บทความนี้ไม่มีจาก |
เครื่องจักรความร้อนการ์โน (อังกฤษ: Carnot Heat Engine) ถูกใช้ในการศึกษาวงจรอุณหพลศาสตร์โดย นีกอลา เลออนาร์ ซาดี การ์โน ในปี 1820 และได้รับการอธิบายเพิ่มเติมโดย (Benoit Paul Émile Clapeyron) ในทศวรรษต่อมา เครื่องจักรความร้อนเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ความร้อนในการสร้างงานโดยการนำพาสารไปตามกระบวนการที่เป็น
วัฏจักรการ์โน
วัฏจักรการ์โนประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
- การขยายตัวแบบผันกลับได้ที่ของก๊าซที่อุณหภูมิสูง TH (การเพิ่มความร้อนที่อุณหภูมิเสมอ) ในขั้นตอนนี้ก๊าซขยายตัวโดยการดันลูกสูบทำให้ก๊าซทำงานให้กับสภาพแวดล้อมพร้อมกันนั้นก๊าซจะรับความร้อนเข้าได้ด้วย
- การขยายตัวแบบผันกลับได้ที่ไม่มีการแลกเปลี่ยนความร้อนของก๊าซ ในขั้นตอนนี้สมมติให้กระบอกสูบและลูกสูบนั้นเป็นฉนวน ซึ่งทำให้ไม่มีการแลกเปลี่ยนความร้อนกับก๊าซ ก๊าซยังคงขยายตัวและทำงานให้กับสภาพแวดล้อม การขยายตัวนี้ทำให้อุณหภูมิของก๊าซลงลดไปยังที่อุณหภูมิต่ำ TC
- การบีบอัดที่อุณหภูมิเสมอแบบผันกลับได้ของก๊าซที่อุณหภูมิต่ำ TC (การคายความร้อนที่อุณหภูมิเสมอ) ตอนนี้สภาพแวดล้อมจะทำงานให้ก๊าซ ทำให้ความร้อนไหลออกจากก๊าซกลับสู่สภาพแวดล้อม
- การบีบอัดแบบผันกลับได้ที่ไม่มีการแลกเปลี่ยนความร้อนของก๊าซ เรายังสมมติให้กระบอกสูบและลูกสูบเป็นฉนวน ในขั้นตอนนี้สภาแวดลอบทำงานให้กับก๊าซโดยบีบอัดก๊าซและทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นไปเป็น TH ที่จุดนี้ ก๊าซกลับไปอยู่ในตอนเริ่มของขั้นตอนที่ 1
สมบัติของวัฏจักรการ์โน
ประสิทธิภาพของเครื่องจักรการ์โน คือปริมาณงานที่เครื่องจักรทำงานต่อความร้อนที่ได้รับที่อุณหภูมิ TH
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir ekhruxngckrkhwamrxnkaron xngkvs Carnot Heat Engine thukichinkarsuksawngcrxunhphlsastrody nikxla elxxnar sadi karon inpi 1820 aelaidrbkarxthibayephimetimody Benoit Paul Emile Clapeyron inthswrrstxma ekhruxngckrkhwamrxnepnxupkrnthiichkhwamrxninkarsrangnganodykarnaphasariptamkrabwnkarthiepnwtckrkaronwtckrkaronprakxbdwykhntxntang dngni karkhyaytwaebbphnklbidthikhxngkasthixunhphumisung TH karephimkhwamrxnthixunhphumiesmx inkhntxnnikaskhyaytwodykardnluksubthaihkasthanganihkbsphaphaewdlxmphrxmknnnkascarbkhwamrxnekhaiddwy karkhyaytwaebbphnklbidthiimmikaraelkepliynkhwamrxnkhxngkas inkhntxnnismmtiihkrabxksubaelaluksubnnepnchnwn sungthaihimmikaraelkepliynkhwamrxnkbkas kasyngkhngkhyaytwaelathanganihkbsphaphaewdlxm karkhyaytwnithaihxunhphumikhxngkaslngldipyngthixunhphumita TC karbibxdthixunhphumiesmxaebbphnklbidkhxngkasthixunhphumita TC karkhaykhwamrxnthixunhphumiesmx txnnisphaphaewdlxmcathanganihkas thaihkhwamrxnihlxxkcakkasklbsusphaphaewdlxm karbibxdaebbphnklbidthiimmikaraelkepliynkhwamrxnkhxngkas erayngsmmtiihkrabxksubaelaluksubepnchnwn inkhntxnnisphaaewdlxbthanganihkbkasodybibxdkasaelathaihxunhphumiephimkhunipepn TH thicudni kasklbipxyuintxnerimkhxngkhntxnthi 1smbtikhxngwtckrkaronprasiththiphaphkhxngekhruxngckrkaron h displaystyle eta khuxprimannganthiekhruxngckrthangantxkhwamrxnthiidrbthixunhphumi TH h DWDQH 1 TCTH displaystyle eta frac Delta W Delta Q H 1 frac T C T H bthkhwamfisiksniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk