วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส (เยอรมัน: Waffen-SS) หรือ เอ็สเอ็สสรรพาวุธ เป็นกองกำลังทหารติดอาวุธของพรรคนาซี ถือเป็นหนึ่งในสองสาขาของชุทซ์ชตัฟเฟิล (เอ็สเอ็ส) ก่อตั้งขึ้นจากการรวมตัวกันของชาวเยอรมัน พร้อมกับอาสาสมัครและทหารเกณฑ์จากในยึดครองและดินแดนนอกยึดครอง หน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สเปรียบเสมือนเป็นเหล่าทัพที่สี่ของเยอรมนีนอกจากกองทัพบก, กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ
วัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส | |
---|---|
Waffen-SS | |
ประจำการ | 1933–1945 |
ประเทศ | ไรช์เยอรมัน |
ขึ้นต่อ | อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ |
เหล่า | Schutzstaffel |
รูปแบบ | |
กำลังรบ | 900,000 นายใน |
ขึ้นกับ | SS; under operational control of the |
กองบัญชาการ | กรุงเบอร์ลิน |
คำขวัญ | "เกียรติของข้าคือความภักดี" (Meine Ehre heißt Treue) |
ปฏิบัติการสำคัญ | สงครามโลกครั้งที่สอง |
ผู้บังคับบัญชา | |
ผบ. สำคัญ | ไฮน์ริช ฮิมเลอร์ |
หน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สเดิมมีเพียงสามกรม ต่อมาได้ขยายจำนวนมากถึง 38 กองพลเอ็สเอ็สในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และทำหน้าที่ควบคู่กับกองทัพบก, ตำรวจรักษาความสงบ และหน่วยรักษาความปลอดภัยอื่นๆ แต่เดิมทีหน่วยนี้ขึ้นต่อสำนักอำนวยการเอ็สเอ็ส (SS Führungshauptamt) ในบัญชาของไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส ไฮน์ริช ฮิมเลอร์ ต่อมาเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองปะทุขึ้น จึงมีการแบ่งสายบัญชาการเป็นสองสาย สายแรกรับคำสั่งทางยุทธวิธีจากกองบัญชาการใหญ่แห่งแวร์มัคท์ (OKW) และสายที่สองขึ้นตรงต่อกองบัญชาเจ้าหน้าที่ไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส (Kommandostab Reichsführer-SS) ในบัญชาของฮิมเลอร์โดยตรง
ในช่วงต้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายเชื้อชาติของพรรคนาซี การเข้าเป็นสมาชิกจึงเปิดรับสมัครให้กับเพียงผู้มีเชื้อชาติเยอรมันเท่านั้น (ที่ถูกเรียกว่า เชื้อชาติอารยัน) ข้อบังคับนี้มีการผ่อนปรณลงบางส่วนในปี ค.ศ. 1940 ต่อมามีการอนุมัติให้จัดตั้งหน่วยเฉพาะขึ้นมา ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมดหรือส่วนใหญ่เป็นอาสาสมัครหรือผู้ถูกเกณฑ์ที่เป็นชาวต่างชาติ หน่วยเอ็สเอ็สเหล่านี้จะประกอบไปด้วยชายส่วนใหญ่ที่มาจากกลุ่มเชื้อชาติของยุโรปที่ถูกเยอรมนียึดครอง แต่ถึงแม้จะมีการผ่อนปรณข้อบังคับลง แต่หน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สก็ยังถืออุดมคติทางเชื้อของนาซี และห้ามผู้มีเชื้อชาติโปแลนด์(ที่ถูกมองว่าเป็นพวกต่ำกว่ามนุษย์)เข้ามาอยู่ในองค์กร
สมาชิกหน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สมีส่วนเกี่ยวข้องกับความโหดร้ายทารุณมากมายในช่วงสงครามการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์คในช่วงหลังสงคราม หน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สถูกตัดสินว่าเป็นองค์กรอาชญากรรม เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคนาซีและเกี่ยวข้องโดยตรงกับอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติจำนวนมากมาย อดีตสมาชิกหน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สถูกระงับสิทธิหลายประการที่ทหารผ่านศึกควรได้รับ ข้อยกเว้นที่ทำให้ไว้กับทหารเกณฑ์จากหน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส ที่ได้รับการยกเว้นนั้นเพราะพวกเขาไม่ได้อาสาสมัครเลย มีจำนวนประมาณหนึ่งในสามของสมาชิกทั้งหมดล้วนถูกเกณฑ์
จุดถือกำเนิด(ค.ศ. 1929-39)
จุดถือกำเนิดของหน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สได้สืบย้อนไปถึงการคัดเลือกกลุ่มของคนหน่วยเอ็สเอ็ส 120 คน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1933 โดยเซ็พ ดีทริช เพื่อก่อตั้ง Sonderkommando เบอร์ลิน ช่วงเดือนพฤศจิยน ค.ศ. 1933 การก่อตั้งขึ้นได้มีจำนวน 800 คน และที่พิธีฉลองในมิวนิกสำหรับวันครบรอบสิบปีจากความล้มเหลวของกบฏโรงเบียร์ในมิวนิก กรมทหารเหล่านี้ได้กล่าวคำสัตย์สาบานว่าจะจงรักภักดีต่ออดอล์ฟ ฮิตเลอร์ คำสัตย์สาบานคือ"ปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อเขาแต่เพียงผู้เดียว"และ"จะเชื่อฟังแม้กระทั่งความตาย" การก่อตั้งหน่วยทหารนี้ได้ถูกแต่งตั้งชื่อเป็นไลบ์ชตันดาร์เทอ (กรมทหารคุ้มกัน) อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (LAH) เมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 1934 โดยคำสั่งของฮิมเลอร์ กรมทหารนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักกันคือ ไลบ์ชตันดาร์เทอเอ็สเอ็ส อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (LSSAH)
ไลบ์ชตันดาร์เทอได้แสดงความจงรักภักดีต่อฮิตเลอร์ในปี ค.ศ. 1934 ในช่วง"คืนมีดยาว" เมื่อระบอบนาซีได้ดำเนินการชุดการสังหารทางการเมืองและกวาดล้างหน่วยชตูร์มับไทลุง (SA) นำโดยหนึ่งในสหายที่เก่าแก่ที่สุดของฮิตเลอร์ แอนสท์ เริม หน่วยเอ็สเอได้ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามโดยฮิตเลอร์ต่ออำนาจทางการเมืองที่เพิ่งได้รับมา ฮิตเลอร์ยังคงต้องการที่จะผูกมิตรกับผู้นำของไรชส์แวร์ (กองทัพแห่งสาธารณรัฐ) และฝ่ายอนุรักษ์นิยมของประเทศ, ประชาชนที่ให้การสนับสนุน ฮิตเลอร์มีความจำเป็นเพื่อความมั่งคงต่อตำแหน่งของเขา เมื่อฮิตเลอร์ได้ตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายปรปักษ์ต่อหน่วยเอ็สเอ หน่วยเอ็สเอ็สได้รับหน้าที่ในการกำจัดเริมและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยเอ็สเอคนอื่นๆ คืนมีดยาวได้อุบัติขึ้นระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1934 และแสดงให้เห็นว่ามีการสังหารผู้คนไปถึงกว่า 200 คน นี้ยังรวมไปถึงผู้นำของหน่วยเอ็สเอเกือบทั้งหมด, ได้สิ้นอำนาจอย่างสมบูรณ์ การปฏิบัติการนี้ส่วนใหญ่ได้ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่หน่วยเอ็สเอ็ส (รวมทั้งไลบ์ชตันดาร์เทอ) และเกสตาโพ
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1934 ฮิตเลอร์ได้อนุมัติให้ก่อตั้งกองกำลังปีกของพรรคนาซีและอนุมัติให้ก่อตั้งหน่วยเอ็สเอ็ส-เวอร์ฟือกุนจ์สทรูปเปอร์ (SS-VT) ทหารที่ทำหน้าที่พิเศษภายใต้บัญชาการโดยรวมของฮิตเลอร์ หน่วยเอ็สเอ็ส-วีทีได้ขึ้นต่อกองทัพเยอรมันสำหรับการจัดหาอาวุธและการฝึกซ้อมทหาร และพวกเขาได้ควบคุมระบบการสรรหาผ่านคณะกรรมการท้องถิ่นที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการกำหนดเกณฑ์ทหารไปยังสาขาต่างๆของกองทัพแวร์มัคท์เพื่อให้ได้เป้าโควต้าที่ถูกกำหนดไว้โดยกองบัญชาการใหญ่แห่งกองทัพเยอรมัน (Oberkommando der Wehrmacht หรือ OKW ในเยอรมนี) หน่วยเอ็สเอ็สได้รับความสำคัญน้อยมากสำหรับการรับสมัคร
แม้ว่าจะมีปัญหาที่นำเสนอโดยระบบโควต้า ไฮน์ริช ฮิมเลอร์ได้ก่อตั้งกรมทหารเอ็สเอ็สสองหน่วยขึ้นมาใหม่คือ "เอ็สเอ็ส เจอร์มาเนีย"และ"เอ็สเอ็ส ด็อยท์ลันด์" ซึ่งร่วมกับไลบ์ชตันดาร์เทอและการสื่อสารหน่วยที่ทำขึ้นในหน่วยเอ็สเอ็ส-วีที ในขณะเดียวกัน ฮิมเลอร์ได้สร้าง SS-Junkerschule Bad Tölz และ SS-Junkerschule เบราน์ชไวค์สำหรับการฝึกทหารของเจ้าหน้าที่เอ็สเอ็ส โรงเรียนทั้งสองได้ใช้วิธีการฝึกจากการประจำกองทัพและส่วนใหญ่ได้ใช้อดีตเจ้าหน้าที่นายทหารในกองทัพเป็นผู้ฝึก
ในปี ค.ศ. 1934 ฮิมเลอร์ได้กำหนดความต้องการที่เข้มงวดสำหรับการรับสมัคร พวกเขาจะต้องเป็นชาวเยอรมันที่สามารถพิสูจน์สายเลือดอารยันของพวกเขาที่ย้อนกลับไปถึงปี ค.ศ. 1800 ไม่ได้สมรสแต่งงานและไม่มีประวัติอาชญากรรม การรับการพิจารณาเป็นเวลาสี่ปีสำหรับหน่วยเอ็สเอ็ส-วีทีและ LSSAH การรับสมัครนั้นจะต้องมีอายุระหว่าง 17 และ 23 ปี สูงอย่างน้อย 1.74 เมตร (5 ฟุต 9 นิ้ว) (1.78 เมตร (5 ฟุต 10 นิ้ว)สำหรับ LSSAH) การ์ดค่ายกักกันจะต้องทำให้ได้รับการพิจารณาเป็นเวลาหนึ่งปี จะต้องมีอายุระหว่าง 16 และ 23 ปี และสูงอย่างน้อย 1.72 เมตร (5 ฟุต 8 นิ้ว) การรับสมัครทั้งหมดจะต้องมีระดับสายตา 20/20 ฟุต ไม่มีการอุดฟัน และเพื่อให้ได้ใบรับรองการแพทย์ ในปี ค.ศ. 1938 ข้อจำกัดของความสูงได้รับการผ่อนผัน ได้อนุญาตให้อุดฟันได้ถึง 6 ซี่และอนุญาตให้สวมแว่นตาสำหรับสายตาเอียงและปรับวิสัยทัศน์เล็กน้อย เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้น ความต้องการทางกายภาพไม่ได้บังคับอย่างเคร่งครัดอีกต่อไปและเป็นหลักสูตรการรับสมัครคนใดที่ผ่านการตรวจสอบทางการแพทย์ขั้นพื้นฐานได้จะถูกพิจารณาเพื่อให้เข้าประจำการ สมาชิกของหน่วยเอ็สเอ็สจะนับถือศาสนาใดๆก็ได้ยกเว้นเพียงศาสนายูดาห์ (ยิว) แต่ผู้ที่เป็นอเทวนิยมจะไม่ได้รับอนุญาตตามคำสั่งของฮิมเลอร์ในปี ค.ศ. 1937
นักประวัติศาสตร์ที่ชื่อว่า Bernd Wegner ได้พบว่าในการศึกษาของเขาว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ของคณะเหล่าอาวุโสของหน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็สมาจากเบื้องหลังระดับชนชั้นกลางและจะได้รับการพิจารณาสำหรับการว่าจ้างตามมาตรฐานเดิม ต่อมาในบรรดานายพลหน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส มีประมาณหกในสิบที่มี"วุฒิการเข้ามหาวิทยาลัย"(Abitur) และไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าระดับมหาวิทยาลัย
ในปี ค.ศ. 1936 ฮิมเลอร์ได้เลือกอดีตพลโท เพาล์ เฮาส์เซอร์ เป็นผู้ตรวจการณ์ของหน่วยเอ็สเอ็ส-วีที เฮาส์เซอร์ได้ทำงานเพื่อเปลี่ยนหน่วยเอ็สเอ็ส-วีทีให้กลายเป็นกองกำลังทหารที่น่าเชื่อถือนั่นคือการแข่งขันสำหรับการเข้าประจำการในกองทัพ
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 1938 ฮิตเลอร์ได้ประกาศว่าหน่วยเอ็สเอ็ส-วีทีจะมีบทบาททั้งภายในประเทศและนอกต่างประเทศ ซึ่งเปลี่ยนให้เป็นกองกำลังทหารที่กำลังเติบโตนี้ให้กลายเป็นคู่แข่งที่กองทัพหวั่นเกรง เขาได้สั่งว่าการเข้าประจำการในหน่วยเอ็สเอ็ส-วีที มีคุณสมบัติที่เพียงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการประจำการกองทัพ แม้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเอ็สเอ็ส-โทเทินคอฟเฟอร์แบนเดอ (SS-TV) นั้นจะยังไม่ บางหน่วยของหน่วยเอ็สเอ็ส-ทีวีอาจจะ ในกรณีของสงคราม ได้ถูกใช้เป็นกองกำลังสำรองของหน่วยเอ็สเอ็ส-วีทีซึ่งไม่มีกำลังสำรองเป็นของตนเอง จากทั้งหมดของการฝึก หน่วยเอ็สเอ็ส-วีทีได้ถูกทดสอบในการรบ ในปี ค.ศ. 1938 กองพันทหารของไลบ์ชตันดาร์เทอได้ถูกเลือกให้ไปพร้อมกับทหารกองทัพในการยึดครองออสเตรียในช่วงอันชลุสส์ และสามกรมทหารของหน่วยเอ็สเอ็ส-วีทีได้ร่วมมือในการยึดครองซูเดเทินลันด์ เมื่อเดือนตุลาคม ในการกระทำทั้งสองนั้นไม่พบการต่อต้านใดๆ
การคัดเลือกเชื้อชาติเยอรมันจากประเทศอื่นๆได้เริ่มต้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 1940 และหน่วยทหารที่ประกอบด้วยกลุ่มคนที่รับสมัครที่ไม่ใช่เยอรมันได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1942 หน่วยทหารที่ไม่ใช่เยอรมันไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นส่วนหนึ่งของเอ็สเอ็ส ซึ่งยังคงรักษาบรรทันฐานเชื้อชาติ แต่ได้รับการพิจารณาให้เป็นชาวต่างชาติที่ทำหน้าที่ภายใต้การบังคับบัญชาของเอ็สเอ็ส ตามปกครองทั่วไป, ฐานะที่เป็น"กองพลเอ็สเอ็ส" ถูกสร้างขึ้นจากชาวเยอรมันหรือชนเชื้อชาติเจอร์แมนิก ในขณะที่"กองพลของเอ็สเอ็ส"ถูกสร้างขึ้นจากอาสาสมัครและทหารเกณฑ์ที่ไม่ใช่เยอรมัน
สงครามโลกครั้งที่สอง
ค.ศ. 1939
การบุกครองโปแลนด์
กองกำลังทหารของฮิมเลอร์ได้ก่อตั้งขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของสงครามจะประกอบไปด้วยกลุ่มย่อยหลายกลุ่มที่จะกลายเป็นพื้นฐานของหน่วยวัฟเฟิน-เอ็สเอ็ส
- ไลบ์ชตันดาร์เทอเอ็สเอ็ส อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ภายใต้การบังคับบัญชาของโอเบอร์กรุพเพินฟือเรอร์ โยเซฟ "เซพพ์" ดีทริซ
- กองตรวจการณ์แห่งเอ็สเอ็ส-เวอร์ฟือกุนจ์สทรูปเปอร์ ภายใต้การบังคับบัญชาของกรุพเพินฟือเรอร์ เพาล์ เฮาส์เซอร์ ซึ่งบัญชาการกรมทหารด็อยท์ลันด์ เจอร์มาเนีย และเดอ ฟือเรอร์ ต่อมาได้ประกาศรับสมัครในออสเตรียมภายหลังจากอันชลุสส์และยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมการรบ
- กองตรวจการณ์แห่งค่ายกักกัน ภายใต้การบังคับบัญชาของกรุพเพินฟือเรอร์ ธีโอดอร์ ไอค์เคอ ซึ่งเป็นสี่ทหารราบและหนึ่งทหารม้าแห่งกองกำลังทหารหน่วยหัวกะโหลก(Death's-Head Standarten,) ประกอบไปด้วยทหารการ์ดค่ายของหน่วยเอ็สเอ็ส-โทเทินคอฟเฟอร์แบนเดอ (SS-TV) ทหารเหล่านี้จะติดสัญลักษณ์ด้วยหัวกะโหลกไขว้มากกว่าที่จะเป็นอักษรรูนที่เขียนแทนคำว่า เอ็สเอ็ส (เยอรมัน: Schutzstaffel )
- หน่วยตำรวจของโอเบอร์กรุพเพินฟือเรอร์ อุนด์ เกเนรัล แดร์ โพลีไซ เคิรท์ ดาลูเกอของหน่วยออร์ดนุงโพลีไซ ซึ่งจะรายงานต่อฮิมเลอร์ในฐานะของเขาที่เป็นหัวหน้าตำรวจเยอรมัน ทหารเหล่านี้จะใช้ยศตำแหน่งและตราประจำยศมากกว่าที่จะเป็นเอ็สเอ็ส
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1939 ฮิตเลอรืได้วางไลบ์ชตันดาร์เทอและเอ็สเอ็ส-วีที ภายใต้การควบคุมปฏิบัติการของกองบัญชาการใหญ่แห่งกองทัพ(OKW) ฮิมเลอร์ยังคงบัญชาการทหารหน่วยหัวกะโหลก จากการว่าจ้างที่อยู่เบื้องหลังของการก้าวหน้าหน่วยรบในสิ่งที่เรียกได้อย่างสวยงามว่า "ภารกิจพิเศษของตำรวจธรรมชาติ"
แม้ว่าจะมีชัยชนะทางทหารเหนือโปแลนด์ได้อย่างรวดเร็วในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 กองทัพประจำรู้สึกว่าการดำเนินงานของเอ็สเอ็ส-วีทีเป็นที่ต้องการมากมาย หน่วยนั้นจะมีความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นและมีอัตราสูญเสียที่สูงกว่ากองทัพ พวกเขายังถูกระบุว่าหน่วยเอ็สเอ็ส-วีทียังฝึกซ้อมไม่ดีพอและเจ้าหน้าที่ยังไม่เหมาะสำหรับสั่งการรบ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
- Stein 2002, pp. xxiv, xxv, 150, 153.
- Stein 2002, p. 23.
- The Nazi Holocaust. Part 3: The "Final Solution": The Implementation of Mass Murder. Volume 2, p. 459, , 1989
- Stackelberg 2002, p. 116.
- Langer & Rudowski 2008, p. 263.
- Król 2006, pp. 452, 545.
- W. Borodziej, Ruch oporu w Polsce w świetle tajnych akt niemieckich, Część IX, Kierunki 1985, nr 16.
- Polska i Polacy w propagandzie narodowego socjalizmu w Niemczech 1919-1945 Eugeniusz Cezary Król Instytut Studiów Politycznych Polskiej Akademii Nauk, 2006, page 452
- Terror i polityka: policja niemiecka a polski ruch oporu w GG 1939-1944 Włodzimierz Borodziej Instytut Wydawniczy Pax, 1985, p. 86.
- "Waffen-SS: Mračne sile zločinačke politike - Vojnici nacionalsocijalizma 1933.-45." ("Waffen-SS: The Dark Forces Of Villain Politics - The Soldiers Of Nationalsocialism 1933-45"), p 9, Hrvoje Spajić, 2010.
- "Two Hundred And Seventeenth Day", Nuremberg Trial Proceedings, vol. 22, September 1946 – โดยทาง Avalon Project
- (2005). "Battles in Estonia in 1944". Estonia in World War II. Tallinn: Grenamder. pp. 32–59.
- McDonald, Gabrielle Kirk; Swaak-Goldman, Olivia (2000). Substantive and Procedural Aspects of International Criminal Law: The Experience of International and National Courts: Materials. BRILL. p. 695.
- Flaherty 2004, p. 144.
- Cook & Bender 1994, pp. 17, 19.
- Kershaw 2008, pp. 306–313.
- Kershaw 2008, pp. 309–313.
- Flaherty 2004, p. 145.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wfefin exsexs eyxrmn Waffen SS hrux exsexssrrphawuth epnkxngkalngthhartidxawuthkhxngphrrkhnasi thuxepnhnunginsxngsakhakhxngchuthschtfefil exsexs kxtngkhuncakkarrwmtwknkhxngchaweyxrmn phrxmkbxasasmkhraelathhareknthcakinyudkhrxngaeladinaednnxkyudkhrxng hnwywfefin exsexsepriybesmuxnepnehlathphthisikhxngeyxrmninxkcakkxngthphbk kxngthpherux aelakxngthphxakaswfefin exsexsWaffen SSpracakar1933 1945praeths ircheyxrmnkhuntxxdxlf hitelxrehlaSchutzstaffelrupaebbkxngphlyanekraakxngphlthharrabyanekraakxngphlthharmakxngphlthharrabtarwckalngrb900 000 nayinkhunkbSS under operational control of thekxngbychakarkrungebxrlinkhakhwy ekiyrtikhxngkhakhuxkhwamphkdi Meine Ehre heisst Treue ptibtikarsakhysngkhramolkkhrngthisxngphubngkhbbychaphb sakhyihnrich himelxr hnwywfefin exsexsedimmiephiyngsamkrm txmaidkhyaycanwnmakthung 38 kxngphlexsexsinchwngsngkhramolkkhrngthisxng aelathahnathikhwbkhukbkxngthphbk tarwcrksakhwamsngb aelahnwyrksakhwamplxdphyxun aetedimthihnwynikhuntxsankxanwykarexsexs SS Fuhrungshauptamt inbychakhxngirchsfuxerxr exsexs ihnrich himelxr txmaemuxsngkhramolkkhrngthisxngpathukhun cungmikaraebngsaybychakarepnsxngsay sayaerkrbkhasngthangyuththwithicakkxngbychakarihyaehngaewrmkhth OKW aelasaythisxngkhuntrngtxkxngbychaecahnathiirchsfuxerxr exsexs Kommandostab Reichsfuhrer SS inbychakhxnghimelxrodytrng inchwngtn ephuxihepniptamnoybayechuxchatikhxngphrrkhnasi karekhaepnsmachikcungepidrbsmkhrihkbephiyngphumiechuxchatieyxrmnethann thithukeriykwa echuxchatixaryn khxbngkhbnimikarphxnprnlngbangswninpi kh s 1940 txmamikarxnumtiihcdtnghnwyechphaakhunma sungmismachikthnghmdhruxswnihyepnxasasmkhrhruxphuthukeknththiepnchawtangchati hnwyexsexsehlanicaprakxbipdwychayswnihythimacakklumechuxchatikhxngyuorpthithukeyxrmniyudkhrxng aetthungaemcamikarphxnprnkhxbngkhblng aethnwywfefin exsexskyngthuxxudmkhtithangechuxkhxngnasi