อะมีเลีย แมรี แอร์ฮาร์ต (อังกฤษ: Amelia Mary Earhart; 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2440 — หายสาบสูญ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2480; ทางการประกาศว่าเสียชีวิต 5 มกราคม พ.ศ. 2482) นักบินชาวอเมริกันและนักเขียน เธอเป็นคนแรกที่บินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก. และสร้างสถิติมากมาย เป็นหนึ่งในนักบินกลุ่มแรก ที่ส่งเสริม เขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์การบินของเธอ และมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้ง The Ninety-Nines องค์กรสำหรับนักบินหญิง
อะมีเลีย แอร์ฮาร์ต | |
---|---|
Amelia Earhart | |
เกิด | อะมีเลีย แมรี แอร์ฮาร์ต 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1897 รัฐแคนซัส สหรัฐ |
สาบสูญ | 2 กรกฎาคม 1937 (อายุ 39) มหาสมุทรแปซิฟิก |
สถานะ | เสียชีวิตโดยผลของกฎหมาย 5 มกราคม ค.ศ. 1939 (41 ปี) |
สัญชาติ | สหรัฐ |
อาชีพ |
|
มีชื่อเสียงจาก | สตรีคนแรกที่ขึ้นบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก |
คู่สมรส | จอร์จ พัทนัม (สมรส 1931) |
บิดามารดา |
|
รางวัล | |
ลายมือชื่อ | |
พ.ศ. 2478 ได้บินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกจากฮาวายสู่แคลิฟอร์เนีย อีกสองปีต่อมาอะมีเลียได้พยายามทำสถิติในการบินรอบโลก แต่ได้หายสาบสูญไปอย่างลึกลับ เหนือน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก ในระหว่างทำการบินรอบโลกเมื่อปี พ.ศ. 2480
ชีวิตเมื่อเยาว์วัย
อะมีเลีย แอร์ฮาร์ต เกิดที่เมืองแอตชิสัน รัฐแคนซัส ที่บ้านของอัลเฟรด โอตีสผู้เป็นปู่ ซึ่งเป็นผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางและเป็นผู้ได้รับการนับหน้าถือตาในเมืองนี้ ปู่ของอะมีเลียไม่พอใจในตัวบุตรชายชื่อเอดวินซึ่งเป็นบิดาของเธอ กล่าวกันว่าการไม่ลงรอยกันแทบทุกเรื่อง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวของอะมีเลียแตกแยก และน่าจะมีผลต่อจิตใจในวัยเยาว์จนทำให้เธอกลายเป็น "ทอมบอย" เล่นซนอย่างเด็กผู้ชายและหันมาสนใจในการบินเมื่อเติบโตขึ้น
เมื่ออายุ 10 ขวบอะมีเลียได้เห็นเครื่องบินเป็นครั้งแรกที่รัฐไอโอวา แต่ก็ไม่สนใจเท่าใด ในปี พ.ศ. 2457 บิดาซึ่งได้งานดีเป็นผู้บริหารการรถไฟซึ่งทำให้ฐานะทางการเงินของครอบครัวดีขึ้นถูกให้ออกจากงาน เอมีผู้มารดาจึงพาอะมีเลียฝากเข้าเรียนชั้นมัธยมปีสุดท้ายที่ชิคาโกและเรียนจบในปีต่อมา ในปี พ.ศ. 2461 เธอฝึกงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลที่เมืองโทรอนโต แคนาดาที่ซึ่งพี่สาวอาศัยอยู่ แต่ปีต่อมาอะมีเลียก็เข้าเรียนเตรียมแพทย์ในมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและก็เลิกเรียนกลางคันเพื่อติดตามบิดาและมารดาไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย และที่เมืองลองบีชนั่นเองที่อะมีเลียและบิดาได้ไปชมการบินผาดโผนและขึ้นบินในวันรุ่งขึ้นเป็นเวลา 10 นาที
อะมีเลีย แอร์ฮาร์ต เริ่มเรียนการบินครั้งแรกสนามบิน "คินเนอร์" เมืองลองบีชโดยครูการบินชื่อแอนิตา สนูก นักบินสตรีรุ่นบุกเบิก และหกเดือนต่อมาเธอก็ซื้อเครื่องบินปีกสองชั้นยี่ห้อ ""คิสเซลแอร์สเตอร์" ชั้นสีเหลืองเมื่อ วันที่ 22 ตุลาคม 2465 และตั้งชื่อว่า "แคนารี" หรือนกขมิ้นและทำการบินสูงได้ถึงระดับ 14,000 ฟุต (4.2 กิโลเมตร)ทำลายสถิติโลกสำหรับนักบินสตรี ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 อะมีเลีย แอร์ฮาร์ตก็ได้รับใบอนุญาตการบินนานาชาติ
ชีวิตการบินและการแต่งงาน
รายได้ในการบินสูงไม่มาก อะมีเลีย แอร์ฮาร์ต จึงได้ขาย "คะแนรี" แล้วซื้อรถยนต์เก๋งยี่ห้อ "คิสเซลโรดสเตอร์" ใหม่สีเหลืองแล้วขับพามารดาซึ่งเพิ่งหย่ากับบิดาไปอยู่ที่เมืองบอสตันเพราะได้งานทำที่นั่น เธอสมัครเป็นสมาชิกสมาคมการบินแห่งชาติสาขาบอสตัน อะมีเลียได้ลงทุนสร้างสนามบินเล็ก และเป็นตัวแทนขายเครื่องบินคิสเซลไปด้วย ในขณะเดียวกันก็เขียนบทความเกี่ยวกับการบินลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในท้องถิ่น อะมีเลียได้รับการยกย่องจากหนังสือพิมพ์ว่า เป็นนักบินสตรีที่ดีที่สุดในสหรัฐ แต่ก็มีผู้ไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะนักบินที่มีประสบการสูง
หลังจากชาลส์ ลินด์เบิร์ก บินเดี่ยวข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นผลสำเร็จในปี พ.ศ. 2470 ได้มีสุภาพสตรีอเมริกันผู้มั่งคั่งคนหนึ่งชื่อ "แอมี เกสต์" ที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษประกาศว่า จะทำสถิติเป็นสตรีคนแรกที่จะบินหรือโดยสารเครื่องบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก แต่เมื่อไตร่ตรองแล้วเห็นว่า มีอันตรายมากจึงเปลี่ยนใจประกาศตนเป็นผู้อุปถัมภ์โครงการแทน
อะมีเลีย แอร์ฮาร์ตได้รับการทาบทามให้เป็นผู้โดยสารบินรวมกับนักบินชายชื่อ วิลเมอร์ ชุลท์และผู้ช่วยนักบิน-ต้นหนชื่อหลุยส์ กอร์ดอน ทั้งสามคนได้บินออกจากชายฝั่งนิวฟาวด์แลนด์ด้วยเครื่องบิน ฟอกเกอร์ เอฟ 7 ไปถึงสนามบินเบอร์รีพอร์ทในประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2471 โดยใช้เวลาบิน 21 ชั่วโมง ในระหว่างบินอะมีเลียได้มีโอกาสขับและทำบันทึกปูมการบินซึ่งส่วนหนึ่งเขียนว่า "ใครก็แล้วแต่ที่พบซากเครื่องบินนี้ ได้โปรดทราบด้วยว่าเป็นเพราะฉันบินหลงในพายุไปหนึ่งชั่วโมง" ทั้งสามคนกลับมารับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยขบวนพาเหรดโปรยกระดาษเทปตามถนนในนครนิวยอร์ก ได้เข้าพบประธานาธิบดี "แคลวิน คูลิดจ์" ที่ทำเนียบขาว และโดยที่เธอมีรูปร่างละม้ายชาร์ล ลินเบิร์ก จึงได้รับสมญาว่า "เลดี ลินดี"
หนึ่งในทีมสนับสนุนโครงการมีบุรุษผู้มีชื่อเสียงและเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์คือ "จอร์จ พัทนัม" ซึ่งได้ทำทุกอย่างให้อะมีเลียเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมทั้งการตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการบินที่อะมีเลียเป็นผู้เขียนและการเป็น "พรีเซนเตอร์"ให้แก่สินค้ามากมายหลายชนิด ทำให้ทั้งสองสนิทสนมและตกลงแต่งงานกันเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474 แต่อย่างไรก็ดี อะมีเลียถือว่าการแต่งงานคือการเป็นหุ้นส่วนกัน และได้เขียนจดหมายบอกให้พัทนัมได้ทราบว่า เธอจะให้เขามีอิสระไม่จำเป็นต้องมีใจซื่อตรงต่อเธอ และเธอก็จะถืออย่างเดียวกัน และในปีที่เธอแต่งงาน อะมีเลียได้ทำลายสถิติบินสูงของนักบินหญิงด้วยความสูง 5.613 กิโลเมตร
และแล้วเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 อะมีเลียได้บินเดี่ยวทับเส้นทางที่ลินเบิร์กได้ทำการบินเที่ยวประวัติศาสตร์ด้วยเครื่องบิน "ลอกฮีด เวกา" เครื่องยนต์เดียว แต่เนื่องจากพายุ สภาพน้ำแข็งและเครื่องยนต์ทำให้เธอจำต้องร่อนลงจอดบนทุ่งหญ้าใกล้เมืองลอนดอนเดอร์รี ไอร์แลนด์เหนือแทน แต่ก็นับเป็นการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
ความสำเร็จทำให้อะมีเลียได้รับกางเขนกล้าหาญ (Distinguished Flying Cross) จากรัฐสภาอเมริกัน ได้เหรียญเกียรติยศจากรัฐบาลฝรั่งเศส ได้เหรียญทองของสมาคมภูมิศาสตร์แห่งชาติจากประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์
วันที่ 11 มกราคมอะมีเลีย เป็นคนแรกที่บินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกจากฮาวายมาแคลิฟอร์เนีย บินเดี่ยวจากลอสแอนเจลิสถึงเม็กซิโกซิตีและบินกลับมาลงที่นิวเจอร์ซี อะมีเลียเป็นครองสถิติการบินต่างๆ เป็นจำนวนมาก และในปี พ.ศ. 2478 เธอได้เข้าร่วมงานสอนที่มหาวิทยาลัยเพอร์ดิวเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาด้านเส้นทางการประกอบอาชีพแก่นักศึกษาหญิงเมื่อจบการศึกษา
การบินรอบโลก
อะมีเลีย แอร์ฮาร์ตได้รับเครื่องบิน "ลอกฮีด แอล-10อี อีเลกตรา" สนับสนุนโดยมหาวิทยาลัยเปอร์ดิวเมือเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2479 และได้เริ่มวางแผนการบินรอบโลก แม้จะไม่ใช่เป็นคนแรกแต่ก็เป็นการบินรอบโลกที่มีระยะทางไกลที่สุด (47,000 กิโลเมตร) โดยบินตามเส้นศูนย์สูตร แม้เครื่องอีเล็กตราจะได้ชื่อเป็น "ห้องทดลองบินได้" แต่การเตรียมทางด้านวิทยาศาสตร์กลับน้อยมาก ส่วนใหญ่เตรียมตามแนวของหนังสือเล่มต่อไปของอะมีเลีย "เฟรด นูแนน" แห่งลอสแอนเจลิส ได้รับเลือกเป็นต้นหนเนื่องจากมีประสบการณ์สูง และนูแนนเองรับงานก็เนื่องจากมีแผนที่จะตั้งโรงเรียนต้นหนการบินในฟลอริดา
ในวันเซนต์แพตริก พ.ศ. 2480 ทั้งสองได้ออกบินขาแรกจากโอกแลนด์ แคลิฟอร์เนียไปโฮโนลูลูและเริ่มบินต่อใน 3 วันต่อมาแต่ก็เกิดความเสียหายหนักควงบนพื้นเนื่องจากยางระเบิดขณะบินขึ้นทำให้ต้องส่งเครื่องกลับไปซ่อมแคลิฟอร์เนียและยกเลิกการเดินทาง เมื่อซ่อมเสร็จจึงเริ่มเดินทางใหม่เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ในครั้งนี้เปลี่ยนเป็นการบินไปทางตะวันออกโดยเริ่มต้นที่ไมอามี หลังลงจอดหลายแห่งตามทางในอเมริกาใต้ อัฟริกาและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งสองก็ได้มาถึงเมือง "แล" (Lae) นิวกินีเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน
การเดินทางได้ผ่านมาแล้วรวม 35,000 กิโลเมตร ยังคงเหลืออีก 11,000 กิโลเมตรซึ่งเป็นการบินเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก และในเวลา 24.00 น.ตามเวลากรีนิช ทั้งสองได้บินขึ้นจากเมืองแลเพื่อตรงไปยังเกาะฮาวแลนด์ที่เป็นแผ่นดินราบยาว 2 กิโลเมตร กว้าง 500 เมตร สูง 3 เมตรจากระดับน้ำ อยู่ห่าง 4,113 กิโลเมตรไปทางตะวันออก
จากการรายงานตำแหน่งครั้งสุดท้ายของอะมีเลียแจ้งว่าอยู่เหนือ อยู่ห่างจากต้นทางประมาณ 1,300 กิโลเมตร เรือยามฝั่งชื่อ ไอทัสกา ได้รับหน้าที่ติดต่อวิทยุและควบคุมการบินลงเมื่อเครื่องบินของอะมีเลียเข้าถึงระยะติดต่อได้ แต่จากการติดต่อด้วยวิทยุมีปัญหาสับสนการนำทางโดยวิทยุจึงไม่บรรลุผล ในขณะนั้นก็ปรากฏว่ามีเมฆมากกระจายตัวทอดเงาลงบนทะเลดูคล้ายเกาะมากมายไปหมด แม้การติดต่อด้วยคำพูดของอะมีเลียกับเรือยามฝั่งที่บ่งบอกว่าได้มาถึงที่หมายแล้วและรู้ว่าพลาดเป้าไป 9 ไมล์ทะเล ก็ไม่ปรากฏตัวเครื่องบินให้เห็น การติดต่อได้ต่อเนื่องกระท่อนกระแท่นอยู่หลายชั่วโมงสัญญานจึงขาดหายไป มีผู้ได้รับสัญญาณของอีเลกตราที่หายไปได้รอบๆ แปซิฟิก
สหรัฐฯ ได้ใช้เงินถึง 4 ล้านเหรียญในการค้นหาอะมีเลียทั้งทางน้ำและทางอากาศ เป็นการค้นหาที่มีราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งยุคนั้น จนกระทั่งใน พ.ศ. 2483 จึงได้พบโครงกระดูกส่วนหนึ่งของสตรีผิวขาวซึ่งมีลักษณะตรงกับอะมีเลีย บน ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะฮาวแลนด์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ไปประมาณ 300 ไมล์ รวมทั้งพบรองเท้าสตรี กับเครื่องวัดระยะทางหาเส้นรุ้งและเส้นแวงซึ่งมีหมายเลขตรงกับที่นูแนนใช้ในบริเวณใกล้กับที่พบโครงกระดูกด้วย
อ้างอิง
- Briand, Paul, Daughter of the Sky. New York: Duell, Sloan, Pearce, 1960.
- Butler, Susan, East to the Dawn: The Life of Amelia Earhart. Reading MA: Addison-Wesley, 1997.
- Devine, Thomas E., Eyewitness: The Amelia Earhart Incident. Frederick, CO: Renaissance House, 1987.
- Goerner, Fred, The Search for Amelia Earhart. New York: Doubleday, 1966.
- King, Thomas F.; Jacobson, Randall; Spading, Kenton; Burns, Karen Ramey; Amelia Earhart's Shoes. Lanham, MD: AltaMira Press, 2001.
