บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
แบรอนิสแมรี เว็ตเซรา (อังกฤษ: Baroness Mary Vetsera) (ชื่อเต็ม: แมรี อเล็กซานดรีน ฟรีอินน์ วอน เว็ตเซรา, Mary Alexandrine Freiin von Vetsera) เป็นนางสนม หรือชายาลับในอาร์คดยุครูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งเป็นพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 และสมเด็จพระจักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งออสเตรีย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ นำไปสู่เหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่คฤหาสน์ล่าสัตว์
แมรี อเล็กซานดรีน ฟรีอินน์ วอน เว็ตเซรา | |
---|---|
เกิด | 19 มีนาคม ค.ศ. 1871 |
เสียชีวิต | 30 มกราคม ค.ศ. 1889 , Lower Austria, Austria-Hungary | (17 ปี)
คู่รัก | อาร์คดยุครูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี |
บิดามารดา | บารอนอัลบิน เว็ตเซรา เฮเลน บัลทัสซี |
แบรอนิสแมรี เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2414 เป็นธิดาใน ทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรีย และ
แบรอนิสแมรี ได้สมัครงานเข้าไปทำงานถวายรับใช้มกุฎราชกุมารรูดอล์ฟ ณ พระตำหนักมาเยอร์ลิงที่ทรงซื้อไว้สำหรับสถานที่แปรพระราชฐานในฤดูกาลล่าสัตว์ ณ รัฐอัปเปอร์ออสเตรีย ประเทศออสเตรีย และในระหว่างการทำงานถวายรับใช้นั้น แมรีและมกุฎราชกุมารรูดอล์ฟแอบมีใจให้กัน จนในที่สุด ทั้ง 2 แอบมีความสัมพันธ์กัน จนทำให้แมรีกลายเป็นนางสนม เป็นภรรยาลับของอาร์คดยุครูดอล์ฟตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
การตายอย่างลึกลับที่มาเยอร์ลิง
- บทความหลัก
เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2432 แบรอนิสแมรี วัย 17 ปี และองค์มกุฎราชกุมารรูดอล์ฟ พระชันษา 30 ชันษา ได้ถูกพบว่าเสียชีวิตอย่างลึกลับภายในห้องพระบรรทมส่วนพระองค์ในคฤหาสน์ ซึ่งเป็นพระตำหนักส่วนพระองค์สำหรับฤดูล่าสัตว์ ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย ประเทศออสเตรีย มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงของการสิ้นพระชนม์ของมกุฎราชกุมารรูดอร์ฟ และสาเหตุการตายของแมรี ทำให้มีการยุ่งเหยิงและวุ่นวายเป็นเวลานับปี ผลพิสูจน์ปรากฏว่า มี 5 ข้อสันนิษฐานด้วยกันคือ
- แมรีถูกปืนยิงโดยมกุฎราชกุมารรูดอร์ฟ ก่อนที่พระองค์จะทรงใช้ปืนยิงปลิดพระชนม์ตัวเอง
- ทั้ง 2 ฆ่าตัวตายเอง
- มีคนใดคนหนึ่งได้ลงมือฆ่า ก่อนที่จะฆ่าตัวตายหนีความผิด
- ทั้ง 2 ถูกฆาตกรรม
- แมรีอาจตั้งครรภ์ก่อนจะเสียชีวิต หรือทั้ง 2 รวมใจกันฆ่าตัวตาย
พระศพของมกุฎราชกุมารรูดอร์ฟ ถูกนำไปฝังไว้ที่ กรุงเวียนนา ส่วนศพของแมรีนั้น สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟมีพระบัญชาให้นำไปฝังอย่างลับ ๆ ที่ วิหารใกล้พระตำหนัก เวลาต่อมามีพระบัญชาให้สร้างเป็นหลุมศพ เพื่อเป็นการให้เกียรติ
