ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เป็นร่างพระราชบัญญัติที่มีจุดประสงค์ที่จะให้เป็นเครื่องมือที่สำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างแพทย์กับคนไข้ และช่วยไม่ให้เกิดการฟ้องร้องต่อแพทย์ เน้นการช่วยเหลือผู้เสียหายจากบริการสาธารณสุขโดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิดมากกว่าการหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ แต่แพทย์เกิดความกังวลต่อประเด็นดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าผลกระทบของกฎหมายอาจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้กล่าวถึงความจำเป็นของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ดังนี้
- ผู้ป่วยไม่ค่อยเรียกร้องสิทธิเมื่อได้รับบริการผิดพลาดและไม่ได้รับความช่วยเหลือ หรือในกรณีที่ไปฟ้องร้องต่อศาล ก็พบว่าการพิสูจน์ความถูกผิดนั้นเป็นไปได้ยาก
- ในพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติบัญญัติให้มีการกันเงินไว้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 จ่ายเป็นค่าช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ได้รับความเสียหาย ซึ่งปีที่ผ่านมามีผู้ขอรับความช่วยเหลือเพียง 810 ราย จากผู้ใช้บริการประมาณ 200 ล้านครั้ง แต่รวมเฉพาะคนไข้บัตรทองประมาณ 47 ล้านคน ดังนั้น ผู้ที่ไม่มีบัตรทองจึงไม่มีระบบใด ๆ มารองรับ
- ความขัดแย้งของแพทย์และคนไข้มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากสาเหตุหลายประการ อาทิ ระบบสิทธิขึ้นพื้นฐานในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข การแพทย์สาธารณสุขที่เป็นการค้ามากขึ้น การพัฒนาคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย เป็นต้น โดยมีสถิติการฟ้องร้องคดีแพ่งต่อศาลในช่วงปี พ.ศ. 2539-2551 จำนวน 76 คดี และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ในปี พ.ศ. 2550 กลุ่มประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากบริการสาธารณสุขและกลุ่มอื่น ๆ พยายามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้น โดยประสานความร่วมมือกับมงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยได้เสนอให้มีคณะทำงานยกร่างพระราชบัญญัติและมีองค์ประกอบจากทั้งนักวิชาการ แพทยสภา กองประกอบโรคศิลปะ ตัวแทนผู้เสียหาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากการทำงานร่วมกันในชั้นกฤษฎีกาแล้ว ได้มีข้อตกลงร่วมกันเป็นร่างพระราชบัญญัติที่รอเข้าสมัยประชุมสภา
ด้านศาสตราจารย์ นายแพทย์ สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้มีหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้ทบทวนมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553 เพื่อดูผลกระทบวงกว้างและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในหนังสือกล่าวว่าร่างกฎหมายดังกล่าวเสนอโดยกลุ่มเอ็นจีโอ และทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้รับผลกระทบเนื่องจากผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องเจ้าหน้าที่นั้นได้
อ้างอิง
- มติชน. พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากบริการ สาธารณสุข แพทย์กลายเป็นผู้ร้ายจริงหรือ?. สืบค้นเมื่อ 17-10-2553.
- มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค. (30 กรกฎาคม). ทำไมต้องมีกฎหมายฉบับนี้ เก็บถาวร 2010-12-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. สืบค้นเมื่อ 17-10-2553.
- มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค. (30 กรกฎาคม 2553). ความเป็นมาของร่างพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธาณสุข พ.ศ. .. เก็บถาวร 2010-12-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. สืบค้นเมื่อ 17-10-2553
- สำนักงานสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข. (22 มิถุนายน 2553). ปลัด สธ. เตรียมนำผลสรุปความเห็น 3 กลุ่มและข้อเสนอแนะ ร่างพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เสนอรมว.สธ.ในสัปดาห์หน้า[]. สืบค้นเมื่อ 17-10-2553.
