
- The Circus (ปี 2008)
- Progress (ปี 2010)
- III (ปี 2014)
- (ปี 2017)
อัลบั้มพิเศษ
- Progressed (ปี 2011)
- III - 2015 Edition (ปี 2015)
อัลบั้มรวมเพลง
- Take That: Greatest Hits (ปี 1996)
- Never Forget – The Ultimate Collection (ปี 2005)
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-09-18. สืบค้นเมื่อ 2009-01-02.
- "สำเนาที่เก็บถาวร". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-21. สืบค้นเมื่อ 2012-07-21.
- ข่าวมาร์ก โอเวน ชนะรายการ บิ๊ก บราเธอร์ ใน BBC News
- ข่าวร็อบบี้ในคอนเสิร์ต เทกแดตใน rte.ie
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-12. สืบค้นเมื่อ 2009-01-02.
- Take That 2008-05-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Biography ของ เทกแดต ใน YahooMusic
- Biography ใน TakeThatTV 2007-04-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ 2008-10-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เทกแดต ที่ มายสเปซ
- เทกแดต ที่เฟซบุ๊ก
- เทกแดต ที่อินสตาแกรม
- เทกแดต ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
- เทกแดต ที่ติ๊กต็อก
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ethkaedt xngkvs Take That khuxklumsilpinaenwpxpcakxngkvs smachikwngprakxbipdwymark oxewn hawewird dxnld aekri barolw aelaxditsmachikwng rxbbi wileliyms aela ecsn xxernc phayhlngthiphwkekhaprasbkhwamsaercxyangmakinchwngkhristthswrrsthi 1990 cungaeykyayknip aelwklbmarwmtwknxikkhrnginchwngklangkhristthswrrsthi 2000ethkaedtethkaedtkhnaaesdngxyuthioxld aethrffxrd emuxngaemnechsetxr xngkvs ineduxnmithunaynkhxmulphunthanthiekidaemnechsetxr xngkvsaenwephlngpxp aedns pxprxkchwngpiph s 2533 2539 ph s 2548 pccubn rwmtwihm khayephlngosni biexmci ph s 2533 2538 yuniewxraesl ph s 2549 pccubn smachikmark oxewn hawewird dxnld aekri barolwxditsmachikecsn xxernc rxbbi wileliymsewbisttakethat com ethkaedtrwmwngthiemuxngaemnechsetxrinpi 1990 phwkekhamiyxdkhayxlbmaelasingekilrwmkwa 30 lankxppirahwangpi 1991 1996 inrahwangpi 1991 xnepnpithisingekilaerkkhxngphwkekhaidephyaephrsusatharnchn cnkrathngthungpi 1996 thiphwkekhaaeykyayknipnn bibisiklawthungethkaedtwa epnwngdntribritichthiprasbkhwamsaercsungsudinshrachxanackrnbtngaetwngedxabithethils xnepnthirkkhxngthngphusungxayu aelawyrunodythwip txngkarxangxing ephlngaenwaednspxp aelaoslkhxngethkaedtkhunchartmakmayinshrachxanackrinchwngkhrungthswrrsaerkkhxngkhristthswrrsthi 1990 xlbm 2 chudthikhaythithiswnkhxngphwkekhakhux Everything Changes sungidrbkaresnxchuxekhachingrangwlemxrkhiwriinpi 1994 aelaxlbm sungxxkcahnayinpi 1996 odyxxlmiwsikidklawiwwa n ewlaniphwkekhakhuxsuepxrstarinyuorp khathamhlkimichtxngmungpraednthithaxyangirthungmisingekilyxdniym aetkhwrthamwamisingekilkhunsuxndbhnungethaihr pccubnwngniidmiephlngthiephyaephraelw 119 ephlng cak 7 studioxxlbm 1 xlbmphiess 2 xlbmrwmephlng aela 40 singekil wngnimiyxdkhaymakkwa 45 lankxppi odymi 28 singekilthithaxndbthung 40 xndbaerkinchartkhxngxngkvs 17 singekilthikhunthung 5 xndbaerk aela 12 singekilthikhunthungxndb 1 odymiyxdkhayxlbmkwa 20 lankxbpi nxkcakniaelwthukxlbmkhxngphwkekha ykewnxlbmaerk Take That amp Party nnsamarthkhunipthungxndb 1 inchartkhxngxngkvsidthnghmd odyinpi 2011 phwkekhaidrangwlbrithxawxrdsinsakhasilpinklumyxdeyiymprawtikarrwmtw inpi 1990 inecl martin smith Nigel Martin Smith idrwmklumedkhnum 5 khn khux aekri barolw xayu 19 pi cak Cheshire sungidthanganrxngephlngaelaelnxxraeknxyu hawewird dxnld xayu 21 pi nkephnthsirth sungekhakrbngandiec aednesxr aela epnomedlxyu ecsn xxernc xayu 20 pi nkwadrupaelanktkaetng ecsninkhnannkrbnganepnaednesxrinraykarothrthsnthichuxwa The Hitman and Her mark oxewn xayu 18 pi esmiynthnakhar aela rxbbi wileliyms xayu 16 pi khwamsaerc singekilaerkkhxngwngnikhux odyephlngnisamarthkhunipthungxndbthi 82 inchartkhxngxngkvs singekiltxmakhxngwngxyang aela samarthkhunipthungxndb 38 aela 47 tamladb singekilaerkthiprasbkhwamsaerckhxngphwkekhakhux epnephlngkhfewxrkhxngwngyukh 70 chux Tavares khuncharthinxngkvssungsudxndb 7 txmaephlng samarthkhunipthungxndb 15 hlngcaknnktammadwyephlnghitxyang epnephlngchathiaetngody aekri odysamarthkhunipthungxndb 7 inxngkvs caknnkplxyephlng ephlngekakhxng aela dxnna smemxr itcharthipthungxndb 3 hlngcaknnphwkekhakidxxkxlbmaerk Take That amp Party inpi 1992 odyxlbmnikhunipthungxndb 2 khxngchartxngkvs sungthuxwaepnxlbmediywkhxngwngthiimsamarthkhunthungxndb 1 odyxlbmnikhayidpraman 1 lanchud pi 1993 wngidxxkxlbmxlbm Everything Changes odyephlngswnihycaaetngodyaekri miephlngxndb 1 thung 4 ephlng khuxephlng ephlngniepnsingeki aerkkhxngwngthisamarthkhunthungxndb 1 idsaerc odyephlngniepnephlngkhfewxrkhxngaedn harthaemn aela swnsingekilaerk nnkhunthungxndb 2 thngthixlbmkxn Take That and Party immisingekilidkhunthungxndb 1 ely aelatwxlbmkkhunxndb 1 echnkn singekilthi 6 khux hyudxyuthixndb 3 xlbmnikhayidthung 3 lanchudthwolk pi 1995 wngidxxkxlbmNobody Else plxysingekilaerkkhux samrthkhunthungxndb 1 idxikkhrng aelasingekilthi 2 khux ephlngniepnephlngthiprasbkhwamsaercmakthisudkhxngwng odyephlngnisamarthkhunipthungxndbhnungkhxngchartsingekilkhxng 31 praeths sungephlngnithuxepnephlnghitephlngediywinxemrikakhxngethkaedt odykhunipthungxndb 7 odyxlbmnithuxepnxlbmthiprasbkhwamsaercmakthisudinthnginaeaengkhxngxlbmaelasingekil odyxlbmnikhayidkwa 6 lanchudthwolk aelathng 3 singekilidkhunthungxndbhnungthnghmd karcakipkhxng rxbbi wileliyms erimtncak krkdakhm 1995 emuxrxbbitxngkarthicaepliynphaphlksnkhxngtwexngthidusdis aelaerimkhbha sngsrrkhkbwngoxexsis epnsaehtukhxngkhxkhdaeyng thaihrxbbitxngxxkcakwngipinthisud aet ethkaedt kyngkhngopromt ephlngsingekilthdma rimiksody cim sitnaemn sungyngkhngkhunthungxndbhnungehmuxnedim wngaetk 13 kumphaphnth kh s 1996 ethkaedt prakasyubwng odyxxkxlbmrwmephlng Greatest Hits sungmiephlng ephlngekakhxngbicis epnsingekillakhxngwng sungephlngniepnephlngthi 8 aelaephlngsudthaykhxngethkaedt yukhaerkthiipthungxndbhnung thngni wngidxxkxik 2 singekil nnkhux Every Guy sungepnsingekilopromt aela Sunday To Saturday thiplxyechphaainyipun xlbmnikhayidkwa 3 lanchudthwolk aeykyayknip aekri barolw xxkxlbmediywinpi 1997 kbxlbm Open Road miephlnghitxndb 1 inxngkvs 2 ephlngkhux Forever Love aela Love Won t Wait swnxlbmthi 2 Twelve Months Eleven Days imprasbkhwamsaercethathikhwr caknn aekri kxxkmaepidstudioxkhxngtwexng aetngephlngaelaoprdiwsephlngihsilpin echn dxnni xxsmxnd blu aela edlta kuderm epntn odyinpi 2013 ekhaidxxkxlbm Since I Saw You Last odykhayidekuxbhnunglanchudrxbbi wileliyms xxksingekilaerk Freedom ephlngekakhxng cxrc imekhil odyinxlbmaerkkhxngekha Life thru a Lens nnsamarthipthungxndb 1 khxngchartxngkvs rxbbi prasbkhwamsaercinkarxxkxlbmxyangmak odyidxxkphlnganxyang I ve Been Expecting You Sing When You re Winning Escapology Intensive Care Rudebox Reality Killed the Video Star Take the Crown aela Swings Both Ways ody 9 cak 10 xlbmediywkhxngrxbbinnsamarthkhunipthungxndb 1 khxngchartxngkvs ekhamiephlngxndb 1 inxngkvs 7 ephlng xlbmaelasingekilkhxngrxbbisamarththayxdkhayidmakkwa 77 lanchudthwolk thaihrxbbiepnsilpinchaycakxngkvsthimiyxdkhaymakthisudmark oxewn xxkxlbmediywthnghmd 4 xlbm khux Green Man In Your Own Time How the Mighty Fall aela The Art of Doing Nothing inpi2002 markepnphuchnaelisinraykarphiesskhxngbik braethxrinxngkvs chux Celebrity Big Brother hawewird dxnld idbnthukesiyngsingekiliw aetimidxxkwangkhay ekhaidhnipepndiec odyelninkhlbinxngkvsaelaeyxrmniecsn xxernc idrbbthaesdngodyelnepn Brent Moyer in Lynda La Plante s Killer Net xxkxakaschxng UK Channel 4 aelaekhaidaesdngin King s Head Theatre inlxndxnkarrwmtwxikkhrng ethkaedt yngtidsyyathicatxngxxkxlbmxik 1 xlbm thaimxxkxlbmcathukfxngrxngcakthangkhayephlng sungepnthimathicatxngxxkxlbmrwmephlngchudthi 2 aela karopromtxlbmthiepnenguxnikhtamma hawewirdaelaecsn tklngenguxnikhthnthi tammadwy markaelaaekri odymarkidekhaipharxbbiephuxecrcaeruxngni odythukkhnkhidwarxbbikhngimtklng aetrxbbikidsrangkhwamprahladic emuxekhatklngthicaprakttwinfilmokhsna aettxngimphrxmkbwng 16 phvscikayn 2005 smachik 4 khnkhxngethkaedt klbmaxikkhrngnunginraykarthangchxng ITV1 phudkhuythungkarhayipin 10 pithiphanma thng 4 khnidbnthuksarkhdi odyniepnkarthaihkhidthungkarrwmtwknihm aelathukyaihchdecnkhuninkarepnphuekhachinginraykar Rose d Or award thimiphuchmkwa 7 lankhn 25 phvscikayn 2005 mikaraethlngkhawwa ethkaedt 4 khn caxxkthwrkhxnesirtinpi 2006 odyichchuxwa The Ultimate Tour 2006 erimtntngaeteduxnemsaynthungmithunayn 2006 sungmiaekhkrbechiyxyang ebewxrliy inth lulu aela phussiaekhth dxls thimarwmochwindblin rwmipthung