- Long, Elgen M., Amelia Earhart: The Mystery Solved. New York: Simon & Schuster, 1999.
- Loomis, Vincent V., Amelia Earhart, the Final Story. New York: Random House, 1985.
- Lovell, Mary S., The Sound of Wings. New York: St. Martin's Press, 1989.
- Rich, Doris L., Amelia Earhart: A Biography. Washington DC: Smithsonian Institution Press, 1989.
- Strippel, Dick., Amelia Earhart — The Myth and the Reality. New York: Exposition Press, 1972.
ดูเพิ่ม
- สวนสาธารณะในฟลอริดา
อ้างอิง
- Morey 1995, p. 11.
- Pearce 1988, p. 95.
- Oakes 1985.
- Lovell 1989, p. 152.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-24. สืบค้นเมื่อ 2013-07-20.
แหล่งข้อมูลอื่น
- (อังกฤษ) Biography and Sound Clips 2008-09-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- (อังกฤษ) The Earhart Project 2008-01-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน from The International Group for Historic Aircraft Recovery. Includes a summary of the Nikumaroro landing hypothesis and a video showing Earhart's Lockheed taking off from Lae
- (อังกฤษ) Amelia Earhart Birthplace Museum
- (อังกฤษ) Amelia Earhart Collection of Papers, Memorabilia and Artifacts
- (อังกฤษ) Amelia Earhart Museum
- (อังกฤษ) Where is Amelia Earhart? Three Theories
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xamieliy aemri aexrhart xngkvs Amelia Mary Earhart 24 krkdakhm ph s 2440 haysabsuy 2 krkdakhm ph s 2480 thangkarprakaswaesiychiwit 5 mkrakhm ph s 2482 nkbinchawxemriknaelankekhiyn ethxepnkhnaerkthibinediywkhammhasmuthraextaelntik aelasrangsthitimakmay epnhnunginnkbinklumaerk thisngesrim ekhiynhnngsuxekiywkbprasbkarnkarbinkhxngethx aelamibthbathsakhyinkarkxtng The Ninety Nines xngkhkrsahrbnkbinhyingxamieliy aexrhartAmelia Earhartekidxamieliy aemri aexrhart 24 krkdakhm kh s 1897 1897 07 24 rthaekhnss shrthsabsuy2 krkdakhm 1937 xayu 39 mhasmuthraepsifiksthanaesiychiwitodyphlkhxngkdhmay 5 mkrakhm kh s 1939 1939 01 05 41 pi sychatishrthxachiphnkbin nkekhiynmichuxesiyngcakstrikhnaerkthikhunbinkhammhasmuthraextaelntikkhusmrscxrc phthnm smrs 1931 bidamardaexdwin aexrhart bida exmi aexrhart marda rangwllaymuxchux ph s 2478 idbinediywkhammhasmuthraepsifikcakhawaysuaekhlifxreniy xiksxngpitxmaxamieliyidphyayamthasthitiinkarbinrxbolk aetidhaysabsuyipxyangluklb ehnuxnannamhasmuthraepsifik inrahwangthakarbinrxbolkemuxpi ph s 2480chiwitemuxeyawwyxamieliy aexrhart ekidthiemuxngaextchisn rthaekhnss thibankhxngxlefrd oxtisphuepnpu sungepnphuphiphaksakhxngrthbalklangaelaepnphuidrbkarnbhnathuxtainemuxngni pukhxngxamieliyimphxicintwbutrchaychuxexdwinsungepnbidakhxngethx klawknwakarimlngrxyknaethbthukeruxng epnsaehtuhnungthithaihkhrxbkhrwkhxngxamieliyaetkaeyk aelanacamiphltxciticinwyeyawcnthaihethxklayepn thxmbxy elnsnxyangedkphuchayaelahnmasnicinkarbinemuxetibotkhun emuxxayu 