ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ออโตสเตอริโอแกรม (autostereogram) เป็น หรือ ภาพสเตอริโอแบบภาพเดี่ยว ที่ออกแบบมาเพื่อ ทำให้มองเห็นภาพสองมิตินั้นเป็นภาพสามมิติ สเตอริโอแกรมชนิดที่ง่ายที่สุดก็คือ สเตอริโอแกรมแบบกระดาษบุผนัง (wallpaper autostereogram) ภาพมหัศจรรย์สามมิติที่รู้จักกันดีนั้นเรียกว่า ออโต้สเตอริโอแกรมแบบใช้จุดมั่ว (random dot autostereogram) หลักการในการมองเห็นภาพประเภทนี้นั้นจะเกิดจากการมองเห็นที่สูญเสียการโฟกัส
ประวัติ
ในปี ค.ศ. 1838 (Charles Wheatstone) นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ ค้นพบการมองเห็นแบบสเตอริโอ (binocular vision) ซึ่งนำไปสู่การประดิษฐ์ (stereoscope) โดยการใช้ ปริซึม และ กระจก เพื่อทำให้เกิดการมองเห็นภาพ 2 มิติเป็น 3 มิติ
ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1849-1850 (David Brewster) นักวิทยาศาสตร์ชาวสก็อต ได้พัฒนา เครื่องมองภาพ 3 มิติ ของ วีทสโตน โดยการใช้เลนส์แทนกระจกเพื่อลดขนาดของอุปกรณ์ลง นอกจากนั้นเขายังได้สังเกตพบว่าการจ้องมองรูปแบบซ้ำ ๆ ในกระดาษบุผนังนั้นจะทำให้เกิดอาการลวงตา เนื่องจากสมองจะพยายามประกบภาพเหมือนเข้าด้วยกัน ทำให้เหมือนมีผนังเสมือนปรากฏอยู่ข้างหลังผนังอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นหลักการพื้นฐานของ สเตอริโอแกรมแบบ
ในปี ค.ศ. 1959 (Bela Julesz) นักจิตวิทยาชาวฮังการี ได้ค้นพบ สเตอริโอแกรมแบบจุดมั่ว ในขณะที่กำลังมองหาวัตถุที่ถูกอำพราง ในภาพถ่ายทางอากาศจากเครื่องบินสอดแนม ที่ ศูนย์วิจัยเบลล์ (Bell Laboratories) เขาได้ใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพจุดมั่วที่ดูคล้ายกันขึ้นสองภาพ ซึ่งเมื่อมองผ่าน จะทำให้มองเห็นภาพมีรูปร่างเป็น 3 มิติ
ในปี ค.ศ. 1979 (Christopher Tyler) ลูกศิษย์ของจูเลส และเป็นนักจิตวิทยาการมองเห็น ได้รวมทฤษฎีของ สเตอริโอแกรมแบบกระดาษบุผนัง ซึ่งเป็นแบบภาพเดี่ยว กับ สเตอริโอแกรมแบบจุดมั่ว และสร้าง ออโตสเตอริโอแกรมแบบจุดมั่ว ภาพแรกขึ้น ซึ่งรู้จักกันในชื่อ สเตอริโอแกรมภาพเดี่ยวแบบจุดมั่ว ภาพประเภทนี้จะทำให้มองเห็นภาพ 2 มิติภาพเดียว เป็น 3 มิติได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ
หลักการทำงาน
สเตอริโอแกรมแบบกระดาษบุผนัง
สมองของมนุษย์เรานั้น มีกลไกในการรับรู้ภาพแบบสเตอริโอ ซึ่งเป็นการรับรู้ถึงระยะความลึกของภาพ จากภาพ 2 มิติที่รับเข้ามาจากตาทั้งสองข้างซึ่งจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย สมองของเราจะพยายามรับรู้ถึงระยะความลึกใน 3 มิติโดยการเปรียบเทียบจุดต่าง ๆ ในภาพที่รับเข้ามาทางตาด้านหนึ่ง กับภาพที่รับเข้าทางตาอีกด้านหนึ่ง และประเมินระยะความลึกของภาพได้
เมื่อเรามองภาพที่มีความเหมือนแบบซ้ำ ๆ กัน ดังเช่นภาพกระดาษบุผนัง สมองเราจะสับสนและการเปรียบเทียบภาพจากตาทั้งสองนั้นเป็นไปด้วยความลำบาก เมื่อภาพที่มองมีรูปแบบซ้ำกัน จะลวงให้สมองนั้นประกบภาพที่รับเข้ามาผิดพลาด โดยประกบภาพหนึ่งกับภาพอื่นซึ่งเหมือนกัน (ซึ่งต่างจากปกติที่ประกบจุดในภาพจุดเดียวกันในภาพที่รับเข้ามาทางตาทั้งสองข้าง) ซึ่งทำให้เกิดภาพลวงของผนังที่ภาพปะอยู่นั้น อยู่ลึกเข้าไปในผนังจริง ความลึกของผนังลวงเข้าไปในผนังจริงนี้จะขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างรูปที่ซ้ำ ๆ กันนี้
ออโตสเตอริโอแกรม ใช้หลักความสัมพันธ์ระหว่างความลึกของภาพ กับระยะซ้ำกันของภาพนี้ ในการสร้างภาพ 3 มิติ โดยถ้ามีบางบริเวณในภาพ ที่มีรูปซ้ำ ๆ กัน และมีระยะห่างน้อยกว่าระยะห่างปกติ พื้นที่บริเวณนั้นก็จะเห็นเป็นภาพที่มีความลึกน้อยกว่าผนังลวง คือนูนออกมาจากผนังลวง ส่วนบริเวณไหนที่ภาพซ้ำนั้นมีระยะห่างกว่าปกติ ก็จะทำให้เห็นบริเวณนั้นอยู่ลึกกว่าผนังลวง คือเห็นเป็นรูบุ๋มเข้าไป