nxkcakni rxbbi yngidrwmochwinephlng Could it be Magic odyphankarbnthukphaphinrabbhxolaekrmdwy xlbmrwmephlngchudthi 2 Never Forget The Ultimate Collection phrxmkbephlngthiimekhyxxkmakxnxyang Today I ve Lost You xlbmrwmephlngnikhayidkwa 2 lanchud xlbm Beautiful World 9 phvsphakhm 2006 ethkaedt klbmaxikkhrngodyesnsyyakb Polydor Records dwyengin 3 lanpxnd odyidxxksingekilaerk inwnthi 13 phvscikayn ephlngnikhunxndb 1 khxngchartxngkvsinthnthi thaihepnephlngxndb 1 ephlngthi 9 khxngwngthisamarthkhunthungxndbhnungid odythangwngidxxkxlbm Beautiful World inwnthi 26 phvscikayn 2006 sungxlbmnikhayidkwa 2 8 lanchud thaihmnklayepnxlbmkhxngwngthikhaydithisudinxngkvs 14 kumphaphnth 2007 ethkaedtidrwmaesdnginnganbrith xwxrds odyephlng Patience chnainsakha British Single 4 minakhm 2007 ephlng singekilthi 2 cakxlbmnikhunxndb 1 inxngkvs sungthuxepnephlngxndb 1 ephlngthi 10 khxngwng aesnghnawngsips ekirls aela aexbba khunxndb 1 thnghmd 9 ephlng nxkcakniaelwthangwngidxxkxik 2 singekil khux ekhaxndbthi 17 khxngchartxngkvs aela xxkechphaainphakhphunyuorp hlngcakethkaedtidthwresrc thangwngidthakaresnsyyakb pharaemath phikecxrs ephuxaetngephlng ephlngsahrbphaphyntreruxng naaesdngody aekhlr edns orebirt edxnior aela esiynna milelxr kakbody aemththiw wxhn thuxepnephlngprakxbphaphyntrephlngaerkkhxngethkaedt ephlngniekhathungxndbthi 2 khxngchartxngkvs xlbm The Circus 24 phvscikayn 2008 thangwngidxxksingekil odysamarthkhunipthungxndb 1 thaihklayepnsingekilthi 11 thisamarthkhunipthungxndb 1 kxnthicaxxkxlbminxikhnungspdahtxma aelwidxxkxik 4 singekil khux ekhachartinxndbthi 14 xndb 97 xndb 9 aela xndb 123 odyxlbmThe Circusmiyxdkhayinxngkvskwa 2 lankxppi xlbm Progress aela Progressed wnthi 15 krkdakhm 2010 rxbbi wileliymsidklbmaxyuinwng thaihethk aedth mismachikkhrb 5 khnxikkhrng odythangwngidxxkxlbmchudthihkProgressinwnthi 15 phvscikayn odyidxxk 2 singekil idaek ekhachartinxndbthi 2 aela xndb 28 aemcaimmisingekilihnthikhunthungxndb 1 ely aettwxlbmnnthayxdkhayidkwa 4 lanchud xlbmniepnxlbmthiidrbkhawicarnthidithisudkhxngwng aelayngepnxlbmthikhaydithisudinxngkvspracapi 2010 xikdwy txmainwnthi 10 mithunayn 2011 thangwngidxxkxlbmphiess Progressed odyethkaedtidxxkphlnganephlngprakxbphaphyntreruxng X Men First Class chuxephlng xndb 15 odyinewlatxmaidxxkphlnganephlngprakxbphaphyntr chux xndb 88 dwy odyinxlbmni thangwngidxxksingekilephuxepnkaropromtngan Red Nose Day pracapi 2011 khxngmulnithi Comic Relief inchux xndb 52 aelathangwngidxxksingekilephuxopromtkarthwrkhxnesirt Progress Live khxngphwkekhainchux Eight Letters xndb 176 thngni ephlng SOS samarthkhunipthungxndbthi 91 inchartkhxngxngkvs thaihephlngniepnephlngediywkhxngwngthisamarthkhunipthung 100 xndbaerkkhxngchart thngthiimichsingekil aeykthanganediywchwkhraw aekri barolw idxxkxlbmediyw Sing aela Since I Saw You Last aelaipepnkrrmkarinraykar The X Factor UKrxbbi wileliyms idxxkxlbmediyw Take The Crown aela Swing Both Waysmark oxewn idxxkxlbmediyw The Art Of Doing Nothinghawewird dxnld idipepnkrrmkarinraykarineyxrmni Got To Danceecsn xxernc idxxkcakwnginpi 2014xlbm III hlngcakthirxbbi wileliymsidthangankbwngepnkhrngsudthayinpi 2012 aelaecsn xxerncidxxkcakwnginpi 2014 thaihethkaedtmismachikephiyngsamkhnethann odyinwnthi 14 phvscikayn thangwngidxxksingekilthithichuxwa odytwsingekilnnkhunipxyuinxndb 1 idsaerc thaihmnklayepnsingekilthi 12 thisamarthkhunipthungxndbthi 1 idsaerc aelaidxxkxlbminwnthi 28 phvscikayn odythangwngidxxknganephlngprakxbphaphyntreruxng khingsaemn okhtrphithksbmphykhkh chuxwa inwnthi 2 minakhm 2015 thangwngidxxksingekilthisxngkhxngxlbm chux aelainwnthi 8 mithunayn kidxxksingekilthisaminchux inwnthi 20 phvscikayn ethkaedthidxxkxlbmewxrchnihm odyidxxksingekil tngaetwnthi 16 tulakhm ephlngnikhunthungxndbthi 56 studioxxlbmihm xlbmrwmephlngihm aelathwrrxbolk inwnthi 2 kumphaphnth 2016 aekri barolwidprakaswathangwngkalngthaxlbmihm odcaxxkwangaephnginpini phrxmkbxxkxlbmrwmhitihminpi 2017 odyidklawwarxbbi wileliymsxacmarwmaesdngthwrrxbolkephuxchlxngkarkhrbrxb 25 pi inkarxxkxlbmaerkkhxngwng Take That amp Party inwnthi 21 tulakhm 2016 idmikarprakaswacamixlbmihmxxkwangaephnginchux odyxxkwangaephnginwnthi 24 minakhm 2017 aelacamikarxxkthwrinpiediywkn phrxmkbxxksingekilaerkkhxngxlbminchux Giants odysamarthkhunipthungxndbthi 13 khxngchartxngkvssmachiksmachikpccubnaekri barolw 1990 96 2005 pccubn hawewird dxnld 1990 96 2005 pccubn mark oxewn 1990 96 2005 pccubn smachikinxditecsn xxernc 1990 96 2005 14 rxbbi wileliyms 1990 95 2010 12 ithmilnphlngandubthkhwamhlkthi phlngankhxngethkaedth aela raychuxephlngthibnthukodyethkaedt studioxxlbm Take That amp Party pi 1992 Everything Changes pi 1993 Nobody Else pi 1995 Beautiful World pi 2006 The Circus pi 2008 Progress pi 2010 III pi 2014 pi 2017 xlbmphiess Progressed pi 2011 III 2015 Edition pi 2015 xlbmrwmephlng Take That Greatest Hits pi 1996 Never Forget The Ultimate Collection pi 2005 xangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 09 18 subkhnemux 2009 01 02 saenathiekbthawr ekbcakaehlngedimemux 2012 07 21 subkhnemux 2012 07 21 khawmark oxewn chnaraykar bik braethxr in BBC News khawrxbbiinkhxnesirt ethkaedtin rte ie khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 03 12 subkhnemux 2009 01 02 Take That 2008 05 13 thi ewyaebkaemchchin Biography khxng ethkaedt in YahooMusic Biography in TakeThatTV 2007 04 07 thi ewyaebkaemchchinaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ethkaedt ewbistxyangepnthangkar 2008 10 09 thi ewyaebkaemchchin ethkaedt thi mayseps ethkaedt thiefsbuk ethkaedt thixinstaaekrm ethkaedt thiexks thwitetxr ethkaedt thitiktxk