บทความนี้อาจขยายความได้โดยการแปลบทความที่ตรงกันในภาษาอังกฤษ คลิกที่ [ขยาย] เพื่อศึกษาแนวทางการแปล
|
ฟินเซนต์ วิลเลิม ฟัน โคค (ดัตช์: ; 30 มีนาคม ค.ศ. 1853 — 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1890) คนไทยมักเรียก แหม่ม แวน โก๊ะ เป็นจิตรกรชาวดัตช์ในลัทธิประทับใจยุคหลัง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีชื่อเสียงและอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตก เขาสร้างสรรค์งานศิลป์กว่า 2,100 ชิ้นในเวลาเพียงสิบปีกว่า ในจำนวนนี้เป็นภาพสีน้ำมัน 860 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตขึ้นในสองปีสุดท้ายของชีวิตเขา ผลงานของเขามีทั้ง และ ซึ่งล้วนมีลักษณะเด่นเป็นสีสันจัดจ้านและงานพู่กันที่ฉวัดเฉวียนแฝงอารมณ์ชวนประทับใจอันช่วยสร้างรากฐานให้แก่ศิลปะสมัยใหม่ หลังทนทุกข์เพราะไข้ใจและความจนมานานหลายปี เขาปลิดชีวิตตนเองเมื่ออายุได้ 37 ปี
ฟินเซนต์ ฟัน โคค | |
---|---|
ค.ศ. 1889 ที่พิพิธภัณฑ์ออร์แซ | |
เกิด | ฟินเซนต์ วิลเลิม ฟัน โคค 30 มีนาคม ค.ศ. 1853 ประเทศเนเธอร์แลนด์ |
เสียชีวิต | 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1890 โอแวร์ซูว์รวซ ประเทศฝรั่งเศส | (37 ปี)
สาเหตุเสียชีวิต | ได้รับบาดเจ็บจากจากปืนที่ยิงใส่หน้าอกตนเอง |
สุสาน | Cimetière d'Auvers-sur-Oise, ประเทศฝรั่งเศส 49°04′31″N 2°10′44″E / 49.07531°N 2.17894°E |
สัญชาติ | ดัตช์ |
การศึกษา | |
มีชื่อเสียงจาก | จิตรกรรม วาดภาพชีวิต ภาพบุคคล และทิวทัศน์ |
ผลงานเด่น | (1885) (1887) (1888) ราตรีประดับดาว (1889) ภาพเหมือนของนายแพทย์กาแช (1890) (1890) (1890) (1890) |
ขบวนการ | ลัทธิประทับใจยุคหลัง |
ครอบครัว | (พี่/น้องชาย) |
เขาเกิดในครอบครัวชนชั้นกลางค่อนไปทางชั้นสูง เขาเป็นเด็กที่เคร่งขรึม พูดน้อย แต่คิดมาก เมื่อโตเป็นหนุ่ม เขาทำงานเป็นนายหน้าขายศิลปกรรม จึงเดินทางบ่อย แต่เมื่อต้องย้ายบ้านไปอยู่ลอนดอน เขาก็ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า จึงหันไปหาศาสนา ปฏิบัติศาสนกิจในฐานะมิชชันนารีโปรเตสแตนต์ทางภาคใต้ของเบลเยียม ชีวิตเขาล่องลอยไปมาระหว่างสุขภาพอันทรุดโทรมกับความโดดเดี่ยวอ้างว้าง กระทั่งมาจับงานวาดเขียนเอาใน ค.ศ. 1881 หลังย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดเมืองนอนกับบิดามารดา เขาได้ น้องชาย คอยสนับสนุนทางการเงิน เขากับน้องติดต่อกันมาเสมอด้วย ผลงานชิ้นแรก ๆ ของเขาส่วนใหญ่เป็นและภาพแสดง แต่มีไม่มากที่ใช้สีสันสดใส ต่างจากผลงานชิ้นหลัง ๆ ครั้น ค.ศ. 1886 เขาย้ายไปอยู่ปารีส ได้พบเจอสมาชิกกลุ่มล้ำยุค เช่น กับปอล โกแก็ง ที่กำลังมีปฏิกิริยาตอบโต้ประเด็นอ่อนไหวเรื่องลัทธิประทับใจ เมื่องานของเขาก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ เขาก็สร้างรูปโฉมใหม่ให้แก่งานภาพนิ่งและของตน โดยให้มีสีสันกระจ่างใสขึ้น เป็นรูปแบบที่ใช้งานจริงอย่างเต็มที่ในช่วงที่เขาพำนักอยู่ ณ เมืองอาร์ล ทางภาคใต้ของฝรั่งเศสเมื่อ ค.ศ. 1888 ช่วงนี้เองที่เขาขยายหัวเรื่องสำหรับงานของตนออกไปเป็นภาพชุด และ