10 khwbxamieliyidehnekhruxngbinepnkhrngaerkthirthixoxwa aetkimsnicethaid inpi ph s 2457 bidasungidngandiepnphubriharkarrthifsungthaihthanathangkarenginkhxngkhrxbkhrwdikhunthukihxxkcakngan exmiphumardacungphaxamieliyfakekhaeriynchnmthympisudthaythichikhaokaelaeriyncbinpitxma inpi ph s 2461 ethxfuknganepnphuchwyphyabalthiemuxngothrxnot aekhnadathisungphisawxasyxyu aetpitxmaxamieliykekhaeriynetriymaephthyinmhawithyalyokhlmebiyaelakelikeriynklangkhnephuxtidtambidaaelamardaipxyuthiaekhlifxreniy aelathiemuxnglxngbichnnexngthixamieliyaelabidaidipchmkarbinphadophnaelakhunbininwnrungkhunepnewla 10 nathi xamieliy aexrhart erimeriynkarbinkhrngaerksnambin khinenxr emuxnglxngbichodykhrukarbinchuxaexnita snuk nkbinstrirunbukebik aelahkeduxntxmaethxksuxekhruxngbinpiksxngchnyihx khiseslaexrsetxr chnsiehluxngemux wnthi 22 tulakhm 2465 aelatngchuxwa aekhnari hruxnkkhminaelathakarbinsungidthungradb 14 000 fut 4 2 kiolemtr thalaysthitiolksahrbnkbinstri inwnthi 5 phvsphakhm ph s 2466 xamieliy aexrhartkidrbibxnuyatkarbinnanachatichiwitkarbinaelakaraetngnganrayidinkarbinsungimmak xamieliy aexrhart cungidkhay khaaenri aelwsuxrthyntekngyihx khiseslordsetxr ihmsiehluxngaelwkhbphamardasungephinghyakbbidaipxyuthiemuxngbxstnephraaidnganthathinn ethxsmkhrepnsmachiksmakhmkarbinaehngchatisakhabxstn xamieliyidlngthunsrangsnambinelk aelaepntwaethnkhayekhruxngbinkhiseslipdwy inkhnaediywknkekhiynbthkhwamekiywkbkarbinlnginhnngsuxphimphthxngthin cnmichuxesiyngepnthiruckinthxngthin xamieliyidrbkarykyxngcakhnngsuxphimphwa epnnkbinstrithidithisudinshrth aetkmiphuimehndwyodyechphaankbinthimiprasbkarsung ekhruxngbinlxkhid ewka 5 bi binodyxamieliy aexrhart cdaesdngiwthiphiphithphnthxakasyanaelaxwkasaehngchati shrthxemrika hlngcakchals lindebirk binediywkhammhasmuthraextaelntikepnphlsaercinpi ph s 2470 idmisuphaphstrixemriknphumngkhngkhnhnungchux aexmi ekst thixasyxyuinpraethsxngkvsprakaswa cathasthitiepnstrikhnaerkthicabinhruxodysarekhruxngbinkhammhasmuthraextaelntik aetemuxitrtrxngaelwehnwa mixntraymakcungepliynicprakastnepnphuxupthmphokhrngkaraethn xamieliy aexrhartidrbkarthabthamihepnphuodysarbinrwmkbnkbinchaychux wilemxr chulthaelaphuchwynkbin tnhnchuxhluys kxrdxn thngsamkhnidbinxxkcakchayfngniwfawdaelnddwyekhruxngbin fxkekxr exf 7 ipthungsnambinebxrriphxrthinpraethsxngkvsemuxwnthi 17 mithunayn ph s 2471 odyichewlabin 21 chwomng inrahwangbinxamieliyidmioxkaskhbaelathabnthukpumkarbinsungswnhnungekhiynwa ikhrkaelwaetthiphbsakekhruxngbinni idoprdthrabdwywaepnephraachnbinhlnginphayuiphnungchwomng thngsamkhnklbmarbkartxnrbxyangyingihy dwykhbwnphaehrdoprykradasethptamthnninnkhrniwyxrk idekhaphbprathanathibdi aekhlwin khulidc thithaeniybkhaw aelaodythiethxmirupranglamaycharl linebirk cungidrbsmyawa eldi lindi hnunginthimsnbsnunokhrngkarmiburusphumichuxesiyngaelaepnecakhxngsankphimphkhux cxrc phthnm sungidthathukxyangihxamieliyepnthiruckmakkhun rwmthngkartiphimphhnngsuxekiywkbkarbinthixamieliyepnphuekhiynaelakarepn phriesnetxr ihaeksinkhamakmayhlaychnid thaihthngsxngsnithsnmaelatklngaetngnganknemuxwnthi 7 kumphaphnth ph s 2474 aetxyangirkdi xamieliythuxwakaraetngngankhuxkarepnhunswnkn aelaidekhiyncdhmaybxkihphthnmidthrabwa ethxcaihekhamixisraimcaepntxngmiicsuxtrngtxethx aelaethxkcathuxxyangediywkn aelainpithiethxaetngngan xamieliyidthalaysthitibinsungkhxngnkbinhyingdwykhwamsung 5 613 kiolemtr aelaaelwemuxwnthi 20 phvsphakhm ph s 2475 xamieliyidbinediywthbesnthangthilinebirkidthakarbinethiywprawtisastrdwyekhruxngbin lxkhid ewka ekhruxngyntediyw aetenuxngcakphayu sphaphnaaekhngaelaekhruxngyntthaihethxcatxngrxnlngcxdbnthunghyaiklemuxnglxndxnedxrri ixraelndehnuxaethn aetknbepnkarbinkhammhasmuthraextaelntik khwamsaercthaihxamieliyidrbkangekhnklahay Distinguished Flying Cross cakrthsphaxemrikn idehriyyekiyrtiyscakrthbalfrngess idehriyythxngkhxngsmakhmphumisastraehngchaticakprathanathibdiehxrebirt huewxr wnthi 11 mkrakhmxamieliy epnkhnaerkthibinkhammhasmuthraepsifikcakhawaymaaekhlifxreniy binediywcaklxsaexneclisthungemksioksitiaelabinklbmalngthiniwecxrsi xamieliyepnkhrxngsthitikarbintang epncanwnmak aelainpi ph s 2478 ethxidekharwmngansxnthimhawithyalyephxrdiwepnxacarythipruksadanesnthangkarprakxbxachiphaeknksuksahyingemuxcbkarsuksakarbinrxbolkxamieliy aexrhartidrbekhruxngbin lxkhid aexl 10xi xielktra snbsnunodymhawithyalyepxrdiwemuxeduxnkrkdakhm ph s 2479 aelaiderimwangaephnkarbinrxbolk aemcaimichepnkhnaerkaetkepnkarbinrxbolkthimirayathangiklthisud 47 000 kiolemtr odybintamesnsunysutr aemekhruxngxielktracaidchuxepn hxngthdlxngbinid aetkaretriymthangdanwithyasastrklbnxymak swnihyetriymtamaenwkhxnghnngsuxelmtxipkhxngxamieliy efrd nuaenn aehnglxsaexneclis idrbeluxkepntnhnenuxngcakmiprasbkarnsung aelanuaennexngrbngankenuxngcakmiaephnthicatngorngeriyntnhnkarbininflxrida inwnesntaephtrik ph s 2480 thngsxngidxxkbinkhaaerkcakoxkaelnd aekhlifxreniyipohonluluaelaerimbintxin 3 wntxmaaetkekidkhwamesiyhayhnkkhwngbnphunenuxngcakyangraebidkhnabinkhunthaihtxngsngekhruxngklbipsxmaekhlifxreniyaelaykelikkaredinthang emuxsxmesrccungerimedinthangihmemuxwnthi 1 mithunayn inkhrngniepliynepnkarbinipthangtawnxxkodyerimtnthiimxami hlnglngcxdhlayaehngtamthanginxemrikait xfrikaaelaexesiytawnxxkechiyngit thngsxngkidmathungemuxng ael Lae niwkiniemuxwnthi 29 mithunayn karedinthangidphanmaaelwrwm 35 000 kiolemtr yngkhngehluxxik 11 000 kiolemtrsungepnkarbinehnuxmhasmuthraepsifik aelainewla 24 00 n tamewlakrinich thngsxngidbinkhuncakemuxngaelephuxtrngipyngekaahawaelndthiepnaephndinrabyaw 2 kiolemtr kwang 500 emtr sung 3 emtrcakradbna xyuhang 4 113 kiolemtripthangtawnxxk cakkarrayngantaaehnngkhrngsudthaykhxngxamieliyaecngwaxyuehnux xyuhangcaktnthangpraman 1 300 kiolemtr eruxyamfngchux ixthska idrbhnathitidtxwithyuaelakhwbkhumkarbinlngemuxekhruxngbinkhxngxamieliyekhathungrayatidtxid aetcakkartidtxdwywithyumipyhasbsnkarnathangodywithyucungimbrrluphl inkhnannkpraktwamiemkhmakkracaytwthxdengalngbnthaeldukhlayekaamakmayiphmd aemkartidtxdwykhaphudkhxngxamieliykberuxyamfngthibngbxkwaidmathungthihmayaelwaelaruwaphladepaip 9 imlthael kimprakttwekhruxngbinihehn kartidtxidtxenuxngkrathxnkraaethnxyuhlaychwomngsyyancungkhadhayip miphuidrbsyyankhxngxielktrathihayipidrxb aepsifik shrth idichenginthung 4 lanehriyyinkarkhnhaxamieliythngthangnaaelathangxakas epnkarkhnhathimirakhaaephngthisudinprawtisastraehngyukhnn cnkrathngin ph s 2483 cungidphbokhrngkradukswnhnungkhxngstriphiwkhawsungmilksnatrngkbxamieliy bn sungxyuhangcakekaahawaelndipthangthistawnxxkechiyngitippraman 300 iml rwmthngphbrxngethastri kbekhruxngwdrayathanghaesnrungaelaesnaewngsungmihmayelkhtrngkbthinuaennichinbriewniklkbthiphbokhrngkradukdwyxangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb xamieliy aexrhart Briand Paul Daughter of the Sky New York Duell Sloan Pearce 1960 Butler Susan East to the Dawn The Life of Amelia Earhart Reading MA Addison Wesley 1997 Devine Thomas E Eyewitness The Amelia Earhart Incident Frederick CO Renaissance House 1987 Goerner Fred The Search for Amelia Earhart New York Doubleday 1966 King Thomas F Jacobson Randall Spading Kenton Burns Karen Ramey Amelia Earhart s Shoes Lanham MD AltaMira Press 2001 ISBN 0 7591 0130 2 Long Elgen M Amelia Earhart The Mystery Solved New York Simon amp Schuster 1999 Loomis Vincent V Amelia Earhart the Final Story New York Random House 1985 Lovell Mary S The Sound of Wings New York St Martin s Press 1989 Rich Doris L Amelia Earhart A Biography Washington DC Smithsonian Institution Press 1989 Strippel Dick Amelia Earhart The Myth and the Reality New York Exposition Press 1972 duephimswnsatharnainflxridaxangxingMorey 1995 p 11 sfn error no target CITEREFMorey1995 Pearce 1988 p 95 sfn error no target CITEREFPearce1988 Oakes 1985 sfn error no target CITEREFOakes1985 Lovell 1989 p 152 sfn error no target CITEREFLovell1989 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 07 24 subkhnemux 2013 07 20 aehlngkhxmulxun xngkvs Biography and Sound Clips 2008 09 05 thi ewyaebkaemchchin xngkvs The Earhart Project 2008 01 15 thi ewyaebkaemchchin from The International Group for Historic Aircraft Recovery Includes a summary of the Nikumaroro landing hypothesis and a video showing Earhart s Lockheed taking off from Lae xngkvs Amelia Earhart Birthplace Museum xngkvs Amelia Earhart Collection of Papers Memorabilia and Artifacts xngkvs Amelia Earhart Museum xngkvs Where is Amelia Earhart Three Theories