วัดสองพี่น้อง เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางของเมืองสรรคบุรีใกล้กับวัดโตนดหลายและไม่ห่างไกลจากวัดมหาธาตุมากนัก ปัจจุบันหลงเหลือสิ่งก่อสร้างเพียงสองแห่งเท่านั้นคือเจดีย์ทรงปรางค์องค์หนึ่ง และเจดีย์ทรงปราสาทยอดที่มีเรือนธาตุแปดเหลี่ยมอีกองค์หนึ่ง ชื่อของวัดสองพี่น้อง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสันนิธฐานว่า มาจากวัดสองวัดที่อยู่ติดกันมากกว่าวัดที่พี่น้องสองคนร่วมกันสร้างเนื่องจากเห็นกำแพงวัดเหลื่อมกันอยู่
วัดสองพี่น้อง | |
---|---|
ที่ตั้ง | อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | มหานิกาย |
ส่วนหนึ่งของ |
สถาปัตยกรรม
ปรางค์ประธาน
พระปรางค์ประธาน ที่วัดสองพี่น้องมีรูปแบบโดยรวมจัดอยู่ในสมัยอยุธยาตอนต้น มีส่วนที่พัฒนาไปขึ้นคือส่วนฐานที่ยืดสูงจนเกือบถึงครึ่งหนึ่งขององค์ปรางค์ ไม่พบการทำตรีมุข ทำเพียงซุ้มทางเข้าด้านทิศตะวันออกซึ่งมีบันไดมุ่งเข้าสู่คูหาปรางค์ เรือนธาตุเตี้ยกว่าปรางค์ในยุคเดียวกัน ลักษณะที่น่าสนใจคือการทำหน้าบันซุ้มลด 2 ชั้น ตั้งอยู่แยกชั้นกับเชิงบาตรครุฑแบก คล้ายหน้าบันของปรางค์ประธานวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี ปรางค์หมายเลข 16ค วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี ปรางค์วัดนครโกษา และปรางค์หมายเลข 8 วัดมหาธาตุอยุธยา เห็นได้ว่าการ ไม่ประดับหน้าบันบนชั้นเชิงบาตรครุฑแบกนั้นพบมากที่เมืองลพบุรี การปรากฏลักษณะร่วมกันเช่นนี้ แสดงถึงความใกล้ชิดกันทางเชิงช่าง และเมื่อพิจารณาประกอบกับลวดลายปูนปั้นบางลาย เช่น ลาย กรวยเชิง เฟื่องอุบะ ซึ่งเป็นลายกระหนกซ้อนทับกันและมีปริมาตรนูนหนา ก็คงได้แรงบันดาลใจไป จากเมืองลพบุรีด้วยเช่นกัน แต่พัฒนาการของชั้นประดับลายจัดอยู่ในระยะที่ 2 เช่นเดียวกับเจดีย์ประจำมุมทรงปราสาทยอด วัดพระราม และพัฒนาการของลวดลายก็เป็นลายแบบไทยแล้ว
เทคนิคการก่อสร้างบางประการที่แตกต่างไป คือ การโกลนกลีบขนุนจากศิลาแลง ในขณะที่ปรางค์ในยุดต้นอยุธยาใช้อิฐในก่อกลีบขนุน ทำให้นึกถึงงานในศิลปกรรมในเมืองลพบุรี ทั้งปรางค์สามยอด และปรางค์ประธานวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี ที่ใช้ศิลาแลงก่อสร้างทั้งองค์ รวมถึงกลีบขนุนด้วย แม้งานซ่อมในชั้นหลังจะใช้อิฐแทนก็ตาม ช่างจึงอาจได้เทคนิคมาจากเมืองลพบุรี ก็เป็นได้
พระพุทธรูปปูนปั้นในจระนำของปรางค์ประธาน คือพระพุทธรูปประทับยืนอยู่ใน จระนำด้านทิศตะวันตก มีพระพักตร์แบบอู่ทองรุ่นที่ 2 และพระพุทธรูปลีลาแบบสุโขทัย ประดับในซุ้มด้านทิศใต้ เป็นหลักฐานสำคัญคือ การปรากฏพระพุทธรูปลีลาอันเป็น เอกลักษณ์ของพุทธศิลป์สุโขทัยบนเจดีย์ทรงปรางค์อันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงศรีอยุธยา เช่นเดียวกับ การปรากฏเจดีย์ทรงยอดดอกบัวตูมวัดโตนดหลาย การปรากฏพระพุทธรูปแบบอู่ทองของทางภาคกลางร่วมกับพระพุทธรูปลีลาแบบสุโขทัยคงเป็นการยืนยันได้ดีถึงอิทธิพลศิลปะสุโขทัยที่ผสมอยู่ใน ศิลปะเมืองสรรคบุรีอยู่มาก ซึ่งพื้นฐานเดิมของเมืองสรรคบุรีคืองานช่างที่สัมพันธ์กับเมืองสุพรรณบุรี และลพบุรีมาก่อน ยิ่งพิจารณางานศิลปกรรมจากวัดอื่นๆ ในเมืองเดียวกัน ได้แก่ วัดพระแก้วซึ่งเป็น วัดใหญ่สำคัญทางฝั่งอรัญญิก วัดมหาธาตุ วัดโตนดหลาย ทุกวัดที่กล่าวนี้ล้วนปรากฏงานในอิทธิพล ศิลปะสุโขทัยทั้งสิ้น ลักษณะเช่นนี้แสดงความยืดหยุ่นที่ไม่เคร่งครัดกับรูปแบบและนำมาปรับให้เข้ากับ รสนิยมของตนเอง จนเกิดงานช่างที่มีรูปแบบเฉพาะของเมืองสรรคบุรี
อ้างอิง
- จิราภรณ์ สถาปนะวรรธนะ และคณะ. (2551). ตามรอยพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้นมณฑลฝ่ายเหนือ ร.ศ.120. พิษณุโลก : สาขาประวัติศาสตร์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.
