พระเจ้าจะซวา (อังกฤษ: Kyaswa; พม่า: ကျစွာ 1198 – 1251) กษัตริย์แห่ง ราชวงศ์พุกาม ครองสิริราชสมบัติระหว่าง ค.ศ. 1235 – 1251 โดยพระองค์เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าไชยสิงขะ ซึ่งรัชสมัยของพระองค์นับเป็นจุดเรื่มต้นของความเสื่อมถอยแห่งราชวงศ์พุกามอย่างแท้จริง
พระเจ้าจะซวา ကျစွာ | |||||
---|---|---|---|---|---|
กษัตริย์แห่งพม่า | |||||
ครองราชย์ | 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1235 – ป. พฤษภาคม ค.ศ. 1251 | ||||
ก่อนหน้า | พระเจ้าไชยสิงขะ (หรือ) | ||||
ต่อไป | พระเจ้าอุซะนา | ||||
มุขยมนตรี | ราซะทินจานแห่งพุกาม | ||||
ประสูติ | 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1198 วันจันทร์ แรม 13 ค่ำ เดือน Kason 560 ME พุกาม | ||||
สวรรคต | ป. พฤษภาคม ค.ศ. 1251 (~53 พรรษา) ป. Nayon 613 ME พุกาม | ||||
ชายา | |||||
พระราชบุตร | พระเจ้าอุซะนา | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | พุกาม | ||||
พระราชบิดา | พระเจ้าไชยสิงขะ | ||||
พระราชมารดา | |||||
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
เมื่อพระเจ้าไชยสิงขะพระราชบิดาเสด็จสวรรคตใน ค.ศ. 1235 พระองค์ในฐานะรัชทายาทจึงขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมา โดยพระองค์มิได้เป็นที่นิยมเหมือนพระราชบิดาเพราะพระองค์ได้ยกเว้นภาษีที่ดินธรณีสงฆ์ ทำให้พระราชทรัพย์ที่มีจำนวนมากเริ่มร่อยหลอลง รวมถึงราชวงศ์พุกามที่เจริญรุ่งเรืองและมีเสถียรภาพมายาวนานกว่า 200 ปีนับแต่รัชสมัย พระเจ้าอโนรธามังช่อ เริ่มสั่นคลอน
พระเจ้าจะซวาเสด็จสวรรคตใน ค.ศ. 1251 หลังครองสิริราชสมบัติได้ 16 ปี พระราชโอรสองค์ใหญ่ที่เป็นรัชทายาทได้ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมาเป็น พระเจ้าอุซะนา
อ้างอิง
- Than Tun 1964: 134
- Kala Vol. 1 2006: 232, per footnote #2 by the Universities Historical Research
ก่อนหน้า | พระเจ้าจะซวา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าไชยสิงขะ | พระมหากษัตริย์พม่า (อาณาจักรพม่ายุคที่ 1) (พ.ศ. 1778 - พ.ศ. 1794) | พระเจ้าอุซะนา |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecacaswa xngkvs Kyaswa phma က စ 1198 1251 kstriyaehng rachwngsphukam khrxngsirirachsmbtirahwang kh s 1235 1251 odyphraxngkhepnphrarachoxrskhxng phraecaichysingkha sungrchsmykhxngphraxngkhnbepncuderumtnkhxngkhwamesuxmthxyaehngrachwngsphukamxyangaethcringphraecacaswa က စ kstriyaehngphmakhrxngrachy19 krkdakhm kh s 1235 p phvsphakhm kh s 1251kxnhnaphraecaichysingkha hrux txipphraecaxusanamukhymntrirasathincanaehngphukamprasuti4 phvsphakhm kh s 1198 wncnthr aerm 13 kha eduxn Kason 560 ME phukamswrrkhtp phvsphakhm kh s 1251 53 phrrsa p Nayon 613 ME phukamchayaphrarachbutrphraecaxusanaphranamkhrxngrachysritriphuwnathitybwrbnthitthmmracharachwngsphukamphrarachbidaphraecaichysingkhaphrarachmardasasnaphuththethrwath emuxphraecaichysingkhaphrarachbidaesdcswrrkhtin kh s 1235 phraxngkhinthanarchthayathcungkhunsubrachbllngktxma odyphraxngkhmiidepnthiniymehmuxnphrarachbidaephraaphraxngkhidykewnphasithidinthrnisngkh thaihphrarachthrphythimicanwnmakerimrxyhlxlng rwmthungrachwngsphukamthiecriyrungeruxngaelamiesthiyrphaphmayawnankwa 200 pinbaetrchsmy phraecaxonrthamngchx erimsnkhlxn phraecacaswaesdcswrrkhtin kh s 1251 hlngkhrxngsirirachsmbtiid 16 pi phrarachoxrsxngkhihythiepnrchthayathidkhunsubrachbllngktxmaepn phraecaxusanaxangxingThan Tun 1964 134 Kala Vol 1 2006 232 per footnote 2 by the Universities Historical Research kxnhna phraecacaswa thdipphraecaichysingkha phramhakstriyphma xanackrphmayukhthi 1 ph s 1778 ph s 1794 phraecaxusana