ภาพ 3 มิติในตัวอย่างภาพออโตสเตอริโอแกรม สร้างโดยการใช้ภาพขี่เสือซ้ำ ๆ กัน ทุก ๆ 140 พิกเซล ส่วนภาพขี่ฉลามนั้นซ้ำกันทุก ๆ 130 พิกเซล และภาพเสือซ้ำกันทุก ๆ 120 พิกเซล ยิ่งภาพซ้ำอยู่ใกล้กันมากขึ้นจะทำให้มองเห็นภาพลอยสูงจากผนังมากขึ้น ระยะทางระหว่างภาพซ้ำจะเรียกว่า ความลึก หรือ ค่า z-บัฟเฟอร์ ของภาพซ้ำนั้น
สมองของเรานั้นมีความสามารถที่จะประกบภาพหลายร้อยภาพที่ซ้ำ ๆ กันด้วยระยะห่างต่าง ๆ เพื่อที่จะรับรู้ระดับความลึกของภาพ ภาพออโตสเตอริโอแกรมภาพหนึ่งนั้นอาจมีภาพเสือ 50 ตัวที่มีขนาดต่าง ๆ กัน ซ้ำ ๆ กันด้วยระยะต่าง ๆ และมีรูปด้านหลังที่ซับซ้อน แต่สมองมนุษย์เรานั้นก็ยังสามารถจับประกบภาพเพื่อหาความลึกได้
แผนผังแสดงความลึก
ออโตสเตอริโอแกรมที่มีรูปในแต่ละแถวซ้ำกันในแนวนอนด้วยระยะห่างเท่า ๆ กัน สามารถดูได้ด้วยวิธี การมองแบบตาเขเข้าหากัน (cross-eyed) หรือ การมองแบบมองไกล (wall-eyed) การดูทั้งสองแบบนี้จะได้การรับรู้ระดับความลึกของภาพเหมือนกัน แต่วิธีแบบตาเขเข้าหากัน จะให้ความแตกต่างของความลึกระหว่างชั้นผนังที่มากกว่า
อย่างไรก็ตามภาพซ้ำในแถวเดียวกันไม่จำเป็นต้องมีระยะห่างที่เท่ากัน ระยะห่างที่แตกต่างกันนี้จะทำให้ผู้ดูนั้นรับรู้ถึงระดับความลึกที่แตกต่างกันตามไปด้วย ความลึกของแต่ละภาพซ้ำนั้นสามารถหาได้โดยการคำนวณจากระยะห่างระหว่างภาพที่มองอยู่และภาพที่อยู่ถัดไปทางด้านซ้ายมือ ภาพออโตสเตอริโอแกรมจะถูกออกแบบมาเฉพาะให้ดูด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งดังกล่าวข้างต้น ภาพออโตสเตอริโอแกรมในบทความนี้ทั้งหมด ออกแบบมาสำหรับการดูด้วยวิธีการมองแบบมองไกล นอกจากจะมีการระบุไว้บนภาพ ภาพออโตสเตอริโอแกรมที่ถูกสร้างมาสำหรับการมองแบบมองไกลนี้ ถ้าดูด้วยวิธีตาเขเข้าหากันจะทำให้เห็นเป็นภาพ 3 มิติที่มั่วซั่ว
ภาพออโตสเตอริโอแกรมแบบมองไกลที่แสดงไว้ด้านล่างนี้ จะสร้างภาพความลึก 3 ระดับตามแนวแกน X ผนังส่วนลึกที่สุดจะอยู่ด้านซ้ายของภาพ และผนังที่อยู่ตื้นที่สุดจะอยู่ทางด้านขวาของภาพ ตรงกลางของภาพจะเป็นภาพระดับความลึกปานกลาง ผนังส่วนลึกที่สุดสร้างโดยใช้ภาพซ้ำระยะห่าง 140 พิกเซล เราสามารถทำให้ภาพตื้นขึ้นมาโดยการขยับภาพซ้ำไปทางด้านซ้าย ตัวอย่างเช่น ผนังตรงกลางนั้นสร้างจากการขยับภาพซ้ำไปทางซ้าย 10 พิกเซล ซึ่งทำให้ระยะซ้ำของภาพลดลงเหลือ 130 พิกเซล การประกบภาพซ้ำในสมองของคนเรานั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นภาพที่เราเข้าใจได้ ในภาพออโตสเตอริโอแกรมดังกล่าว เราสามารถรับรู้ความลึกได้ถึงแม้ว่าภาพจะเล็กลง หรือแม้กระทั่งเป็นจุดมั่วก็ตาม
ความสัมพันธ์ระหว่างระยะห่างของจุดใด ๆ ในภาพ และจุดเดียวกันในภาพซ้ำทางด้านซ้ายนั้นสามารถแสดงได้ด้วยการใช้แผนผังแสดงความลึก แผนผังแสดงความลึกนี้เป็นเพียงภาพที่ใช้เพื่อแสดงระยะ โดยปกติแล้วระยะที่อยู่ใกล้กว่าจะใช้ระดับสีเทาที่เข้มน้อยกว่า ในภาพระดับสีเทา 8 บิต จะสามารถแสดงระดับความลึกได้ 256 ระดับ โดยที่ 0 เป็นสีดำ และ 255 เป็นสีขาว
โดยใช้ระดับสีเทานี้ในการสร้างแผนผังความลึกของภาพออโตสเตอริโอแกรมข้างต้น เราสามารถสร้างแผนผังความลึก 3 ระดับโดยใช้สีดำ สีขาว และ สีเทา เพื่อแทนระยะแตกต่างความห่างของภาพซ้ำที่มีการขยับเคลื่อนระยะซ้ำ 0 พิกเซล 10 พิกเซล และ 20 พิกเซล ตามลำดับ แผนผังความลึกนี้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างภาพออโตสเตอริโอแกรมแบบจุดมั่ว
ออโตสเตอริโอแกรมแบบใช้จุดมั่ว
หลักการของโปรแกรมสร้างภาพออโตสเตอริโอแกรมนั้น จะสร้างจากภาพต้นแบบ และ แผนผังแสดงความลึก โดยการเรียงภาพต้นแบบซ้ำ ๆ กันในแนวนอน ที่แต่ละจุดในภาพต้นแบบ โปรแกรมจะดูค่าระดับสีเทาแสดงความลึกในแผนผังแสดงความลึกของจุดนั้น และใช้ค่าความลึกนี้ในการคำนวณระยะและทำการปรับย้ายตำแหน่งของจุดนั้น
ซึ่งวิธีการหนึ่งที่สามารถทำได้นั้น คือการกวาดพิกเซลของภาพต้นแบบทีละแถวจากซ้ายไปขวา และคำนวณค่าการเคลื่อนของแต่ละจุดจากแผนผังความลึก แล้วทำการลบค่านี้ออกจากความกว้างของภาพซ้ำต้นแบบเพื่อหาระยะซ้ำ จากนั้นก็กวาดกลับไปอ่านค่าพิกเซลที่อยู่ห่างออกไปทางด้านซ้ายเท่ากับระยะซ้ำทำคำนวณได้นี้ และทำการลอกค่ามาใส่ยังพิกเซลที่ตำแหน่งปัจจุบันที่พิจารณาอยู่
ข้อดีของภาพแบบจุดมั่วเหนือ สเตอริโอแกรมแบบกระดาษบุผนัง คือ สามารถสร้างระยะซ้ำจากระยะลึกที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าแต่ละจุดในภาพนั้นสามารถปรับเคลื่อนตำแหน่งได้โดยอิสระ ในทางปฏิบัติระดับความลึกจะเท่ากับจำนวนพิกเซลในแนวกว้างของภาพต้นแบบ ที่แต่ละจุดระดับสีเทาจะถูกแปลงเป็นระยะซ้ำของภาพต้นแบบ ด้งนั้นระดับความลึกทั้งหมดที่เป็นไปได้จะน้อยกว่าความกว้างของภาพต้นแบบ
ในการสร้างระดับความลึกที่ต่อเนื่องนั้น จำเป็นต้องใช้ภาพซ้ำต้นแบบที่มีรายละเอียดซับซ้อนกว่าภาพต้นแบบของแบบบุผนัง ดังนั้นภาพของจุดมั่วจึงเป็นภาพที่เหมาะสม ภาพสเตอริโอแกรมแบบจุดมั่วนี้มีชื่อเรียกว่า สเตอริโอแกรมภาพเดี่ยวแบบจุดมั่ว (single image random dot stereograms-SIRDS)
ระดับความลึกที่ต่อเนื่องนี้ ยังสามารถสร้างได้จากภาพต้นแบบธรรมดาทั่วไป แต่ภาพนั้นจะต้องมีรายละเอียดที่สูงพอ โดยจะต้องไม่มีบริเวณภาพผิวเรียบสีสม่ำเสมอในแนวนอนที่มีขนาดใหญ่ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณดังกล่าวจะไม่สามารถใช้ในการแสดงตำแหน่งเคลื่อนของพิกเซลได้ เพราะดูเหมือนกันหมด ภาพสเตอริโอแกรมฉลามด้านล่างนั้น สามารถมองออกได้ถึงแม้ว่าจะมีบริเวณที่เป็นสีสม่ำเสมอเล็ก ๆ กระจัดกระจายอยู่ก็ตาม ภาพดังกล่าวถึงแม้จะใช้ภาพธรรมดาทั่วไปที่ไม่ใช่จุดมั่วเป็นต้นแบบ ก็ยังจัดเป็นประเภทภาพออโตสเตอริโอแกรมแบบจุดมั่ว
ออโตสเตอริโอแกรมแบบเคลื่อนไหว
ภาพออโตสเตอริโอแกรมเคลื่อนไหว มีหลักการเช่นเดียวกับ การแสดงภาพเคลื่อนไหว หรือ ภาพยนตร์ คือ แสดงชุดของภาพออโตสเตอริโอแกรม ทีละภาพอย่างต่อเนื่อง ถ้าภาพเหล่านี้มีภาพพื้นด้านหลังเดียวกัน จะส่งผลให้เราสามารถมองเห็นเส้นขอบลาง ๆ ของภาพ 3 มิติที่ต้องการสร้างนี้ได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการมองภาพออโตสเตอริโอแกรม เพราะภาพของวัตถุที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องนั้นสามารถสังเกตเห็นได้จากพื้นหลังที่อยู่นิ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นในการสร้างภาพออโตสเตอริโอแกรมเคลื่อนที่จึงมักจะใช้ภาพพื้นหลังที่มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเพื่ออำพรางการเปลี่ยนแปลงในส่วนของภาพวัตถุ
วิธีการดู
คนบางคนนั้นสามารถมองเห็นภาพ 3 มิติจากสเตอริโอแกรมได้ทันที แต่บางคนอาจต้องมีการฝึกฝนการมองเบลอ โดยการจงใจปรับให้สูญเสียโฟกัส
การรับรู้การมองเห็น 3 มิติของสมอง
การรับรู้ระยะความลึกของสมองนั้นมีหลายวิธี สำหรับวัตถุที่อยู่ใกล้ตาในระยะ 18-20 ฟุตนั้น การรับภาพจากตาทั้งสอง (binocular vision) จะมีส่วนสำคัญในการประเมินความลึก สมองจะสร้าง (en:Cyclopean image) ขึ้นจากภาพที่รับมาจากตาทั้งสองข้าง และประเมินค่าความลึกให้กับแต่ละจุดในภาพไซคลอเปียนนี้
สมองจะใช้ความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งในภาพ หรือที่เรียกว่า (en:Parallax) ในการประเมินระยะความลึก ระยะความลึกของแต่ละจุดในภาพจะปรากฏในสมองในรูปของความสว่าง จุดที่มีระยะใกล้ก็จะสว่างมาก ดังนั้นเราสามารถแสดงให้เห็นถึงการรับรู้ระยะลึกของสมองโดยการรับภาพจากตาทั้งสองข้างนี้ โดยการใช้ แผนผังความลึก ที่สร้างจากตำแหน่งคลาดเคลื่อนในภาพ
การรับภาพด้วยตาสองข้าง หรือ การรับภาพแบบสเตอริโอ สมองจะรับรู้ความลึกจากพาราแลกซ์ โดยการประเมินความลึกของวัตถุในภาพจากมุมของการลู่เข้าของแนวสายตา
วิธีการลวงให้สมองมองเห็นภาพ 3 มิติ