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ศพของแบรอนิสแมรี เว็ตเซราถูกขโมยหายไปจากสุสานในวิหารใกล้คฤหาสน์มาเยอร์ลิง ต่อมาตำรวจก็สามารถจับกุมผู้ขโมยศพได้ และผู้ต้องหายอมนำศพมาคืน แต่ตำรวจก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นศพของแบรอนิสแมรีหรือไม่ จึงให้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์เวียนนาได้ทำการตรวจพิสูจน์ดู ปรากฏว่าเป็นศพของแบรอนิสแมรีจริง และได้พบว่า กะโหลกศีรษะของเธอไม่ได้มีรูที่ถูกกระสุนปืนของอาร์คดยุครูดอล์ฟ ก่อนที่จะทรงยิงพระองค์เอง ทำให้มีสันนิษฐานว่า ทั้ง 2 อาจถูกลอบสังหารโดยพวกหัวรุนแรง เมื่อทฤษฎีใหม่เริ่มขึ้น จึงได้มีการขออนุมัตินำพระศพของอาร์คดยุครูดอล์ฟมาทำการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ โดยหลังจากการพิสูจน์แล้ว ผลปรากฏว่า พระศพของพระองค์มีร่องรอยการต่อสู้ โดยจุดที่เด่นชัดคือ รูโหว่ในพระศพของพระองค์ แทนที่จะมีเพียงรูเดียวที่พระองค์ทรงใช้ปืนยิงพระองค์เอง แต่กลับมีถึง 6 รูด้วยกัน ซึ่งผลวิจัยทางวิทยาศาสตร์ออกมาว่าไม่ได้เป็นฝีมือของพระองค์เอง
ส่วนรายงานข้างต้นที่กล่าวว่า พระองค์ได้ทรงใช้ปืนส่วนพระองค์ยิงแบรอนิสเว็ตเซราเสียชีวิต ก่อนที่จะทรงยิงพระองค์เอง กลายเป็นทฤษฎีที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง กล่าวคือไม่มีข้อเท็จจริงที่สามารถสนับสนุนรายงานนี้ได้ เหตุผลต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงการสิ้นพระชนม์นี้ได้ มีอยู่ 2 ทฤษฎีหลัก ๆ ด้วยกัน ที่อาจสามารถไขความกระจ่างได้ว่า ที่แท้จริงแล้ว พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์อย่างไร ดังนี้
- ทฤษฎีที่ 1 กล่าวว่า ทั้ง 2 ได้ถูกฆาตกรรม โดยขัดแย้งจากที่รายงานกล่าวว่า พระองค์ได้ทรงยิงนางสนมก่อนที่จะยิงพระองค์เองโดยสิ้นเชิง ซึ่งผู้นำเสนอทฤษฎีนี้ได้กล่าวถึงรายงานนั้นว่า พระองค์จะทรงยิงตัวพระองค์เองถึง 6 นัดได้อย่างไร และนอกจากนี้ ผู้เสนอได้กล่าวว่า ปืนที่พระองค์ทรงยิง ไม่ใช่ปืนส่วนพระองค์อีกด้วย
- ส่วนอีกทฤษฎีหนึ่งได้มีเค้าโครงคล้ายคลึงกับทฤษฎีแรก แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อย คือ อาจจะมีบุคคลที่ 3 ซึ่งไม่อาจทราบได้ว่าเป็นผู้ใด ได้เข้ามาลอบสังหารแบรอนิสเว็ตเซราก่อน แล้วจึงมาลอบปลงพระชนม์มกุฎราชกุมาร โดยผู้นำเสนอทฤษฎีนี้ได้คล้ายคลึงกับทฤษฎีที่ทรงได้รับการยืนยันจากสมเด็จพระจักรพรรดินีซีต้า ซึ่งขณะนั้นทรงเป็นมกุฎราชกุมารีตั้งแต่ปีพ.ศ. 2457 ถึงพ.ศ. 2459 โดยทรงได้รับความไว้วางใจจากสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ โดยหลังจากทฤษฎีของพระองค์ถูกเปิดเผย ศาลสูงออสเตรีย-ฮังการีจึงได้นัดประชุมด่วน เพื่อทบทวนกรณีการสิ้นพระชนม์ของอาร์คดยุครูดอล์ฟ
มันอาจจะยากเกินไปที่สมเด็จพระจักรพรรดิจะทรงรับได้ ที่พระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะสามารถทำการฆาตกรรมหญิงสาว และจากนั้นก็ทรงปลิดพระชนม์ชีพตัวเอง ถ้ามีแหล่งสนับสนุนทฤษฎที่กล่าวถึงบุคคลที่ 3 เข้ามาลอบสังหาร ประเด็นนี้ก็อาจจะผ่านการสรุปในที่ประชุมได้ ดังนั้น จวบจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า พระองค์และนางสนมถูกลอบปลงพระชนม์ หรือปลิดชีพตนเอง
ศพของแมรีได้ถูกนำกลับมาฝังในปีต่อมา ดังนั้น สาเหตุของโศกนาฏกรรมยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
อ้างอิง
- Georg Markus: Kriminalfall Mayerling. Leben und Sterben der Mary Vetsera, Amalthea Verlag, Wien-München 1993
- Georg Bauer, in: Die unglaublichsten Fälle der Rechtsmedizin, "Mary Vetsera aus der Gruft geraubt", Leipzig 5. Aufl.
- Gerd Holler: Mayerling: Die Lösung des Rätsels. Der Tod des Kronprinzen Rudolf und der Baronesse Vetsera aus medizinischer Sicht. Molden, Wien 1980
- Gerd Holler: Mayerling: Neue Dokumente zur Tragödie 100 Jahre danach. Amalthea. Wien -München. 1988
- Brigitte Sokop: Jene Gräfin Larisch, Wien 4.Aufl. 2006
- Hermann Swistun: Gefährtin für den Tod, Wien,1999
- Hermann Swistun: Die Familien Baltazzi-Vetsera im kaiserlichen Wien, 1980
แหล่งข้อมูลอื่น
- http://www.kaisergruft.at/kaisergruft/vetsera.htm
- http://www.heiligenkreuz.at/Vetsera.htm 2006-05-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- http://www.mayerling.de/ort_ruhe.htm#start
- Interview mit dem Grabräuber Helmut Flatzelsteiner
- Familienarchiv Vetseras-Baltazzi 2013-07-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Über den Tod der Baroness in Mayerling 2021-05-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Die Wiederbeisetzung der Baroness Vetsera 1993 in Heiligenkreuz
- The Vetsera Collection 2013-07-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixactxngkartrwcsxbtnchbb indaniwyakrn rupaebbkarekhiyn kareriyberiyng khunphaph hruxkarsakd khunsamarthchwyphthnabthkhwamid aebrxnisaemri ewtesra xngkvs Baroness Mary Vetsera chuxetm aemri xelksandrin frixinn wxn ewtesra Mary Alexandrine Freiin von Vetsera epnnangsnm hruxchayalbinxarkhdyukhrudxlf mkudrachkumaraehngxxsetriy hngkari sungepnphrarachoxrsephiyngphraxngkhediywinsmedcphrackrphrrdifrans ocesfthi 1 aelasmedcphrackrphrrdiniexlisaebthaehngxxsetriy khwamsmphnthkhxngthngkhu naipsuehtukarnosknatkrrmthikhvhasnlastwaemri xelksandrin frixinn wxn ewtesraekid19 minakhm kh s 1871 1871 03 19 esiychiwit30 mkrakhm kh s 1889 1889 01 30 17 pi Lower Austria Austria Hungarykhurkxarkhdyukhrudxlf mkudrachkumaraehngxxsetriy hngkaribidamardabarxnxlbin ewtesra eheln blthssibthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha aebrxnisaemri ekidemuxwnthi 19 minakhm ph s 2414 epnthidain thutpracakrathrwngkartangpraethskhxngxxsetriy aela aebrxnisaemri idsmkhrnganekhaipthanganthwayrbichmkudrachkumarrudxlf n phratahnkmaeyxrlingthithrngsuxiwsahrbsthanthiaeprphrarachthaninvdukallastw n rthxpepxrxxsetriy praethsxxsetriy aelainrahwangkarthanganthwayrbichnn aemriaelamkudrachkumarrudxlfaexbmiicihkn cninthisud thng 2 aexbmikhwamsmphnthkn cnthaihaemriklayepnnangsnm epnphrryalbkhxngxarkhdyukhrudxlftngaetbdnnepntnmakartayxyangluklbthimaeyxrlingbthkhwamhlk emuxwnthi 31 mkrakhm ph s 2432 aebrxnisaemri wy 17 pi aelaxngkhmkudrachkumarrudxlf phrachnsa 30 chnsa idthukphbwaesiychiwitxyangluklbphayinhxngphrabrrthmswnphraxngkhinkhvhasn sungepnphratahnkswnphraxngkhsahrbvdulastw inrthxpepxrxxsetriy praethsxxsetriy mikarsxbswnhakhxethccringkhxngkarsinphrachnmkhxngmkudrachkumarrudxrf aelasaehtukartaykhxngaemri thaihmikaryungehyingaelawunwayepnewlanbpi phlphisucnpraktwa mi 5 khxsnnisthandwyknkhux aemrithukpunyingodymkudrachkumarrudxrf kxnthiphraxngkhcathrngichpunyingplidphrachnmtwexng thng 2 khatwtayexng mikhnidkhnhnungidlngmuxkha kxnthicakhatwtayhnikhwamphid thng 2 thukkhatkrrm aemrixactngkhrrphkxncaesiychiwit hruxthng 2 rwmicknkhatwtaythifngsphkhxngaebrxnisaemri ewtesra phrasphkhxngmkudrachkumarrudxrf thuknaipfngiwthi krungewiynna swnsphkhxngaemrinn smedcphrackrphrrdifrans ocesfmiphrabychaihnaipfngxyanglb thi wihariklphratahnk ewlatxmamiphrabychaihsrangepnhlumsph ephuxepnkarihekiyrti emuxeduxnkumphaphnth ph s 2535 sphkhxngaebrxnisaemri ewtesrathukkhomyhayipcaksusaninwihariklkhvhasnmaeyxrling txmatarwcksamarthcbkumphukhomysphid aelaphutxnghayxmnasphmakhun aettarwckimaenicwacaepnsphkhxngaebrxnisaemrihruxim cungihsthabnwicywithyasastrewiynnaidthakartrwcphisucndu praktwaepnsphkhxngaebrxnisaemricring aelaidphbwa kaohlksirsakhxngethximidmiruthithukkrasunpunkhxngxarkhdyukhrudxlf kxnthicathrngyingphraxngkhexng thaihmisnnisthanwa thng 2 xacthuklxbsngharodyphwkhwrunaerng emuxthvsdiihmerimkhun cungidmikarkhxxnumtinaphrasphkhxngxarkhdyukhrudxlfmathakarphisucnthangwithyasastr odyhlngcakkarphisucnaelw phlpraktwa phrasphkhxngphraxngkhmirxngrxykartxsu odycudthiednchdkhux ruohwinphrasphkhxngphraxngkh aethnthicamiephiyngruediywthiphraxngkhthrngichpunyingphraxngkhexng aetklbmithung 6 rudwykn sungphlwicythangwithyasastrxxkmawaimidepnfimuxkhxngphraxngkhexng swnrayngankhangtnthiklawwa phraxngkhidthrngichpunswnphraxngkhyingaebrxnisewtesraesiychiwit kxnthicathrngyingphraxngkhexng klayepnthvsdithiimmiaehlngxangxing klawkhuximmikhxethccringthisamarthsnbsnunraynganniid ehtuphltang thisamarthechuxmoyngipthungkarsinphrachnmniid mixyu 2 thvsdihlk dwykn thixacsamarthikhkhwamkracangidwa thiaethcringaelw phraxngkhthrngsinphrachnmxyangir dngni thvsdithi 1 klawwa thng 2 idthukkhatkrrm odykhdaeyngcakthiraynganklawwa phraxngkhidthrngyingnangsnmkxnthicayingphraxngkhexngodysineching sungphunaesnxthvsdiniidklawthungrayngannnwa phraxngkhcathrngyingtwphraxngkhexngthung 6 ndidxyangir aelanxkcakni phuesnxidklawwa punthiphraxngkhthrngying imichpunswnphraxngkhxikdwy swnxikthvsdihnungidmiekhaokhrngkhlaykhlungkbthvsdiaerk aetcaaetktangknelknxy khux xaccamibukhkhlthi 3 sungimxacthrabidwaepnphuid idekhamalxbsngharaebrxnisewtesrakxn aelwcungmalxbplngphrachnmmkudrachkumar odyphunaesnxthvsdiniidkhlaykhlungkbthvsdithithrngidrbkaryunyncaksmedcphrackrphrrdinisita sungkhnannthrngepnmkudrachkumaritngaetpiph s 2457 thungph s 2459 odythrngidrbkhwamiwwangiccaksmedcphrackrphrrdifrans ocesf odyhlngcakthvsdikhxngphraxngkhthukepidephy salsungxxsetriy hngkaricungidndprachumdwn ephuxthbthwnkrnikarsinphrachnmkhxngxarkhdyukhrudxlf mnxaccayakekinipthismedcphrackrphrrdicathrngrbid thiphrarachoxrsephiyngphraxngkhediywkhxngphraxngkh sungepnthungxngkhrchthayathcasamarththakarkhatkrrmhyingsaw aelacaknnkthrngplidphrachnmchiphtwexng thamiaehlngsnbsnunthvsdthiklawthungbukhkhlthi 3 ekhamalxbsnghar praednnikxaccaphankarsrupinthiprachumid dngnn cwbcnthungpccubnkyngimsamarthsrupidwa phraxngkhaelanangsnmthuklxbplngphrachnm hruxplidchiphtnexng sphkhxngaemriidthuknaklbmafnginpitxma dngnn saehtukhxngosknatkrrmyngepnprisnacnthungthukwnnixangxingGeorg Markus Kriminalfall Mayerling Leben und Sterben der Mary Vetsera Amalthea Verlag Wien Munchen 1993 Georg Bauer in Die unglaublichsten Falle der Rechtsmedizin Mary Vetsera aus der Gruft geraubt Leipzig 5 Aufl Gerd Holler Mayerling Die Losung des Ratsels Der Tod des Kronprinzen Rudolf und der Baronesse Vetsera aus medizinischer Sicht Molden Wien 1980 Gerd Holler Mayerling Neue Dokumente zur Tragodie 100 Jahre danach Amalthea Wien Munchen 1988 Brigitte Sokop Jene Grafin Larisch Wien 4 Aufl 2006 Hermann Swistun Gefahrtin fur den Tod Wien 1999 Hermann Swistun Die Familien Baltazzi Vetsera im kaiserlichen Wien 1980aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb aebrxnisaemri ewtesra http www kaisergruft at kaisergruft vetsera htm http www heiligenkreuz at Vetsera htm 2006 05 14 thi ewyaebkaemchchin http www mayerling de ort ruhe htm start Interview mit dem Grabrauber Helmut Flatzelsteiner Familienarchiv Vetseras Baltazzi 2013 07 03 thi ewyaebkaemchchin Uber den Tod der Baroness in Mayerling 2021 05 05 thi ewyaebkaemchchin Die Wiederbeisetzung der Baroness Vetsera 1993 in Heiligenkreuz The Vetsera Collection 2013 07 03 thi ewyaebkaemchchin