พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า มีปรากฏในเรื่อง อนาคตวงศ์ ว่า หลังจากหมดยุคศาสนาของพระธรรมสามีสัมพุทธเจ้าแล้ว เกิดแผ่นดินใหม่ที่ไม่มีพระพุทธเจ้าเลยอยู่นานถึง 8 กัปป์ หลังจากนั้นเกิดแผ่นดินใหม่ ชื่อว่า จะมีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์บังเกิดขึ้น
พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า | |
---|---|
ข้อมูล | |
องค์แรก คือ พระนารทะสัมพุทธเจ้า
องค์ถัดไปคือ พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้า ในสมัย นี้ ท่านคือ โสณพราหมณ์
โดยพระองค์ได้มาอย่างยิ่งยวด โดยมีหนึ่งคือ ในสมัยพระกัสสปะพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นมาณพ ชื่อว่า มาฆมานพ อาชีพเป็นพ่อค้าทางเรือสำเภา
วันหนึ่ง นำของชิ้นหนึ่งไปขายได้กำไร 10 เท่าและนำเงินทองที่ได้มานั้นใส่เรือ แต่ประสบเหตุเรือล่ม ทรัพย์สินที่ได้มาจมหายทั้งหมด แต่ตัวเองสามารถเอาตัวรอดมาได้ ครั้นต่อมา ก็นำของชนิดเดิมไปขายอีกได้กำไร 10 เท่าอีก นำทรัพย์กลับมาบ้านได้ 7 วันก็เพลิงไหม้ บ้านและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ต่อมาก็นำสินค้าชนิดเดิมไปขายก็ได้กำไรมา 10 เท่าแต่ว่าพอนำทรัพย์กลับมาบ้านแล้ว กลับถูกโจรปล้นทรัพย์สินที่ได้มาทั้งหมด แต่ก็ยังไม่ละความพยายามนำของชิ้นเดิมไปขายอีก ก็ได้กำไร 10 เท่าอีกเช่นเดิม แต่คราวนี้พอนำเงินกลับมาบ้าน ก็ถูกเรียกเก็บทรัพย์สินทั้งหมดนั้นเข้าสู่ท้องพระคลัง
มาฆมาณพ เมื่อเสียทรัพย์ถึง 4 ครั้งก็ทะเลาะกับภรรยา จนถึงขั้นต้องหย่าร้างกัน ได้ทรัพย์สินจากการแบ่งกับภรรยาเป็นผ้าแดง 1 ผืน และทอง 1 แสน ออกจากบ้านเดินทางไปเรื่อยๆ จนถึงเมืองโกสัมพี
ครั้งนั้น มีพระสาวก รูปหนึ่งของ ออกจากญาณสมาบัติ ก็ตรวจดูสรรพสัตว์ ด้วยทิพยจักษุ ก็พบ มาฆมาณพ เข้าข่ายญาณก็ทราบว่าอนาคตจะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เหาะไปโปรดในทางที่มาณพกำลังเดินทางมา เมื่อมาณพเดินมาพบพระสาวกนี้ ก็เกิดเลื่อมใส จิตใจปลาบปลื้ม จึงได้ถวายทรัพย์สินทั้งหมดและอธิษฐานขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต เมื่อพระสาวกได้รับของและกล่าวอนุโมทนาแล้ว ก็เหาะกลับไป ในที่ที่ถวายทานเกิดต้นกัลปพฤกษ์ 1 ต้น และมาณพนั้นก็ได้อาศัยต้นไม้นี้เลี้ยงชีพสืบมา
วันหนึ่งกษัตริย์เมืองโกสัมพี พร้อมทั้งเหล่าข้าราชบริพาร เสด็จผ่านมาเห็นมาณพอยู่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ ก็เกิดความสนใจเข้าไปทอดพระเนตร ก็ถูกเทวดา ที่ทำหน้าที่รักษาอยู่ไม่ให้เข้าไป พระองค์จึงทรงกริ้ว สั่งให้ทหารทำการเผา แต่ก็เกิดมีดอกบัวเกิดขึ้นมารองรับมาณพนั้น จึงสั่งให้ทหารจับมาณพ ไปโยนทิ้งลงน้ำ ก็เกิดอัศจรรย์มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ ทำให้มาณพนั้นไม่ได้รับอันตรายใดๆ กษัตริย์จึงถามกับมาณพนั้นว่า ใครให้ต้นกัลปพฤกษ์มา มาณพจึงเล่าความจริงให้ฟัง แต่กษัตริย์ไม่เชื่อ รับสั่งให้มาณพนำพระสาวกรูปนั้นมายืนยัน มาณพจึงอธิษฐานถึงพระสาวกนั้น พระสาวกรูปนั้นทราบด้วยทิพยจักษุ ก็เหาะมาและบอกกล่าวถึงโทษของการประทุษร้ายมาณพนี้ จะทำให้บ้านเมืองจมลงในแผ่นดิน กษัตริย์ได้ฟังดังนั้นก็กลัว จึงขอโทษและยกให้มาณพเป็นน้องชายของพระองค์
พระรังสีมุนีสัมพุทธเจ้ามีพระวรกายสูง 60 ศอก มีพระชนมายุ 5 พันปี และมีพระพุทธรัศมีสีทอง สว่างทั้งกลางวันและกลางคืน
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-31. สืบค้นเมื่อ 2009-01-28.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrarngsimunismphuththeca mipraktineruxng xnakhtwngs wa hlngcakhmdyukhsasnakhxngphrathrrmsamismphuththecaaelw ekidaephndinihmthiimmiphraphuththecaelyxyunanthung 8 kpp hlngcaknnekidaephndinihm chuxwa camiphraphuththeca 2 phraxngkhbngekidkhunphrarngsimunismphuththecakhxmulxngkhkxnhna phranarthsmphuththecaxngkhthdip phraethwethphsmphuththeca sthaniyxyphraphuththsasna xngkhaerk khux phranarthasmphuththeca xngkhthdipkhux phrarngsimunismphuththeca insmy ni thankhux osnphrahmn odyphraxngkhidmaxyangyingywd odymihnungkhux insmyphraksspaphuththeca phraophthistwidekidepnmanph chuxwa makhmanph xachiphepnphxkhathangeruxsaepha wnhnung nakhxngchinhnungipkhayidkair 10 ethaaelanaenginthxngthiidmanniserux aetprasbehtueruxlm thrphysinthiidmacmhaythnghmd aettwexngsamarthexatwrxdmaid khrntxma knakhxngchnidedimipkhayxikidkair 10 ethaxik nathrphyklbmabanid 7 wnkephlingihm banaelathrphysinesiyhaycanwnmak txmaknasinkhachnidedimipkhaykidkairma 10 ethaaetwaphxnathrphyklbmabanaelw klbthukocrplnthrphysinthiidmathnghmd aetkyngimlakhwamphyayamnakhxngchinedimipkhayxik kidkair 10 ethaxikechnedim aetkhrawniphxnaenginklbmaban kthukeriykekbthrphysinthnghmdnnekhasuthxngphrakhlng makhmanph emuxesiythrphythung 4 khrngkthaelaakbphrrya cnthungkhntxnghyarangkn idthrphysincakkaraebngkbphrryaepnphaaedng 1 phun aelathxng 1 aesn xxkcakbanedinthangiperuxy cnthungemuxngoksmphi khrngnn miphrasawk ruphnungkhxng xxkcakyansmabti ktrwcdusrrphstw dwythiphycksu kphb makhmanph ekhakhayyankthrabwaxnakhtcaidepnphrasmmasmphuththeca kehaaipoprdinthangthimanphkalngedinthangma emuxmanphedinmaphbphrasawkni kekideluxmis citicplabplum cungidthwaythrphysinthnghmdaelaxthisthankhxihidepnphraphuththecainxnakht emuxphrasawkidrbkhxngaelaklawxnuomthnaaelw kehaaklbip inthithithwaythanekidtnklpphvks 1 tn aelamanphnnkidxasytnimnieliyngchiphsubma wnhnungkstriyemuxngoksmphi phrxmthngehlakharachbriphar esdcphanmaehnmanphxyuittnklpphvks kekidkhwamsnicekhaipthxdphraentr kthukethwda thithahnathirksaxyuimihekhaip phraxngkhcungthrngkriw sngihthharthakarepha aetkekidmidxkbwekidkhunmarxngrbmanphnn cungsngihthharcbmanph ipoynthinglngna kekidxscrrymidxkbwphudkhunmarxngrb thaihmanphnnimidrbxntrayid kstriycungthamkbmanphnnwa ikhrihtnklpphvksma manphcungelakhwamcringihfng aetkstriyimechux rbsngihmanphnaphrasawkrupnnmayunyn manphcungxthisthanthungphrasawknn phrasawkrupnnthrabdwythiphycksu kehaamaaelabxkklawthungothskhxngkarprathusraymanphni cathaihbanemuxngcmlnginaephndin kstriyidfngdngnnkklw cungkhxothsaelaykihmanphepnnxngchaykhxngphraxngkh phrarngsimunismphuththecamiphrawrkaysung 60 sxk miphrachnmayu 5 phnpi aelamiphraphuththrsmisithxng swangthngklangwnaelaklangkhunxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 10 31 subkhnemux 2009 01 28