โดยปกติแล้วการปรับระยะโฟกัสของตานั้น แนวการมองจะลู่เข้าหาจุดเดียวกัน ถ้ากำลังมองวัตถุที่อยู่ไกล สมองจะปรับเลนส์ให้แบนลง และ หมุนลูกตา ให้มองไปที่ไกล ๆ เราสามารถฝึกหัดปรับการมองไปที่ไกล ๆ นี้ เพื่อใช้ในการมองภาพออโตสเตอริโอแกรม ที่สร้างขึ้นนี้ได้
การมองภาพออโตสเตอริโอแกรมที่อยู่ใกล้ตา โดยการปรับระยะการมองให้ไปยังจุดที่อยู่ไกล ๆ ข้างหลังภาพ จะทำให้เราสามารถมองเห็นภาพ 3 มิติได้ ถ้าหากภาพที่รับเข้ามาจากตาทั้งสองข้างนั้นเหมือนกัน สมองจะถือว่าภาพทั้งสองนี้เป็นจุดเดียวกัน และจะประกบภาพเข้าด้วยกัน การมองภาพแบบนี้เรียกว่า การมองภาพแบบมองไกล เนื่องจากมุมเสมือนของการลู่เข้าหาจะอยู่ที่ระยะไกลกว่าระยะจริง ซึ่งส่งผลให้วัตถุเสมือนนั้นอยู่ไกลขึ้น ลึกเข้าไปในภาพออโตสเตอริโอแกรมนั้น ภาพเสมือนของวัตถุจะปรากฏใหญ่กว่าภาพจริง อันเนื่องมาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า (foreshortening)
ภาพออโตสเตอริโอแกรมด้านล่างจะมีภาพซ้ำ 3 แถว โดยแต่ละแถวนั้นจะมีระยะห่างของภาพซ้ำที่ต่างกัน จะเห็นว่าในขณะที่มีภาพปลาโลมาเพียง 6 ตัวอยู่ในภาพ เราจะมองเห็นเป็นปลาโลมา 7 ตัวในขณะที่มองเห็นภาพเสมือน 3 มิติ ทั้งนี้เนื่องมาจากในขณะที่สมองรับรู้ภาพเสมือนโดยการมองแบบมองไกล สมองจะรับรู้ภาพจากแนวการมอง 2 ชุดดังแสดงในภาพกลาง
คำศัพท์เฉพาะทาง
- สเตอริโอแกรม (Stereogram) ดั้งเดิมใช้อธิบาย ภาพ 2 มิติ 2ภาพ ซึ่งใช้กับเครื่องมองภาพ 3 มิติ (stereoscope) แต่ในปัจจุบันคำนี้ใช้หมายถึง ภาพออโตสเตอริโอแกรมแบบจุดมั่วด้วย
- สเตอริโอแกรมแบบจุดมั่ว (Random-dot stereogram) (RDS) ดั้งเดิมใช้หมายถึง ภาพจุดมั่ว 2 ภาพ ซึ่งสร้างภาพลวง 3 มิติโดยการมองผ่านเครื่องมองภาพ 3 มิติ ในปัจจุบันคำนี้ก็ใช้หมายถึง ภาพออโตสเตอริโอแกรมด้วย
- สเตอริโอแกรมแบบภาพเดี่ยว (Single-image stereogram) (SIS) คือภาพ 2 มิติภาพเดียว ซึ่งเมื่อมองโดยการใช้วิธีการที่เหมาะสม จะทำให้สามารถมองเห็นภาพลวง 3 มิติได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ ช่วย
- ออโตสเตอริโอแกรม (Autostereogram) มีความหมายเดียวกับ สเตอริโอแกรมแบบภาพเดี่ยว
- ออโตสเตอริโอแกรมแบบกระดาษบุผนัง (Wallpaper autostereogram) คือ ภาพ 2 มิติซึ่งมีภาพซ้ำ ๆ กัน ด้วยระยะห่างต่าง ๆ เพื่อภาพลวง 3 มิติที่ระยะความลึกต่าง ๆ ทั้งลอยขึ้นมา และ ยุบลงไป เมื่อเทียบกับผนังเสมือนในภาพ 3 มิติ
- ออโตสเตอริโอแกรมแบบจุดมั่ว (Random-dot autostereogram) หรือ เรียก ออโตสเตอริโอแกรมภาพเดี่ยวแบบจุดมั่ว (single-image random-dot stereogram - SIRDS) ใช้หมายถึงภาพออโตสเตอริโอแกรม ที่ใช้จุดมั่วเป็นแม่แบบในการสร้าง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud xxotsetxrioxaekrm autostereogram epn hrux phaphsetxrioxaebbphaphediyw thixxkaebbmaephux thaihmxngehnphaphsxngmitinnepnphaphsammiti setxrioxaekrmchnidthingaythisudkkhux setxrioxaekrmaebbkradasbuphnng wallpaper autostereogram phaphmhscrrysammitithiruckkndinneriykwa xxotsetxrioxaekrmaebbichcudmw random dot autostereogram hlkkarinkarmxngehnphaphpraephthninncaekidcakkarmxngehnthisuyesiykarofks phaphxxotsetxrioxaekrmekhluxnihw aebbichcudmw ephuxekharhsphaphsingaewdlxm 3 miti sungcasamarthmxngehniddwykarichethkhnikhkarmxngthiehmaasmTut Animated Shark gif 800x200 versionprawtiinpi kh s 1838 Charles Wheatstone nkpradisthchawxngkvs khnphbkarmxngehnaebbsetxriox binocular vision sungnaipsukarpradisth stereoscope odykarich prisum aela krack ephuxthaihekidkarmxngehnphaph 2 mitiepn 3 miti txmainchwngpi kh s 1849 1850 David Brewster nkwithyasastrchawskxt idphthna ekhruxngmxngphaph 3 miti khxng withsotn odykarichelnsaethnkrackephuxldkhnadkhxngxupkrnlng nxkcaknnekhayngidsngektphbwakarcxngmxngrupaebbsa inkradasbuphnngnncathaihekidxakarlwngta enuxngcaksmxngcaphyayamprakbphaphehmuxnekhadwykn thaihehmuxnmiphnngesmuxnpraktxyukhanghlngphnngxikchnhnung sungniepnhlkkarphunthankhxng setxrioxaekrmaebb inpi kh s 1959 Bela Julesz nkcitwithyachawhngkari idkhnphb setxrioxaekrmaebbcudmw inkhnathikalngmxnghawtthuthithukxaphrang inphaphthaythangxakascakekhruxngbinsxdaenm thi sunywicyebll Bell Laboratories ekhaidichkhxmphiwetxrsrangphaphcudmwthidukhlayknkhunsxngphaph sungemuxmxngphan cathaihmxngehnphaphmiruprangepn 3 miti inpi kh s 1979 Christopher Tyler luksisykhxngcuels aelaepnnkcitwithyakarmxngehn idrwmthvsdikhxng setxrioxaekrmaebbkradasbuphnng sungepnaebbphaphediyw kb setxrioxaekrmaebbcudmw aelasrang xxotsetxrioxaekrmaebbcudmw phaphaerkkhun sungruckkninchux setxrioxaekrmphaphediywaebbcudmw phaphpraephthnicathaihmxngehnphaph 2 mitiphaphediyw epn 3 mitiidodyimtxngichxupkrnesrimid hlkkarthangansetxrioxaekrmaebbkradasbuphnng twxyangkradasbuphnng sungmirupsainaenwnxn aetlarupaebbcasaknthuk 40 phikesl phaphlwngphnngcaehnxyuhlngkaaephngcring aetrupaebbthiimsaechnluksr aela twxksrcaxyuinradbediywkbphnng smxngkhxngmnusyerann miklikinkarrbruphaphaebbsetxriox sungepnkarrbruthungrayakhwamlukkhxngphaph cakphaph 2 mitithirbekhamacaktathngsxngkhangsungcamikhwamaetktangknelknxy smxngkhxngeracaphyayamrbruthungrayakhwamlukin 3 mitiodykarepriybethiybcudtang inphaphthirbekhamathangtadanhnung kbphaphthirbekhathangtaxikdanhnung aelapraeminrayakhwamlukkhxngphaphid emuxeramxngphaphthimikhwamehmuxnaebbsa kn dngechnphaphkradasbuphnng smxngeracasbsnaelakarepriybethiybphaphcaktathngsxngnnepnipdwykhwamlabak emuxphaphthimxngmirupaebbsakn calwngihsmxngnnprakbphaphthirbekhamaphidphlad odyprakbphaphhnungkbphaphxunsungehmuxnkn sungtangcakpktithiprakbcudinphaphcudediywkninphaphthirbekhamathangtathngsxngkhang sungthaihekidphaphlwngkhxngphnngthiphaphpaxyunn xyulukekhaipinphnngcring khwamlukkhxngphnnglwngekhaipinphnngcringnicakhunxyukbrayahangrahwangrupthisa knni xxotsetxrioxaekrm ichhlkkhwamsmphnthrahwangkhwamlukkhxngphaph kbrayasaknkhxngphaphni inkarsrangphaph 3 miti odythamibangbriewninphaph thimirupsa kn aelamirayahangnxykwarayahangpkti phunthibriewnnnkcaehnepnphaphthimikhwamluknxykwaphnnglwng khuxnunxxkmacakphnnglwng swnbriewnihnthiphaphsannmirayahangkwapkti kcathaihehnbriewnnnxyulukkwaphnnglwng khuxehnepnrubumekhaip phaphxxotsetxrioxaekrm aesdngphnnglwng 3 radbkhwamlukodykarichrayahangkhxngphaphsatang kn phaph 3 mitiintwxyangphaphxxotsetxrioxaekrm srangodykarichphaphkhiesuxsa kn thuk 140 phikesl swnphaphkhichlamnnsaknthuk 130 phikesl aelaphaphesuxsaknthuk 120 phikesl yingphaphsaxyuiklknmakkhuncathaihmxngehnphaphlxysungcakphnngmakkhun rayathangrahwangphaphsacaeriykwa khwamluk hrux kha z bfefxr khxngphaphsann phaphniaesdngthunglksnaphaph 3 miti thicamxngehnlxykhunmainphaphxxotsetxrioxaekrm aesdngkhwamluk hrux khaaekn z khxngphaph sungmikhaaeprtamrayahangrahwangphaphsa smxngkhxngerannmikhwamsamarththicaprakbphaphhlayrxyphaphthisa kndwyrayahangtang ephuxthicarbruradbkhwamlukkhxngphaph phaphxxotsetxrioxaekrmphaphhnungnnxacmiphaphesux 50 twthimikhnadtang kn sa kndwyrayatang aelamirupdanhlngthisbsxn aetsmxngmnusyerannkyngsamarthcbprakbphaphephuxhakhwamlukid smxngsamarthprakbphaphesuxephuxrbruthungkhwamluk phaphaesdngihehnthungkhwamlukkhxngphaphthirbrucakxxotsetxrioxaekrmaephnphngaesdngkhwamluk xxotsetxrioxaekrmthimirupinaetlaaethwsakninaenwnxndwyrayahangetha kn samarthduiddwywithi karmxngaebbtaekhekhahakn cross eyed hrux karmxngaebbmxngikl wall eyed karduthngsxngaebbnicaidkarrbruradbkhwamlukkhxngphaphehmuxnkn aetwithiaebbtaekhekhahakn caihkhwamaetktangkhxngkhwamlukrahwangchnphnngthimakkwa rupaebbsaaetlaaethwinxxotsetxrioxaekrmnicapraktthiradbkhwamlukaetktangkn xyangirktamphaphsainaethwediywknimcaepntxngmirayahangthiethakn rayahangthiaetktangknnicathaihphudunnrbruthungradbkhwamlukthiaetktangkntamipdwy khwamlukkhxngaetlaphaphsannsamarthhaidodykarkhanwncakrayahangrahwangphaphthimxngxyuaelaphaphthixyuthdipthangdansaymux phaphxxotsetxrioxaekrmcathukxxkaebbmaechphaaihdudwywithikaridwithikarhnungdngklawkhangtn phaphxxotsetxrioxaekrminbthkhwamnithnghmd xxkaebbmasahrbkardudwywithikarmxngaebbmxngikl nxkcakcamikarrabuiwbnphaph phaphxxotsetxrioxaekrmthithuksrangmasahrbkarmxngaebbmxngiklni thadudwywithitaekhekhahakncathaihehnepnphaph 3 mitithimwsw phaphxxotsetxrioxaekrmaebbmxngiklthiaesdngiwdanlangni casrangphaphkhwamluk 3 radbtamaenwaekn X phnngswnlukthisudcaxyudansaykhxngphaph aelaphnngthixyutunthisudcaxyuthangdankhwakhxngphaph trngklangkhxngphaphcaepnphaphradbkhwamlukpanklang phnngswnlukthisudsrangodyichphaphsarayahang 140 phikesl erasamarththaihphaphtunkhunmaodykarkhybphaphsaipthangdansay twxyangechn phnngtrngklangnnsrangcakkarkhybphaphsaipthangsay 10 phikesl sungthaihrayasakhxngphaphldlngehlux 130 phikesl karprakbphaphsainsmxngkhxngkhnerannimcaepncatxngepnphaphthieraekhaicid inphaphxxotsetxrioxaekrmdngklaw erasamarthrbrukhwamlukidthungaemwaphaphcaelklng hruxaemkrathngepncudmwktam phunsikhaw etha aela da aesdngradbkhwamlukkhxngphaph aebb khwamsmphnthrahwangrayahangkhxngcudid inphaph aelacudediywkninphaphsathangdansaynnsamarthaesdngiddwykarichaephnphngaesdngkhwamluk aephnphngaesdngkhwamlukniepnephiyngphaphthiichephuxaesdngraya odypktiaelwrayathixyuiklkwacaichradbsiethathiekhmnxykwa inphaphradbsietha 8 bit casamarthaesdngradbkhwamlukid 256 radb odythi 0 epnsida aela 255 epnsikhaw odyichradbsiethaniinkarsrangaephnphngkhwamlukkhxngphaphxxotsetxrioxaekrmkhangtn erasamarthsrangaephnphngkhwamluk 3 radbodyichsida sikhaw aela sietha ephuxaethnrayaaetktangkhwamhangkhxngphaphsathimikarkhybekhluxnrayasa 0 phikesl 10 phikesl aela 20 phikesl tamladb aephnphngkhwamlukniepnswnsakhyinkarsrangphaphxxotsetxrioxaekrmaebbcudmw xxotsetxrioxaekrmaebbichcudmw aephnphngkhwamluk hlkkarkhxngopraekrmsrangphaphxxotsetxrioxaekrmnn casrangcakphaphtnaebb aela aephnphngaesdngkhwamluk odykareriyngphaphtnaebbsa kninaenwnxn thiaetlacudinphaphtnaebb opraekrmcadukharadbsiethaaesdngkhwamlukinaephnphngaesdngkhwamlukkhxngcudnn aelaichkhakhwamlukniinkarkhanwnrayaaelathakarprbyaytaaehnngkhxngcudnn sungwithikarhnungthisamarththaidnn khuxkarkwadphikeslkhxngphaphtnaebbthilaaethwcaksayipkhwa aelakhanwnkhakarekhluxnkhxngaetlacudcakaephnphngkhwamluk aelwthakarlbkhanixxkcakkhwamkwangkhxngphaphsatnaebbephuxharayasa caknnkkwadklbipxankhaphikeslthixyuhangxxkipthangdansayethakbrayasathakhanwnidni aelathakarlxkkhamaisyngphikeslthitaaehnngpccubnthiphicarnaxyu