aelahamphumiechuxchatiopaelnd thithukmxngwaepnphwktakwamnusy ekhamaxyuinxngkhkr smachikhnwywfefin exsexsmiswnekiywkhxngkbkhwamohdraytharunmakmayinchwngsngkhramkarphicarnakhdienuxrnaebrkhinchwnghlngsngkhram hnwywfefin exsexsthuktdsinwaepnxngkhkrxachyakrrm enuxngcakmiswnekiywkhxngkbphrrkhnasiaelaekiywkhxngodytrngkbxachyakrrmsngkhramaelaxachyakrrmtxmnusychaticanwnmakmay xditsmachikhnwywfefin exsexsthukrangbsiththihlayprakarthithharphansukkhwridrb khxykewnthithaihiwkbthhareknthcakhnwywfefin exsexs thiidrbkarykewnnnephraaphwkekhaimidxasasmkhrely micanwnpramanhnunginsamkhxngsmachikthnghmdlwnthukeknthcudthuxkaenid kh s 1929 39 karswnsnamcakwnkhrbrxbpithisamkhxng kxngphlyanekraaexsexsthi 1 kh s 1935 cudthuxkaenidkhxnghnwywfefin exsexsidsubyxnipthungkarkhdeluxkklumkhxngkhnhnwyexsexs 120 khn emuxwnthi 17 minakhm kh s 1933 odyesph dithrich ephuxkxtng Sonderkommando ebxrlin chwngeduxnphvsciyn kh s 1933 karkxtngkhunidmicanwn 800 khn aelathiphithichlxnginmiwniksahrbwnkhrbrxbsibpicakkhwamlmehlwkhxngkbtorngebiyrinmiwnik krmthharehlaniidklawkhastysabanwacacngrkphkditxxdxlf hitelxr khastysabankhux ptiyanwacacngrkphkditxekhaaetephiyngphuediyw aela caechuxfngaemkrathngkhwamtay karkxtnghnwythharniidthukaetngtngchuxepnilbchtndarethx krmthharkhumkn xdxlf hitelxr LAH emuxwnthi 13 emsayn kh s 1934 odykhasngkhxnghimelxr krmthharniidklayepnthiruckknkhux ilbchtndarethxexsexs xdxlf hitelxr LSSAH ilbchtndarethxidaesdngkhwamcngrkphkditxhitelxrinpi kh s 1934 inchwng khunmidyaw emuxrabxbnasiiddaeninkarchudkarsngharthangkaremuxngaelakwadlanghnwychturmbithlung SA naodyhnunginshaythiekaaekthisudkhxnghitelxr aexnsth erim hnwyexsexidthukmxngwaepnphykhukkhamodyhitelxrtxxanacthangkaremuxngthiephingidrbma hitelxryngkhngtxngkarthicaphukmitrkbphunakhxngirchsaewr kxngthphaehngsatharnrth aelafayxnurksniymkhxngpraeths prachachnthiihkarsnbsnun hitelxrmikhwamcaepnephuxkhwammngkhngtxtaaehnngkhxngekha emuxhitelxridtdsinicthicaepnfayprpkstxhnwyexsex hnwyexsexsidrbhnathiinkarkacderimaelaecahnathiradbsungkhxnghnwyexsexkhnxun khunmidyawidxubtikhunrahwangwnthi 30 mithunayn thung 2 krkdakhm kh s 1934 aelaaesdngihehnwamikarsngharphukhnipthungkwa 200 khn niyngrwmipthungphunakhxnghnwyexsexekuxbthnghmd idsinxanacxyangsmburn karptibtikarniswnihyiddaeninkarodyecahnathihnwyexsexs rwmthngilbchtndarethx aelaekstaoph ineduxnknyayn kh s 1934 hitelxridxnumtiihkxtngkxngkalngpikkhxngphrrkhnasiaelaxnumtiihkxtnghnwyexsexs ewxrfuxkuncsthrupepxr SS VT thharthithahnathiphiessphayitbychakarodyrwmkhxnghitelxr hnwyexsexs withiidkhuntxkxngthpheyxrmnsahrbkarcdhaxawuthaelakarfuksxmthhar aelaphwkekhaidkhwbkhumrabbkarsrrhaphankhnakrrmkarthxngthinthimihnathirbphidchxbinkarkahndeknththharipyngsakhatangkhxngkxngthphaewrmkhthephuxihidepaokhwtathithukkahndiwodykxngbychakarihyaehngkxngthpheyxrmn Oberkommando der Wehrmacht hrux OKW ineyxrmni hnwyexsexsidrbkhwamsakhynxymaksahrbkarrbsmkhr aemwacamipyhathinaesnxodyrabbokhwta ihnrich himelxridkxtngkrmthharexsexssxnghnwykhunmaihmkhux exsexs ecxrmaeniy aela exsexs dxythlnd sungrwmkbilbchtndarethxaelakarsuxsarhnwythithakhuninhnwyexsexs withi inkhnaediywkn himelxridsrang SS Junkerschule Bad Tolz aela SS Junkerschule ebranchiwkhsahrbkarfukthharkhxngecahnathiexsexs orngeriynthngsxngidichwithikarfukcakkarpracakxngthphaelaswnihyidichxditecahnathinaythharinkxngthphepnphufuk inpi kh s 1934 himelxridkahndkhwamtxngkarthiekhmngwdsahrbkarrbsmkhr phwkekhacatxngepnchaweyxrmnthisamarthphisucnsayeluxdxarynkhxngphwkekhathiyxnklbipthungpi kh s 1800 imidsmrsaetngnganaelaimmiprawtixachyakrrm karrbkarphicarnaepnewlasipisahrbhnwyexsexs withiaela LSSAH karrbsmkhrnncatxngmixayurahwang 17 aela 23 pi sungxyangnxy 1 74 emtr 5 fut 9 niw 1 78 emtr 5 fut 10 niw sahrb LSSAH kardkhaykkkncatxngthaihidrbkarphicarnaepnewlahnungpi catxngmixayurahwang 16 aela 23 pi aelasungxyangnxy 1 72 emtr 5 fut 8 niw karrbsmkhrthnghmdcatxngmiradbsayta 20 20 fut immikarxudfn aelaephuxihidibrbrxngkaraephthy inpi kh s 1938 khxcakdkhxngkhwamsungidrbkarphxnphn idxnuyatihxudfnidthung 6 siaelaxnuyatihswmaewntasahrbsaytaexiyngaelaprbwisythsnelknxy emuxsngkhramerimtnkhun khwamtxngkarthangkayphaphimidbngkhbxyangekhrngkhrdxiktxipaelaepnhlksutrkarrbsmkhrkhnidthiphankartrwcsxbthangkaraephthykhnphunthanidcathukphicarnaephuxihekhapracakar smachikkhxnghnwyexsexscanbthuxsasnaidkidykewnephiyngsasnayudah yiw aetphuthiepnxethwniymcaimidrbxnuyattamkhasngkhxnghimelxrinpi kh s 1937 nkprawtisastrthichuxwa Bernd Wegner idphbwainkarsuksakhxngekhawaecahnathiswnihykhxngkhnaehlaxawuoskhxnghnwywfefin exsexsmacakebuxnghlngradbchnchnklangaelacaidrbkarphicarnasahrbkarwacangtammatrthanedim txmainbrrdanayphlhnwywfefin exsexs mipramanhkinsibthimi wuthikarekhamhawithyaly Abitur aelaimnxykwahnunginharadbmhawithyaly inpi kh s 1936 himelxrideluxkxditphloth ephal ehasesxr epnphutrwckarnkhxnghnwyexsexs withi ehasesxridthanganephuxepliynhnwyexsexs withiihklayepnkxngkalngthharthinaechuxthuxnnkhuxkaraekhngkhnsahrbkarekhapracakarinkxngthph emuxwnthi 17 singhakhm kh s 1938 hitelxridprakaswahnwyexsexs withicamibthbaththngphayinpraethsaelanxktangpraeths sungepliynihepnkxngkalngthharthikalngetibotniihklayepnkhuaekhngthikxngthphhwnekrng ekhaidsngwakarekhapracakarinhnwyexsexs withi mikhunsmbtithiephiyngphxthicaptibtihnathiinkarpracakarkxngthph aemwakarptibtihnathiinhnwyexsexs othethinkhxfefxraebnedx SS TV nncayngim banghnwykhxnghnwyexsexs thiwixacca inkrnikhxngsngkhram idthukichepnkxngkalngsarxngkhxnghnwyexsexs withisungimmikalngsarxngepnkhxngtnexng cakthnghmdkhxngkarfuk hnwyexsexs withiidthukthdsxbinkarrb inpi kh s 1938 kxngphnthharkhxngilbchtndarethxidthukeluxkihipphrxmkbthharkxngthphinkaryudkhrxngxxsetriyinchwngxnchluss aelasamkrmthharkhxnghnwyexsexs withiidrwmmuxinkaryudkhrxngsuedethinlnd emuxeduxntulakhm inkarkrathathngsxngnnimphbkartxtanid karkhdeluxkechuxchatieyxrmncakpraethsxuniderimtnineduxnemsayn kh s 1940 aelahnwythharthiprakxbdwyklumkhnthirbsmkhrthiimicheyxrmnidthukkxtngkhuninpi kh s 1942 hnwythharthiimicheyxrmnimidrbkarphicarnaihepnswnhnungkhxngexsexs sungyngkhngrksabrrthnthanechuxchati aetidrbkarphicarnaihepnchawtangchatithithahnathiphayitkarbngkhbbychakhxngexsexs tampkkhrxngthwip thanathiepn kxngphlexsexs thuksrangkhuncakchaweyxrmnhruxchnechuxchatiecxraemnik inkhnathi kxngphlkhxngexsexs thuksrangkhuncakxasasmkhraelathhareknththiimicheyxrmnsngkhramolkkhrngthisxngkh s 1939 karbukkhrxngopaelnd ecahnathi exsexs ixnsthskruphephin kalngsngharhmuphleruxnchawopaelnd imnanhlngcakkarpathukhxngsngkhramolkkhrngthisxng kxngkalngthharkhxnghimelxridkxtngkhuninchwngkaraephrrabadkhxngsngkhramcaprakxbipdwyklumyxyhlayklumthicaklayepnphunthankhxnghnwywfefin exsexs ilbchtndarethxexsexs xdxlf hitelxr phayitkarbngkhbbychakhxngoxebxrkruphephinfuxerxr oyesf esphph dithriskxngtrwckarnaehngexsexs ewxrfuxkuncsthrupepxr phayitkarbngkhbbychakhxngkruphephinfuxerxr ephal ehasesxr sungbychakarkrmthhardxythlnd ecxrmaeniy aelaedx fuxerxr txmaidprakasrbsmkhrinxxsetriymphayhlngcakxnchlussaelayngimphrxmthicaekharwmkarrb kxngtrwckarnaehngkhaykkkn phayitkarbngkhbbychakhxngkruphephinfuxerxr thioxdxr ixkhekhx sungepnsithharrabaelahnungthharmaaehngkxngkalngthharhnwyhwkaohlk Death s Head Standarten prakxbipdwythharkardkhaykhxnghnwyexsexs othethinkhxfefxraebnedx SS TV thharehlanicatidsylksndwyhwkaohlkikhwmakkwathicaepnxksrrunthiekhiynaethnkhawa exsexs eyxrmn Schutzstaffel hnwytarwckhxngoxebxrkruphephinfuxerxr xund ekenrl aedr ophliis ekhirth daluekxkhxnghnwyxxrdnungophliis sungcarayngantxhimelxrinthanakhxngekhathiepnhwhnatarwceyxrmn thharehlanicaichystaaehnngaelatrapracaysmakkwathicaepnexsexs ineduxnsinghakhm kh s 1939 hitelxruidwangilbchtndarethxaelaexsexs withi phayitkarkhwbkhumptibtikarkhxngkxngbychakarihyaehngkxngthph OKW himelxryngkhngbychakarthharhnwyhwkaohlk cakkarwacangthixyuebuxnghlngkhxngkarkawhnahnwyrbinsingthieriykidxyangswyngamwa pharkicphiesskhxngtarwcthrrmchati aemwacamichychnathangthharehnuxopaelndidxyangrwderwineduxnknyayn kh s 1939 kxngthphpracarusukwakardaeninngankhxngexsexs withiepnthitxngkarmakmay hnwynncamikhwamesiyngthiimcaepnaelamixtrasuyesiythisungkwakxngthph phwkekhayngthukrabuwahnwyexsexs withiyngfuksxmimdiphxaelaecahnathiyngimehmaasahrbsngkarrb swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidxangxingStein 2002 pp xxiv xxv 150 153 sfn error no target CITEREFStein2002 Stein 2002 p 23 sfn error no target CITEREFStein2002 The Nazi Holocaust Part 3 The Final Solution The Implementation of Mass Murder Volume 2 p 459 1989 Stackelberg 2002 p 116 sfn error no target CITEREFStackelberg2002 Langer amp Rudowski 2008 p 263 sfn error no target CITEREFLangerRudowski2008 Krol 2006 pp 452 545 sfn error no target CITEREFKrol2006 W Borodziej Ruch oporu w Polsce w swietle tajnych akt niemieckich Czesc IX Kierunki 1985 nr 16 Polska i Polacy w propagandzie narodowego socjalizmu w Niemczech 1919 1945 Eugeniusz Cezary Krol Instytut Studiow Politycznych Polskiej Akademii Nauk 2006 page 452 Terror i polityka policja niemiecka a polski ruch oporu w GG 1939 1944 Wlodzimierz Borodziej Instytut Wydawniczy Pax 1985 p 86 Waffen SS Mracne sile zlocinacke politike Vojnici nacionalsocijalizma 1933 45 Waffen SS The Dark Forces Of Villain Politics The Soldiers Of Nationalsocialism 1933 45 p 9 Hrvoje Spajic 2010 Two Hundred And Seventeenth Day Nuremberg Trial Proceedings vol 22 September 1946 odythang Avalon Project 2005 Battles in Estonia in 1944 Estonia in World War II Tallinn Grenamder pp 32 59 McDonald Gabrielle Kirk Swaak Goldman Olivia 2000 Substantive and Procedural Aspects of International Criminal Law The Experience of International and National Courts Materials BRILL p 695 Flaherty 2004 p 144 sfn error no target CITEREFFlaherty2004 Cook amp Bender 1994 pp 17 19 sfn error no target CITEREFCookBender1994 Kershaw 2008 pp 306 313 sfn error no target CITEREFKershaw2008 Kershaw 2008 pp 309 313 sfn error no target CITEREFKershaw2008 Flaherty 2004 p 145 sfn error no target CITEREFFlaherty2004