- โทโมฮิโตะ ทะคะตะ. (2549). แบบอย่างเจดีย์ในเมืองสรรคบุรี กับการสะท้อนความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdsxngphinxng epnwdobranthisrangkhuninsmyxyuthyatxntn tngxyuekuxbkungklangkhxngemuxngsrrkhburiiklkbwdotndhlayaelaimhangiklcakwdmhathatumaknk pccubnhlngehluxsingkxsrangephiyngsxngaehngethannkhuxecdiythrngprangkhxngkhhnung aelaecdiythrngprasathyxdthimieruxnthatuaepdehliymxikxngkhhnung chuxkhxngwdsxngphinxng phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwsnniththanwa macakwdsxngwdthixyutidknmakkwawdthiphinxngsxngkhnrwmknsrangenuxngcakehnkaaephngwdehluxmknxyuwdsxngphinxngthitngxaephxsrrkhburi cnghwdchynathpraephthwdrasdrnikaymhanikayswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnasthaptykrrmprangkhprathan phraprangkhprathan thiwdsxngphinxngmirupaebbodyrwmcdxyuinsmyxyuthyatxntn miswnthiphthnaipkhunkhuxswnthanthiyudsungcnekuxbthungkhrunghnungkhxngxngkhprangkh imphbkarthatrimukh thaephiyngsumthangekhadanthistawnxxksungmibnidmungekhasukhuhaprangkh eruxnthatuetiykwaprangkhinyukhediywkn lksnathinasnickhuxkarthahnabnsumld 2 chn tngxyuaeykchnkbechingbatrkhruthaebk khlayhnabnkhxngprangkhprathanwdphrasrirtnmhathatu lphburi prangkhhmayelkh 16kh wdphrasrirtnmhathatu lphburi prangkhwdnkhroksa aelaprangkhhmayelkh 8 wdmhathatuxyuthya ehnidwakar impradbhnabnbnchnechingbatrkhruthaebknnphbmakthiemuxnglphburi karpraktlksnarwmknechnni aesdngthungkhwamiklchidknthangechingchang aelaemuxphicarnaprakxbkblwdlaypunpnbanglay echn lay krwyeching efuxngxuba sungepnlaykrahnksxnthbknaelamiprimatrnunhna kkhngidaerngbndalicip cakemuxnglphburidwyechnkn aetphthnakarkhxngchnpradblaycdxyuinrayathi 2 echnediywkbecdiypracamumthrngprasathyxd wdphraram aelaphthnakarkhxnglwdlaykepnlayaebbithyaelw ethkhnikhkarkxsrangbangprakarthiaetktangip khux karoklnklibkhnuncaksilaaelng inkhnathiprangkhinyudtnxyuthyaichxithinkxklibkhnun thaihnukthungnganinsilpkrrminemuxnglphburi thngprangkhsamyxd aelaprangkhprathanwdphrasrirtnmhathatu lphburi thiichsilaaelngkxsrangthngxngkh rwmthungklibkhnundwy aemngansxminchnhlngcaichxithaethnktam changcungxacidethkhnikhmacakemuxnglphburi kepnid phraphuththruppunpnincranakhxngprangkhprathan khuxphraphuththrupprathbyunxyuin cranadanthistawntk miphraphktraebbxuthxngrunthi 2 aelaphraphuththruplilaaebbsuokhthy pradbinsumdanthisit epnhlkthansakhykhux karpraktphraphuththruplilaxnepn exklksnkhxngphuththsilpsuokhthybnecdiythrngprangkhxnepnexklksnkhxngkrungsrixyuthya echnediywkb karpraktecdiythrngyxddxkbwtumwdotndhlay karpraktphraphuththrupaebbxuthxngkhxngthangphakhklangrwmkbphraphuththruplilaaebbsuokhthykhngepnkaryunyniddithungxiththiphlsilpasuokhthythiphsmxyuin silpaemuxngsrrkhburixyumak sungphunthanedimkhxngemuxngsrrkhburikhuxnganchangthismphnthkbemuxngsuphrrnburi aelalphburimakxn yingphicarnangansilpkrrmcakwdxun inemuxngediywkn idaek wdphraaekwsungepn wdihysakhythangfngxryyik wdmhathatu wdotndhlay thukwdthiklawnilwnpraktnganinxiththiphl silpasuokhthythngsin lksnaechnniaesdngkhwamyudhyunthiimekhrngkhrdkbrupaebbaelanamaprbihekhakb rsniymkhxngtnexng cnekidnganchangthimirupaebbechphaakhxngemuxngsrrkhburixangxingciraphrn sthapnawrrthna aelakhna 2551 tamrxyphraphuththecahlwngesdcpraphastnmnthlfayehnux r s 120 phisnuolk sakhaprawtisastrkhnasngkhmsastr mhawithyalynerswr othomhiota thakhata 2549 aebbxyangecdiyinemuxngsrrkhburi kbkarsathxnkhwamsmphnththangprawtisastr withyaniphnthpriyyasilpsastrmhabnthit sakhawichaprawtisastrsilpa phakhwichaprawtisastrsilpa bnthitwithyaly mhawithyalysilpakr