แหล่งข้อมูลอื่น
- ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง[]
- ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เสนอโดยคณะรัฐมนตรี[]
- ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เสนอโดยนายเจริญ จรรย์โกมล กับคณะ[]
- ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เสนอโดยนายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ กับคณะ[]
- ร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมความสัมพันธ์ในระบบบริการสาธารณสุข เสนอโดยนายบรรพต ต้นธีรวงศ์ กับคณะ[]
- ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ให้และผู้รับบริการสาธารณสุข เสนอโดยนางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ กับคณะ[]
- ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เสนอโดยนายสุทัศน์ เงินหมื่น กับคณะ[]
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rangphrarachbyytikhumkhrxngphuesiyhaycakkarrbbrikarsatharnsukh epnrangphrarachbyytithimicudprasngkhthicaihepnekhruxngmuxthisakhyephuxaekikhpyhakhwamkhdaeyngrahwangaephthykbkhnikh aelachwyimihekidkarfxngrxngtxaephthy ennkarchwyehluxphuesiyhaycakbrikarsatharnsukhodyimtxngphisucnkhwamphidmakkwakarhaphukrathakhwamphidmalngoths aetaephthyekidkhwamkngwltxpraedndngklaw enuxngcakehnwaphlkrathbkhxngkdhmayxacimepniptamectnarmn mulnithiephuxphubriophkhidklawthungkhwamcaepnkhxngrangphrarachbyytidngklaw dngni phupwyimkhxyeriykrxngsiththiemuxidrbbrikarphidphladaelaimidrbkhwamchwyehlux hruxinkrnithiipfxngrxngtxsal kphbwakarphisucnkhwamthukphidnnepnipidyak inphrarachbyytihlkpraknsukhphaphaehngchatibyytiihmikarknenginiwimnxykwarxyla 1 cayepnkhachwyehluxebuxngtnaekphuidrbkhwamesiyhay sungpithiphanmamiphukhxrbkhwamchwyehluxephiyng 810 ray cakphuichbrikarpraman 200 lankhrng aetrwmechphaakhnikhbtrthxngpraman 47 lankhn dngnn phuthiimmibtrthxngcungimmirabbid marxngrb khwamkhdaeyngkhxngaephthyaelakhnikhmiephimmakkhuneruxy caksaehtuhlayprakar xathi rabbsiththikhunphunthaninkarekhathungbrikarsatharnsukh karaephthysatharnsukhthiepnkarkhamakkhun karphthnakhumkhrxngsiththimnusychninpraethsithy epntn odymisthitikarfxngrxngkhdiaephngtxsalinchwngpi ph s 2539 2551 canwn 76 khdi aelamiaenwonmephimsungkhun inpi ph s 2550 klumprachachnthiidrbkhwamesiyhaycakbrikarsatharnsukhaelaklumxun phyayamrangphrarachbyytidngklawkhun odyprasankhwamrwmmuxkbmngkhl n sngkhla xditrthmntriwakarkrathrwngsatharnsukh odyidesnxihmikhnathanganykrangphrarachbyytiaelamixngkhprakxbcakthngnkwichakar aephthyspha kxngprakxborkhsilpa twaethnphuesiyhay aelahnwynganthiekiywkhxng hlngcakkarthanganrwmkninchnkvsdikaaelw idmikhxtklngrwmknepnrangphrarachbyytithirxekhasmyprachumspha dansastracary nayaephthy smskdi olhelkha naykaephthyspha idmihnngsuxthungsankelkhathikarkhnarthmntri ihthbthwnmtiehnchxbrangphrarachbyytikhumkhrxngphuesiyhaycakkarrbbrikarsatharnsukhemuxwnthi 7 emsayn ph s 2553 ephuxduphlkrathbwngkwangaelapxngknimihekidpyhaaekhnwynganthiekiywkhxng odyinhnngsuxklawwarangkdhmaydngklawesnxodyklumexnciox aelathaihecahnathisatharnsukhidrbphlkrathbenuxngcakphuesiyhaysamarthfxngrxngecahnathinnidxangxingmtichn ph r b khumkhrxngphuesiyhaycakbrikar satharnsukh aephthyklayepnphuraycringhrux subkhnemux 17 10 2553 mulnithiephuxphubriophkh 30 krkdakhm thaimtxngmikdhmaychbbni ekbthawr 2010 12 22 thi ewyaebkaemchchin subkhnemux 17 10 2553 mulnithiephuxphubriophkh 30 krkdakhm 2553 khwamepnmakhxngrangphrb khumkhrxngphuesiyhaycakkarrbbrikarsathansukh ph s ekbthawr 2010 12 22 thi ewyaebkaemchchin subkhnemux 17 10 2553 sankngansarsnethsaelaprachasmphnth krathrwngsatharnsukh 22 mithunayn 2553 pld sth etriymnaphlsrupkhwamehn 3 klumaelakhxesnxaena rangphrb khumkhrxngphuesiyhaycakkarrbbrikarsatharnsukh esnxrmw sth inspdahhna lingkesiy subkhnemux 17 10 2553 aehlngkhxmulxunrangphrarachbyytikhumkhrxngphuesiyhaycakkarrbbrikarsatharnsukh esnxodyprachachnphumisiththieluxktng lingkesiy rangphrarachbyytikhumkhrxngphuesiyhaycakkarrbbrikarsatharnsukh esnxodykhnarthmntri lingkesiy rangphrarachbyytikhumkhrxngphuesiyhaycakkarrbbrikarsatharnsukh esnxodynayecriy crryokml kbkhna lingkesiy rangphrarachbyytikhumkhrxngphuesiyhaycakkarrbbrikarsatharnsukh esnxodynayprasiththi chywirtna kbkhna lingkesiy rangphrarachbyytisrangesrimkhwamsmphnthinrabbbrikarsatharnsukh esnxodynaybrrpht tnthirwngs kbkhna lingkesiy rangphrarachbyytikhumkhrxngphuihaelaphurbbrikarsatharnsukh esnxodynangxudmlksn ephngnrphthn kbkhna lingkesiy rangphrarachbyytikhumkhrxngphuesiyhaycakkarrbbrikarsatharnsukh esnxodynaysuthsn enginhmun kbkhna lingkesiy bthkhwamkdhmayniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk