ฟอร์ตูน การ์เซส (สเปน: Fortún Garcés, บาสก์: Orti Gartzez) หรือ ผู้มีตาเดียว (สเปน: el Tuerto) หรือ ผู้เป็นพระ (สเปน: el Monje) เป็นกษัตริย์แห่งปัมโปลนาตั้งแต่ ค.ศ. 882 ถึง ค.ศ. 902 ทรงปรากฏในบันทึกภาษาอาหรับในชื่อ ฟอร์ตูน อิบน์ การ์ซิยา (อาหรับ: فرتون بن غرسية) ทรงเป็นพระโอรสคนโตของ และเป็นพระนัดดาของ ปฐมกษัตริย์แห่งปัมโปลนา ทรงครองราชย์เป็นเวลา 30 ปี พระเจ้าฟอร์ตูน การ์เซสเป็นกษัตริย์คนสุดท้ายของราชวงศ์อิญญิเกวซ
พระเจ้าฟอร์ตูน การ์เซส | |
---|---|
กษัตริย์แห่งปัมโปลนา | |
ครองราชย์ | ค.ศ. 870–905 |
รัชกาลก่อนหน้า | |
รัชกาลถัดไป | พระเจ้าซันโชที่ 1 แห่งปัมโปลนา |
สิ้นพระชนม์ | ค.ศ. 922 |
ฝังพระศพ | อารามเลย์เร |
พระมเหสี | ออเรีย |
ราชวงศ์ | อิญญิเกวซ |
พระบิดา | |
พระมารดา | อูร์รากา |
พระราชประวัติ
วันเสด็จพระราชสมภพของพระเจ้าฟอร์ตูนไม่เป็นที่รู้ ทรงเป็นพระโอรสคนโตของพระเจ้าการ์ซิอา อิญญิเกวซ กษัตริย์แห่งปัมโปลนากับหญิงนามว่าอูร์รากา ซึ่งอาจจะเป็นหลานสาวของมูซา อิบน์ มูซา อิบน์ กาซี ผู้นำตระกูลกาซี ข้อมูลช่วงต้นชีวิตของพระองค์มีไม่มาก
พระเจ้าการ์ซิอา อิญญิเกวซมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชอาณาจักรอัสตูเรียส ทรงตีตัวออกห่างจากราชวงศ์บานูกาซีที่ปกครองดินแดนใกล้กับแม่น้ำเอโบร พระองค์เข้าไปพัวพันในความขัดแย้งกับกองทัพมุสลิมของบานูกาซี และมูฮัมหมัดที่ 1 เอมีร์แห่งกอร์โดบาที่บุกปัมโปลนาในปี ค.ศ. 860 และจับกุมตัวฟอร์ตูนได้ในมิลาโกร พร้อมกับออนเนกา ฟอร์ตูเนซ พระธิดาของพระองค์ ทั้งคู่ถูกจับไปเป็นตัวประกันในกอร์โดบา มูฮัมหมัด อิบน์ ลูบบ์ วาลีแห่งซาราโกซาปิดล้อมทำลายปราสาทไอบาร์ ส่งผลให้พระเจ้าการ์ซิอา อิญญิเกวซสิ้นพระชนม์ หลังพระบิดาสิ้นพระชนม์ ฟอร์ตูน การ์เซสได้รับอนุญาตให้กลับไปปัมโปลเพื่อรับตำแหน่งเป็นกษัตริย์ พระเจ้าฟอร์ตูน การ์เซสครองราชย์ด้วยนโยบายทางการเมืองที่ปรับให้เป็นไปตามความต้องการของตระกูลบานูกาซี สร้างความขุ่นเคืองให้แก่ขุนนางปัมโปลนา พระองค์เกษียณตัวเข้าอารามเลย์เรอยู่บ่อยครั้ง
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 905 เมื่อซันโช การ์เซสได้รับเลือกจากขุนนางปัมโปลนาให้มาเป็นกษัตริย์แทนที่พระเจ้าฟอร์ตูน การ์เซส เหตุผลที่ซ้อนอยู่เบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้คือความเกรียงไกรด้านการทหารของซันโช การ์เซสและการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญ อาทิ ไรมุนโดที่ 1 เคานต์แห่งปายาร์สและริบาโกร์ซา, กาลินโด อัซนาเรซที่ 2 เคานต์แห่งอารากอน และพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 3 แห่งอัสตูเรียส
พระเจ้าฟอร์ตูนเกษียณตัวเข้าอารามเลย์เรอย่างถาวรในปี ค.ศ. 905 ทรงสิ้นพระชนม์ในอารามดังกล่าวในปี ค.ศ. 922
การแต่งงานและผู้สืบสายเลือด
ฟอร์ตูนแต่งงานกับออเรียซึ่งอาจจะเป็นหลานสาวของมูซา อิบน์ มูซา อิบน์ กาซี ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน ดังนี้
- อิญญิโก ฟอร์ตูเนซ
- อัซนาร์ ฟอร์ตูเนซ
- เบลัสโก ฟอร์ตูเนซ
- โลเป ฟอร์ตูเนซ
- ออนเนกา ฟอร์ตูเนซ มีบุตรหลายคน หนึ่งในนั้นคือพระราชินีตอดาแห่งปัมโปลนา พระมเหสีของพระเจ้าซันโชที่ 1 แห่งปัมโปลนา
อ้างอิง
- Martínez Díez, Gonzalo (2007). Sancho III el Mayor Rey de Pamplona, Rex Ibericus (in Spanish). Madrid: Marcial Pons Historia. , p. 25.
- Salazar y Acha, Jaime de (2006). "Urraca. Un nombre egregio en la onomástica altomedieval". En la España medieval (in Spanish) (1): 29–48. ISSN 0214-3038, pp. 33-34.
- Martínez Díez, Gonzalo (2007). Sancho III el Mayor Rey de Pamplona, Rex Ibericus (in Spanish). Madrid: Marcial Pons Historia. ISBN 978-84-96467-47-7, p. 23.
- Menéndez Pidal 1999, p. 104.
- Martínez Díez, Gonzalo (2007). Sancho III el Mayor Rey de Pamplona, Rex Ibericus (in Spanish). Madrid: Marcial Pons Historia. , p. 26.
- Salazar y Acha, Jaime de (2006). "Urraca. Un nombre egregio en la onomástica altomedieval". En la España medieval (in Spanish) (1): 29–48. ISSN 0214-3038, p. 33.
- Rei & 2011/2012, pp. 44-45.
- Cañada Juste, Alberto (2013). "Doña Onneca, una princesa vascona en la corte de los emires cordobeses" (PDF). Príncipe de Viana (in Spanish). Gobierno de Navarra (258 (Separata)): 481–501. ISSN 0032-8472, p. 482.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
fxrtun karess sepn Fortun Garces bask Orti Gartzez hrux phumitaediyw sepn el Tuerto hrux phuepnphra sepn el Monje epnkstriyaehngpmoplnatngaet kh s 882 thung kh s 902 thrngpraktinbnthukphasaxahrbinchux fxrtun xibn karsiya xahrb فرتون بن غرسية thrngepnphraoxrskhnotkhxng aelaepnphranddakhxng pthmkstriyaehngpmoplna thrngkhrxngrachyepnewla 30 pi phraecafxrtun karessepnkstriykhnsudthaykhxngrachwngsxiyyiekwsphraecafxrtun karesskstriyaehngpmoplnakhrxngrachykh s 870 905rchkalkxnhnarchkalthdipphraecasnochthi 1 aehngpmoplnasinphrachnmkh s 922fngphrasphxaramelyerphramehsixxeriyrachwngsxiyyiekwsphrabidaphramardaxurrakaphrarachprawtiwnesdcphrarachsmphphkhxngphraecafxrtunimepnthiru thrngepnphraoxrskhnotkhxngphraecakarsixa xiyyiekws kstriyaehngpmoplnakbhyingnamwaxurraka sungxaccaepnhlansawkhxngmusa xibn musa xibn kasi phunatrakulkasi khxmulchwngtnchiwitkhxngphraxngkhmiimmak phraecakarsixa xiyyiekwsmikhwamsmphnthiklchidkbrachxanackrxstueriys thrngtitwxxkhangcakrachwngsbanukasithipkkhrxngdinaedniklkbaemnaexobr phraxngkhekhaipphwphninkhwamkhdaeyngkbkxngthphmuslimkhxngbanukasi aelamuhmhmdthi 1 exmiraehngkxrodbathibukpmoplnainpi kh s 860 aelacbkumtwfxrtunidinmilaokr phrxmkbxxnenka fxrtuens phrathidakhxngphraxngkh thngkhuthukcbipepntwprakninkxrodba muhmhmd xibn lubb waliaehngsaraoksapidlxmthalayprasathixbar sngphlihphraecakarsixa xiyyiekwssinphrachnm hlngphrabidasinphrachnm fxrtun karessidrbxnuyatihklbippmoplephuxrbtaaehnngepnkstriy phraecafxrtun karesskhrxngrachydwynoybaythangkaremuxngthiprbihepniptamkhwamtxngkarkhxngtrakulbanukasi srangkhwamkhunekhuxngihaekkhunnangpmoplna phraxngkheksiyntwekhaxaramelyerxyubxykhrng susanbrrphchnkstriyinxaramelyer karepliynaeplngkhrngihyekidkhuninpi kh s 905 emuxsnoch karessidrbeluxkcakkhunnangpmoplnaihmaepnkstriyaethnthiphraecafxrtun karess ehtuphlthisxnxyuebuxnghlngkartdsinickhrngnikhuxkhwamekriyngikrdankarthharkhxngsnoch karessaelakarsnbsnuncakbukhkhlsakhy xathi irmunodthi 1 ekhantaehngpayarsaelaribaokrsa kalinod xsnaersthi 2 ekhantaehngxarakxn aelaphraecaxlfxnosthi 3 aehngxstueriys phraecafxrtuneksiyntwekhaxaramelyerxyangthawrinpi kh s 905 thrngsinphrachnminxaramdngklawinpi kh s 922karaetngnganaelaphusubsayeluxdfxrtunaetngngankbxxeriysungxaccaepnhlansawkhxngmusa xibn musa xibn kasi thngkhumiphraoxrsthidadwykn dngni xiyyiok fxrtuens xsnar fxrtuens eblsok fxrtuens olep fxrtuens xxnenka fxrtuens mibutrhlaykhn hnunginnnkhuxphrarachinitxdaaehngpmoplna phramehsikhxngphraecasnochthi 1 aehngpmoplnaxangxingMartinez Diez Gonzalo 2007 Sancho III el Mayor Rey de Pamplona Rex Ibericus in Spanish Madrid Marcial Pons Historia ISBN 978 84 96467 47 7 p 25 Salazar y Acha Jaime de 2006 Urraca Un nombre egregio en la onomastica altomedieval En la Espana medieval in Spanish 1 29 48 ISSN 0214 3038 pp 33 34 Martinez Diez Gonzalo 2007 Sancho III el Mayor Rey de Pamplona Rex Ibericus in Spanish Madrid Marcial Pons Historia ISBN 978 84 96467 47 7 p 23 Menendez Pidal 1999 p 104 Martinez Diez Gonzalo 2007 Sancho III el Mayor Rey de Pamplona Rex Ibericus in Spanish Madrid Marcial Pons Historia ISBN 978 84 96467 47 7 p 26 Salazar y Acha Jaime de 2006 Urraca Un nombre egregio en la onomastica altomedieval En la Espana medieval in Spanish 1 29 48 ISSN 0214 3038 p 33 Rei amp 2011 2012 pp 44 45 Canada Juste Alberto 2013 Dona Onneca una princesa vascona en la corte de los emires cordobeses PDF Principe de Viana in Spanish Gobierno de Navarra 258 Separata 481 501 ISSN 0032 8472 p 482