rupsiehliym 3 xn thikhwamlukaetktangkn aetlacudinphaphmirayasatamaephnphngkhwamluk khxdikhxngphaphaebbcudmwehnux setxrioxaekrmaebbkradasbuphnng khux samarthsrangrayasacakrayalukthiepliynaeplngxyangtxenuxng ephraawaaetlacudinphaphnnsamarthprbekhluxntaaehnngidodyxisra inthangptibtiradbkhwamlukcaethakbcanwnphikeslinaenwkwangkhxngphaphtnaebb thiaetlacudradbsiethacathukaeplngepnrayasakhxngphaphtnaebb dngnnradbkhwamlukthnghmdthiepnipidcanxykwakhwamkwangkhxngphaphtnaebb phaphxxotsetxrioxaekrmaebbcudmw khxngphaphchlam sungmiradbkhwamluklaexiyd aela epliynaeplngxyangtxenuxng inkarsrangradbkhwamlukthitxenuxngnn caepntxngichphaphsatnaebbthimiraylaexiydsbsxnkwaphaphtnaebbkhxngaebbbuphnng dngnnphaphkhxngcudmwcungepnphaphthiehmaasm phaphsetxrioxaekrmaebbcudmwnimichuxeriykwa setxrioxaekrmphaphediywaebbcudmw single image random dot stereograms SIRDS radbkhwamlukthitxenuxngni yngsamarthsrangidcakphaphtnaebbthrrmdathwip aetphaphnncatxngmiraylaexiydthisungphx odycatxngimmibriewnphaphphiweriybsismaesmxinaenwnxnthimikhnadihy thngnienuxngcakbriewndngklawcaimsamarthichinkaraesdngtaaehnngekhluxnkhxngphikeslid ephraaduehmuxnknhmd phaphsetxrioxaekrmchlamdanlangnn samarthmxngxxkidthungaemwacamibriewnthiepnsismaesmxelk kracdkracayxyuktam phaphdngklawthungaemcaichphaphthrrmdathwipthiimichcudmwepntnaebb kyngcdepnpraephthphaphxxotsetxrioxaekrmaebbcudmw aephnphngaesdngradbkhwamluk khxngchlam phaphchlam 3 mitithiehncamiruprangthimneriybtxenuxng xxotsetxrioxaekrmaebbekhluxnihw phaphxxotsetxrioxaekrmekhluxnihw Tut Animated Shark gif 800x200 version phaphxxotsetxrioxaekrmekhluxnihw mihlkkarechnediywkb karaesdngphaphekhluxnihw hrux phaphyntr khux aesdngchudkhxngphaphxxotsetxrioxaekrm thilaphaphxyangtxenuxng thaphaphehlanimiphaphphundanhlngediywkn casngphliherasamarthmxngehnesnkhxblang khxngphaph 3 mitithitxngkarsrangniidodyimtxngichwithikarmxngphaphxxotsetxrioxaekrm ephraaphaphkhxngwtthuthiepliynaeplngxyangtxenuxngnnsamarthsngektehnidcakphunhlngthixyuningimmikarepliynaeplng dngnninkarsrangphaphxxotsetxrioxaekrmekhluxnthicungmkcaichphaphphunhlngthimikarepliynaeplngdwyephuxxaphrangkarepliynaeplnginswnkhxngphaphwtthuwithikardukhnbangkhnnnsamarthmxngehnphaph 3 miticaksetxrioxaekrmidthnthi aetbangkhnxactxngmikarfukfnkarmxngeblx odykarcngicprbihsuyesiyofks karrbrukarmxngehn 3 mitikhxngsmxng karrbrurayakhwamlukkhxngsmxngnnmihlaywithi sahrbwtthuthixyuikltainraya 18 20 futnn karrbphaphcaktathngsxng binocular vision camiswnsakhyinkarpraeminkhwamluk smxngcasrang en Cyclopean image khuncakphaphthirbmacaktathngsxngkhang aelapraeminkhakhwamlukihkbaetlacudinphaphiskhlxepiynni tathngsxngkhangcaprbmxngipyngwtthuthisnic smxngsrngphaphiskhlxepiyn cakphaph 2 phaphthirbekhamacaktathngsxngkhang smxngcapraeminhakhwamlukkhxngaetlacudinphaphiskhlxepiyn sunginphaphniichradbsiethainkaraesdngkhwamluk smxngcaichkhwamkhladekhluxnkhxngtaaehnnginphaph hruxthieriykwa en Parallax inkarpraeminrayakhwamluk rayakhwamlukkhxngaetlacudinphaphcapraktinsmxnginrupkhxngkhwamswang cudthimirayaiklkcaswangmak dngnnerasamarthaesdngihehnthungkarrbrurayalukkhxngsmxngodykarrbphaphcaktathngsxngkhangni odykarich aephnphngkhwamluk thisrangcaktaaehnngkhladekhluxninphaph taprbrayaofksephuxihphaphkhmchdtathngsxngmxngipyngcudediywkninkhnathikhneracxngmxngwtthu luktakhxngerathngsxngkhangnncaprbhmunipdankhang ephuxihwtthunnpraktthicudkungklanginphaphthiprkdbnertinakhxngtathngsxngkhang inkarmxngwtthuthixyuiklluktathngsxngcaprbhmunmummxngekhahaknipyngwtthunn lksnakarmxngaebbnicaeriykwa karmxngaebbtaekhekhahakn hrux cross eyed viewing aelaemuxmxngwtthuthixyuiklxxkipluktacaprbhmunmummxnghangxxkcakkn cnkrathngekuxbcamimummxngthiepnaenwkhnankneriykwa karmxngaebbmxngikl hrux wall eyed viewing hruxkarmxngipyngtaaehnngthixyuiklxxkip karrbphaphdwytasxngkhang hrux karrbphaphaebbsetxriox smxngcarbrukhwamlukcakpharaaelks odykarpraeminkhwamlukkhxngwtthuinphaphcakmumkhxngkarluekhakhxngaenwsayta withikarlwngihsmxngmxngehnphaph 3 miti karthaihkarmxngsuyesiykarofks cachwyihsmxngrbruphaph 3 miticakphaphxxotsetxrioxaekrm 2 miti odypktiaelwkarprbrayaofkskhxngtann aenwkarmxngcaluekhahacudediywkn thakalngmxngwtthuthixyuikl smxngcaprbelnsihaebnlng aela hmunlukta ihmxngipthiikl erasamarthfukhdprbkarmxngipthiikl ni ephuxichinkarmxngphaphxxotsetxrioxaekrm thisrangkhunniid karmxngphaphxxotsetxrioxaekrmthixyuiklta odykarprbrayakarmxngihipyngcudthixyuikl khanghlngphaph cathaiherasamarthmxngehnphaph 3 mitiid thahakphaphthirbekhamacaktathngsxngkhangnnehmuxnkn smxngcathuxwaphaphthngsxngniepncudediywkn aelacaprakbphaphekhadwykn karmxngphaphaebbnieriykwa karmxngphaphaebbmxngikl enuxngcakmumesmuxnkhxngkarluekhahacaxyuthirayaiklkwarayacring sungsngphlihwtthuesmuxnnnxyuiklkhun lukekhaipinphaphxxotsetxrioxaekrmnn phaphesmuxnkhxngwtthucapraktihykwaphaphcring xnenuxngmacakpraktkarnthieriykwa foreshortening phaphxxotsetxrioxaekrmdanlangcamiphaphsa 3 aethw odyaetlaaethwnncamirayahangkhxngphaphsathitangkn caehnwainkhnathimiphaphplaolmaephiyng 6 twxyuinphaph eracamxngehnepnplaolma 7 twinkhnathimxngehnphaphesmuxn 3 miti thngnienuxngmacakinkhnathismxngrbruphaphesmuxnodykarmxngaebbmxngikl smxngcarbruphaphcakaenwkarmxng 2 chuddngaesdnginphaphklang esnsidathngsxnginphaphcachwysrangkarrbphaphaebbkarmxngikl emuxsmxngrbphaphdwywithikarmxngikl capraktmiesnmumkarmxngxyu 2 chud ruplukbaskinaethwaerkcapraktihykwa ruplukbaskinaethwxunkhasphthechphaathangsetxrioxaekrm Stereogram dngedimichxthibay phaph 2 miti 2phaph sungichkbekhruxngmxngphaph 3 miti stereoscope aetinpccubnkhaniichhmaythung phaphxxotsetxrioxaekrmaebbcudmwdwysetxrioxaekrmaebbcudmw Random dot stereogram RDS dngedimichhmaythung phaphcudmw 2 phaph sungsrangphaphlwng 3 mitiodykarmxngphanekhruxngmxngphaph 3 miti inpccubnkhanikichhmaythung phaphxxotsetxrioxaekrmdwysetxrioxaekrmaebbphaphediyw Single image stereogram SIS khuxphaph 2 mitiphaphediyw sungemuxmxngodykarichwithikarthiehmaasm cathaihsamarthmxngehnphaphlwng 3 mitiidodyimcaepntxngichxupkrnid chwyxxotsetxrioxaekrm Autostereogram mikhwamhmayediywkb setxrioxaekrmaebbphaphediywxxotsetxrioxaekrmaebbkradasbuphnng Wallpaper autostereogram khux phaph 2 mitisungmiphaphsa kn dwyrayahangtang ephuxphaphlwng 3 mitithirayakhwamluktang thnglxykhunma aela yublngip emuxethiybkbphnngesmuxninphaph 3 mitixxotsetxrioxaekrmaebbcudmw Random dot autostereogram hrux eriyk xxotsetxrioxaekrmphaphediywaebbcudmw single image random dot stereogram SIRDS ichhmaythungphaphxxotsetxrioxaekrm thiichcudmwepnaemaebbinkarsrang