เขาประสบปัญหาทางใจอยู่หลายช่วง และแม้จะกังวลเรื่องเสถียรภาพทางจิตใจของเขายิ่งนัก เขากลับละเลยสุขภาพทางกายไปเสียสิ้น ไม่กินไม่นอนตามสมควร ทั้งยังร่ำสุราอย่างหนัก ครั้งหนึ่ง เขามีปากเสียงกับโกแก็ง แล้วคว้ามีดโกนไล่ตามโกแก็ง ก่อนเฉือนหูซ้ายของตัว ความปั่นป่วนทางใจทำให้เขาต้องอยู่โรงพยาบาลจิตเวชหลายครั้ง เช่นครั้งที่เขาพักอยู่ในแซ็ง-เรมี-เดอ-พรอว็องส์ เมื่อออกโรงพยาบาลแล้ว เขาย้ายไปอยู่ ที่โอแวร์ซูว์รวซใกล้กับปารีส และอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์แผนโฮมีโอพาธีนาม ภาวะซึมเศร้าของเขาดำเนินต่อมาจนวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1890 เขาใช้ยิงอกตนเอง บาดแผลครั้งนี้ทำให้เขาเสียชีวิตในอีกสองวันถัดมา
ตอนมีชีวิตอยู่ เขาไม่ประสบความสำเร็จ และถูกมองเป็นคนบ้า คนล้มเหลว แต่พอเสียชีวิตเพราะอัตวินิบาตกรรมแล้ว เขากลับโด่งดัง สถิตอยู่ในภาพจำของสาธารณชนในฐานะอัจฉริยบุคคลผู้ถูกมองข้าม ถึงกับมีคำกล่าวว่า เขาเป็น ศิลปิน "ผู้ซึ่งวาทกรรมเรื่องความบ้าคลั่งและความสร้างสรรค์มีเส้นคั่นอยู่บาง ๆ" (where discourses on madness and creativity converge) เกียรติยศเริ่มหลั่งไหลมาหาเขาในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เนื่องจากองค์ประกอบในรูปแบบงานวาดเขียนของเขากลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเพราะคติโฟวิสต์และลัทธิสำแดงพลังอารมณ์แบบเยอรมัน หลายสิบปีให้หลัง ผลงานของเขาประสบความสำเร็จทางการค้าพาณิชย์อย่างกว้างขวาง ทุกวันนี้ เขาเป็นที่จดจำในฐานะจิตรกรคนสำคัญผู้มีชีวิตอันชวนสลด บุคลิกภาพที่เป็นปัญหาของเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของ (tortured artist) ในอุดมคติแนวสุขนาฏกรรม
ประวัติ
ฟัน โคค เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 1853 ที่เมือง (Zundert) ในภูมิภาคบราแบนต์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ (เป็นเมืองที่ติดกับชายแดนเบลเยียม) มีพ่อเป็นนักบวชในศาสนาคริสต์ มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 6 คน เป็นชนชั้นกลางที่มีชีวิตแบบแคบ ๆ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ดูเงอะงะ ไม่คล่องแคล่วเหมือนคนมีปมด้อย ค่อนข้างใจน้อย เขามีนิสัยชอบเก็บตัวและมีอาการของโรควิตกกังวล และยังมีอารมณ์ที่อ่อนไหวง่าย อ่อนโยน มีความเมตตาต่อคนทุกข์ยาก ทำให้ทุกคนมองเขาว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ น่ารำคาญ เมื่ออายุได้ 16 ปี เขาได้เข้าทำงานที่ห้องภาพแห่งหนึ่งที่เดอะเฮก กับญาติที่ทำงานด้านศิลปะ และเมื่อเขามีอายุได้ 18 ปี เขาก็ถูกส่งตัวไปยังห้องภาพที่สาขาปารีส ด้วยความที่เขาเป็นคนซื่อ และความเบื่อหน่ายที่ทางห้องภาพเอารูปเลว ๆ มาหลอกขายกับคนที่ไม่รู้จักศิลปะ เขาถึงกับบอกให้ลูกค้าไม่ให้ซื้อภาพนั้น จนกระทั่งทางร้านไม่พอใจไล่เขาออกจากงานในที่สุด
หลังจากนั้น เขาจึงหันไปศึกษาทางศาสนาอย่างจริงจัง หลังจากสอบเข้าวิทยาลัยศาสนาที่นครอัมสเตอร์ดัมได้ 14 เดือน เขาพบว่าตนเองไม่ได้อะไรอย่างที่ตั้งใจไว้ จึงเลิกเรียนเสียและได้ย้ายไปอยู่ในเหมืองถ่านหินในตำบลบอรีนาฌ เพื่อเทศนาสั่งสอนและช่วยเหลือคนทุกข์ยากในเหมืองนั้นโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาอุทิศเงินจำนวนหนึ่งให้กับคนทุกข์ยากโดยที่ตนเองมีเงินใช้อย่างจำกัด และต้องกินเศษขนมปัง ทำให้ร่างกายผอมลงและเป็นพิษไข้ เพราะการบริโภคที่ผิดอนามัยและความหนาวเหน็บจากกองไฟกองเล็กที่ไม่อาจสู้กับความหนาวเย็นของอากาศได้ ทำให้ความงก ๆ เงิ่น ๆ ของเขามีมากยิ่งขึ้น
ฟัน โคค เป็นคนที่พูดไม่เก่ง ทำให้การเทศนาสั่งสอนของเขาไม่อาจจับจิตชาวเหมืองได้ ประกอบกับความใจบุญของเขาทำให้คนเหล่านั้นมองว่าเขาเป็นคนแปลกแตกต่างจากคนเหมือง ทำให้เขาเศร้าใจมาก และศาลพระก็ไม่ยอมแต่งตั้งให้เขาเป็นนักเทศน์ ในที่สุดชีวิตของเขาต้องเร่ร่อนไปอย่างไร้จุดหมาย เขาไม่ยอมแม้กระทั่งที่จะเขียนจดหมายถึงเตโอ น้องชายคนสนิท
จนกระทั่ง ปี ค.ศ. 1880 เขาได้เขียนจดหมายมาบอกกับเตโอ น้องของเขาว่า เขาค้นพบแล้วว่า ศิลปะคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา และเข้ามาแทนที่สิ่งอื่น ๆ จนหมด เขาใช้เวลาเพื่อศึกษามันด้วยตนเองอย่างจริงจัง ก่อนหน้านั้นเขาเคยเขียนรูปมาบ้างแต่ไม่จริงจังเท่าไหร่ แต่ต่อจากนี้ไปมันคือชีวิตจิตใจของเขา (จดหมายที่ฟัน โคค เขียนถึงน้องชายของเขา ในปัจจุบันก็เป็นที่ต้องการและมีความสำคัญมากต่อการชมงานศิลปะของเขา)
ฟัน โคค ใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางสายศิลปะอย่างลำบากยากแค้น เขายิงตัวเองเข้าทางซี่โครงด้านซ้าย ในวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1890 หลังจากการเขียน "" (Wheat Field with Crows) (งานชิ้นนี้อาจจะสื่อถึงการหาทางออกให้กับของชีวิตของเขาเอง ที่เปรียบเสมือนทาง 3 สายที่มาบรรจบกันทำให้เลือกไม่ถูกว่าจะไปทางใดต่อ) ซึ่งเป็นงานชิ้นสุดท้ายของเขาที่ทุ่งนา แต่เขาไม่เสียชีวิตทันที โดยเขาได้เอามือกดปากแผลไว้และเดินกลับมาที่ร้านกาแฟที่เขาพัก
ฟัน โคค สิ้นใจในวันอังคารที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1890 ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของเพื่อน ๆ ศพของเขาถูกฝังไว้ในสุสานเล็ก ๆ ที่เมืองโอแวร์ซูว์รวซ ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส
หลังจากนั้นอีก 1 ปีต่อมา เตโอ น้องชายก็เสียชีวิตตามพี่ชายของเขาไปเนื่องจากความโศกเศร้าและอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ศพของเตโอถูกฝังที่เมืองยูเทรกต์ และในอีก 23 ปีต่อมา ภรรยาของเตโอจึงย้ายศพของเขาบางส่วนมาฝังไว้ใกล้ ๆ ศพของฟัน โคค ในที่สุดพี่น้องที่รักกันมากก็ได้มาอยู่ด้วยกันในสุสานเล็ก ๆ ที่เมืองโอแวร์ซูว์รวซ
ค.ศ. 2013 ได้มีการพบผลงานของเขาอีกชิ้นชื่อ "" (Sunset at Montmajour) ที่ห้องใต้หลังคาของนักสะสมชาวนอร์เวย์
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถ
- คำอ่านในภาษาอังกฤษบริติชมีทั้ง /ˌvæn ˈɡɒx/ แวน โกค หรือบ้าง /ˌvæn ˈɡɒf/ แวน กอฟ พจนานุกรมสหรัฐลงว่า /ˌvæn ˈɡoʊ/ แวน โก
อ้างอิง
- McQuillan (1989), 9.
- พบผลงานชิ้นใหม่ล่าสุด "แวนโก๊ะ" ซ่อนในห้องใต้หลังคาหลายสิบปี
แหล่งข้อมูลอื่น
- Vincent van Gogh Gallery: The complete works and letters of Vincent van Gogh, vggallery.com; accessed 20 November 2014.
- งานศิลปะ โดย ฟินเซนต์ ฟัน โคค 2015-09-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixackhyaykhwamidodykaraeplbthkhwamthitrngkninphasaxngkvs khlikthi khyay ephuxsuksaaenwthangkaraeplkhunsamarthdu karaepldwykhxmphiwetxrcakbthkhwaminphasaxngkvs ekhruxngmuxchwyaeplxyang diphaexl hrux kuekilthranselth epncuderimtnthidisahrbkaraepl xyangirktam phuaeplcatxngtrwcsxbkhxphidphladcakkaraepldwykhxmphiwetxraelayunynwakaraeplnnthuktxng erakhxptiesthenuxhathikhdlxkcakekhruxngmuxaeplthiimmikartrwcthankxnephyaephr krunaxyaaeplswnkhxngkhxkhwamthiduaelwechuxthuximidhruxmikhunphaphta thaepnipid oprdchwyyunyndwykartrwcsxbaehlngxangxingthipraktinbthkhwamphasann oprdrabuiwinkhwamyxkaraekikhwakhunaeplenuxhamacakphasaid khunkhwrephimaemaebb Translated en Vincent van Gogh iwinhnaphudkhuy sahrbkhaaenanaaelaaenwthangephimetim oprdsuksaidthi wikiphiediy karaepl finesnt wilelim fn okhkh dtch 30 minakhm kh s 1853 29 krkdakhm kh s 1890 khnithymkeriyk aehmm aewn oka epncitrkrchawdtchinlththiprathbicyukhhlng sungepnhnunginphumichuxesiyngaelaxiththiphlmakthisudinprawtisastrsilpatawntk ekhasrangsrrkhngansilpkwa 2 100 chininewlaephiyngsibpikwa incanwnniepnphaphsinamn 860 chin sungswnihyphlitkhuninsxngpisudthaykhxngchiwitekha phlngankhxngekhamithng aela sunglwnmilksnaednepnsisncdcanaelanganphuknthichwdechwiynaefngxarmnchwnprathbicxnchwysrangrakthanihaeksilpasmyihm hlngthnthukkhephraaikhicaelakhwamcnmananhlaypi ekhaplidchiwittnexngemuxxayuid 37 pifinesnt fn okhkhkh s 1889 thiphiphithphnthxxraesekidfinesnt wilelim fn okhkh 30 minakhm kh s 1853 1853 03 30 praethsenethxraelndesiychiwit29 krkdakhm kh s 1890 1890 07 29 37 pi oxaewrsuwrws praethsfrngesssaehtuesiychiwitidrbbadecbcakcakpunthiyingishnaxktnexngsusanCimetiere d Auvers sur Oise praethsfrngess 49 04 31 N 2 10 44 E 49 07531 N 2 17894 E 49 07531 2 17894sychatidtchkarsuksamichuxesiyngcakcitrkrrm wadphaphchiwit phaphbukhkhl aelathiwthsnphlnganedn 1885 1887 1888 ratripradbdaw 1889 phaphehmuxnkhxngnayaephthykaaech 1890 1890 1890 1890 khbwnkarlththiprathbicyukhhlngkhrxbkhrw phi nxngchay ekhaekidinkhrxbkhrwchnchnklangkhxnipthangchnsung ekhaepnedkthiekhrngkhrum phudnxy aetkhidmak emuxotepnhnum ekhathanganepnnayhnakhaysilpkrrm cungedinthangbxy aetemuxtxngyaybanipxyulxndxn ekhaktkxyuinphawasumesra cunghniphasasna ptibtisasnkicinthanamichchnnariopretsaetntthangphakhitkhxngebleyiym chiwitekhalxnglxyipmarahwangsukhphaphxnthrudothrmkbkhwamoddediywxangwang krathngmacbnganwadekhiynexain kh s 1881 hlngyayklbipxyubanekidemuxngnxnkbbidamarda ekhaid nxngchay khxysnbsnunthangkarengin ekhakbnxngtidtxknmaesmxdwy phlnganchinaerk khxngekhaswnihyepnaelaphaphaesdng aetmiimmakthiichsisnsdis tangcakphlnganchinhlng khrn kh s 1886 ekhayayipxyuparis idphbecxsmachikklumlayukh echn kbpxl okaekng thikalngmiptikiriyatxbotpraednxxnihweruxnglththiprathbic emuxngankhxngekhakawhnaiperuxy ekhaksrangrupochmihmihaeknganphaphningaelakhxngtn odyihmisisnkracangiskhun epnrupaebbthiichngancringxyangetmthiinchwngthiekhaphankxyu n emuxngxarl thangphakhitkhxngfrngessemux kh s 1888 chwngniexngthiekhakhyayhweruxngsahrbngankhxngtnxxkipepnphaphchud aela ekhaprasbpyhathangicxyuhlaychwng aelaaemcakngwleruxngesthiyrphaphthangcitickhxngekhayingnk ekhaklblaelysukhphaphthangkayipesiysin imkinimnxntamsmkhwr thngyngrasuraxyanghnk khrnghnung ekhamipakesiyngkbokaekng aelwkhwamidokniltamokaekng kxnechuxnhusaykhxngtw khwampnpwnthangicthaihekhatxngxyuorngphyabalcitewchhlaykhrng echnkhrngthiekhaphkxyuinaesng ermi edx phrxwxngs emuxxxkorngphyabalaelw ekhayayipxyu thioxaewrsuwrwsiklkbparis aelaxyuinkarduaelrksakhxngaephthyaephnohmioxphathinam phawasumesrakhxngekhadaenintxmacnwnthi 27 krkdakhm kh s 1890 ekhaichyingxktnexng badaephlkhrngnithaihekhaesiychiwitinxiksxngwnthdma txnmichiwitxyu ekhaimprasbkhwamsaerc aelathukmxngepnkhnba khnlmehlw aetphxesiychiwitephraaxtwinibatkrrmaelw ekhaklbodngdng sthitxyuinphaphcakhxngsatharnchninthanaxcchriybukhkhlphuthukmxngkham thungkbmikhaklawwa ekhaepn silpin phusungwathkrrmeruxngkhwambakhlngaelakhwamsrangsrrkhmiesnkhnxyubang where discourses on madness and creativity converge ekiyrtiyserimhlngihlmahaekhaintnkhriststwrrsthi 20 enuxngcakxngkhprakxbinrupaebbnganwadekhiynkhxngekhaklayepnrupepnrangkhunmaephraakhtiofwistaelalththisaaedngphlngxarmnaebbeyxrmn hlaysibpiihhlng phlngankhxngekhaprasbkhwamsaercthangkarkhaphanichyxyangkwangkhwang thukwnni ekhaepnthicdcainthanacitrkrkhnsakhyphumichiwitxnchwnsld bukhlikphaphthiepnpyhakhxngekhaklayepnsylksnkhxng tortured artist inxudmkhtiaenwsukhnatkrrmprawti phaphekhiyntwexng odyfinesnt fn okhkh 1887 ratripradbdaw hnunginphlnganthiruckknmakthisudkhxngfn okhkh fn okhkh ekidemuxwnthi 30 minakhm kh s 1853 thiemuxng Zundert inphumiphakhbraaebnt praethsenethxraelnd epnemuxngthitidkbchayaednebleyiym miphxepnnkbwchinsasnakhrist miphinxngdwyknthnghmd 6 khn epnchnchnklangthimichiwitaebbaekhb imchxbkarepliynaeplng ekhaepnedkhnumthiduengxanga imkhlxngaekhlwehmuxnkhnmipmdxy khxnkhangicnxy ekhaminisychxbekbtwaelamixakarkhxngorkhwitkkngwl aelayngmixarmnthixxnihwngay xxnoyn mikhwamemttatxkhnthukkhyak thaihthukkhnmxngekhawaepnkhnecaxarmn narakhay emuxxayuid 16 pi ekhaidekhathanganthihxngphaphaehnghnungthiedxaehk kbyatithithangandansilpa aelaemuxekhamixayuid 18 pi ekhakthuksngtwipynghxngphaphthisakhaparis dwykhwamthiekhaepnkhnsux aelakhwamebuxhnaythithanghxngphaphexarupelw mahlxkkhaykbkhnthiimrucksilpa ekhathungkbbxkihlukkhaimihsuxphaphnn cnkrathngthangranimphxicilekhaxxkcaknganinthisud hlngcaknn ekhacunghnipsuksathangsasnaxyangcringcng hlngcaksxbekhawithyalysasnathinkhrxmsetxrdmid 14 eduxn ekhaphbwatnexngimidxairxyangthitngiciw cungelikeriynesiyaelaidyayipxyuinehmuxngthanhinintablbxrinach ephuxethsnasngsxnaelachwyehluxkhnthukkhyakinehmuxngnnodyimruckehndehnuxy ekhaxuthisengincanwnhnungihkbkhnthukkhyakodythitnexngmienginichxyangcakd aelatxngkinesskhnmpng thaihrangkayphxmlngaelaepnphisikh ephraakarbriophkhthiphidxnamyaelakhwamhnawehnbcakkxngifkxngelkthiimxacsukbkhwamhnaweynkhxngxakasid thaihkhwamngk engin khxngekhamimakyingkhun fn okhkh epnkhnthiphudimekng thaihkarethsnasngsxnkhxngekhaimxaccbcitchawehmuxngid prakxbkbkhwamicbuykhxngekhathaihkhnehlannmxngwaekhaepnkhnaeplkaetktangcakkhnehmuxng thaihekhaesraicmak aelasalphrakimyxmaetngtngihekhaepnnkethsn inthisudchiwitkhxngekhatxngerrxnipxyangircudhmay ekhaimyxmaemkrathngthicaekhiyncdhmaythungetox nxngchaykhnsnith cnkrathng pi kh s 1880 ekhaidekhiyncdhmaymabxkkbetox nxngkhxngekhawa ekhakhnphbaelwwa silpakhuxthuksingthukxyangkhxngekha aelaekhamaaethnthisingxun cnhmd ekhaichewlaephuxsuksamndwytnexngxyangcringcng kxnhnannekhaekhyekhiynrupmabangaetimcringcngethaihr aettxcakniipmnkhuxchiwitcitickhxngekha cdhmaythifn okhkh ekhiynthungnxngchaykhxngekha inpccubnkepnthitxngkaraelamikhwamsakhymaktxkarchmngansilpakhxngekha fn okhkh ichchiwitxyubnesnthangsaysilpaxyanglabakyakaekhn ekhayingtwexngekhathangsiokhrngdansay inwnxathitythi 27 krkdakhm kh s 1890 hlngcakkarekhiyn Wheat Field with Crows nganchinnixaccasuxthungkarhathangxxkihkbkhxngchiwitkhxngekhaexng thiepriybesmuxnthang 3 saythimabrrcbknthaiheluxkimthukwacaipthangidtx sungepnnganchinsudthaykhxngekhathithungna aetekhaimesiychiwitthnthi odyekhaidexamuxkdpakaephliwaelaedinklbmathirankaaefthiekhaphk fn okhkh sinicinwnxngkharthi 29 krkdakhm kh s 1890 thamklangkhwamesraoskesiyickhxngephuxn sphkhxngekhathukfngiwinsusanelk thiemuxngoxaewrsuwrws thangtxnehnuxkhxngpraethsfrngess hlngcaknnxik 1 pitxma etox nxngchaykesiychiwittamphichaykhxngekhaipenuxngcakkhwamoskesraaelaxakarecbpwyeruxrng sphkhxngetoxthukfngthiemuxngyuethrkt aelainxik 23 pitxma phrryakhxngetoxcungyaysphkhxngekhabangswnmafngiwikl sphkhxngfn okhkh inthisudphinxngthirkknmakkidmaxyudwykninsusanelk thiemuxngoxaewrsuwrws kh s 2013 idmikarphbphlngankhxngekhaxikchinchux Sunset at Montmajour thihxngithlngkhakhxngnksasmchawnxrewyduephimlththiprathbicyukhhlng phaphekhiynodyfinesnt fn okhkhechingxrrthkhaxaninphasaxngkvsbritichmithng ˌ v ae n ˈ ɡ ɒ x aewn okkh hruxbang ˌ v ae n ˈ ɡ ɒ f aewn kxf phcnanukrmshrthlngwa ˌ v ae n ˈ ɡ oʊ aewn okxangxingMcQuillan 1989 9 harv error no target CITEREFMcQuillan1989 phbphlnganchinihmlasud aewnoka sxninhxngithlngkhahlaysibpiaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb finesnt fn okhkh Vincent van Gogh Gallery The complete works and letters of Vincent van Gogh vggallery com accessed 20 November 2014 ngansilpa ody finesnt fn okhkh 2015 09 24 thi ewyaebkaemchchin bthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk