บาซิลิกาซานอันโตนิโอแห่งปาดัว (อังกฤษ: Basilica of Saint Anthony of Padua, อิตาลี: Basilica di Sant'Antonio da Padova) เป็นคริสต์ศาสนสถาน นิกายโรมันคาทอลิกที่มีฐานะเป็นบาซิลิกา ที่ตั้งอยู่ที่เมืองปาดัวในประเทศอิตาลี สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบฟื้นฟูศิลปวิทยา แม้ว่าจะเป็นคริสต์ศาสนสถานที่มีผู้มาเยี่ยมชมและแสวงบุญมากที่สุดแต่มิได้เป็นมหาวิหาร เป็นอีกสิ่งก่อสร้างหนึ่ง บาซิลิกาซานอันโตนิโอรู้จักกันในท้องถิ่นว่า “il Santo”
บาซิลิกาซานอันโตนิโอแห่งปาดัว | |
---|---|
Basilica of Saint Anthony of Padua | |
บาซิลิกาซานอันโตนิโอแห่งปาดัว | |
45°24′5″N 11°52′48″E / 45.40139°N 11.88000°E | |
ที่ตั้ง | ปาดัวในประเทศอิตาลี |
ประเทศ | ประเทศอิตาลี |
นิกาย | โรมันคาทอลิก |
เว็บไซต์ | บาซิลิกาซานอันโตนิโอแห่งปาดัว |
สถานะ | บาซิลิกา |
ประเภทสถาปัตย์ | กางเขน |
รูปแบบสถาปัตย์ | โรมาเนสก์ กอธิค บาโรก ฟื้นฟูศิลปวิทยา |
ปีสร้าง | ค.ศ. 1235 – ค.ศ. 1301 |
ประวัติ
การก่อสร้างบาซิลิกาอาจจะเริ่มขึ้นราว ค.ศ. 1235 สิบเก้าปีหลังจากการเสียชีวิตของนักบุญแอนโทนีแห่งปาดัวและสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1301 แม้จะยังมีการต่อเติมโครงสร้างอีกหลังจากนั้น (รวมทั้งการซ่อมแซมบริเวณจรมุข (ambulatory) ที่พังลงมา และการสร้างฉากกางเขนใหม่) ที่ทำระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 ตามความประสงค์ของนักบุญแอนโทนีร่างของท่านได้รับการฝังไว้ในวัดเล็กๆ ชื่อวัดซานตามาเรียมาเตอร์โดมินิ ที่อาจจะสร้างมาตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ใกล้กับคอนแวนต์ที่ท่านก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1229 วัดนี้รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของบาซิลิกาปัจจุบันเป็น “ชาเปลมาดอนนาโมรา” หรือ “ชาเปลพระแม่มารีดำ” (Cappella della Madonna Mora)
สถาปัตยกรรม
ซานอันโตนิโอเป็นสิ่งก่อสร้างที่ไม่บ่งลักษณะสถาปัตยกรรมของตระกูลใดตระกูลหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นสิ่งก่อสร้างที่วิวัฒนาการที่มาจากลักษณะสถาปัตยกรรมของหลายตระกูลที่เกิดขึ้นในช่วงหลายศตวรรษที่สร้างที่จะเห็นได้จากรายละเอียดของลักษณะภายนอก
บาซิลิกาใหม่เริ่มจากสิ่งก่อสร้างที่มีช่องทางเดินกลางเพียงทางเดินเดียวเช่นเดียวกับมหาวิหารเซนต์ฟรานซิสแห่งอาซิซิโดยมีบริเวณพิธีโค้งทางมุขตะวันออก แขนกางเขนกว้าง และหลังคาสี่เหลี่ยมสองหลังคาเหนือช่องทางเดินกลางที่ตอนบนเป็นโดมเช่นเดียวกับโดมที่วัดซานมาร์โคในเวนิส ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์
ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ก็มีการต่อเติมช่องทางเดินข้างกระหนาบช่องทางเดินกลางเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมกอธิคที่แบ่งเป็นสองช่วงที่เป็นเพดานโค้งและเพดานแบบโค้งสี่ (quadripartite)
ทางมุขตะวันออกก็ได้รับการต่อเติมเป็นแบบกอธิคแต่เป็นเพดานโค้งสันโดยมีชาเปลเก้าชาเปลกระจายออกไปตามแบบฝรั่งเศส ต่อมาก็มีการสร้าง ชาเปลเรลิควิโอเดลเทโซโร (Cappella delle Reliquie o del Tesoro) หรือชาเปลเก็บของมีค่า (Treasury chapel) ในปี ค.ศ. 1691 แบบบาโรกโดย (Filippo Parodi) ลูกศิษย์ของจานโลเรนโซ แบร์นินี
ด้านหน้าตอนกลางเป็นอิฐแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ที่ยื่นออกมาเมื่อมีการสร้างช่องทางเดินข้างซึ่งทำให้มีลักษณะเป็นโค้งเว้าเข้าไปสี่โค้งตรงทางเข้าแบบกอธิค เหนือทางเข้าเป็นระเบียงที่แล่นตามแนวขวางตลอดด้านหน้าของสิ่งก่อสร้าง
โดมสองโดมสร้างแบบเดียวกับโดมสูงของบาซิลิกาซานมาร์โคในเวนิสทำให้มีลักษณะที่ดูเหมือนสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ แต่หอระฆังเล็กๆ รอบโดมมีลักษณะคล้ายของของสถาปัตยกรรมอิสลาม ด้านนอกหลังคาเป็นแบบจั่วแบบเกือบราบตกแต่งด้วยซุ้มโค้งบอดที่ทำด้วยอิฐ จั่วเมื่อรวมกับโดม ค้ำยันกว้าง และหอเล็กๆ สร้างลักษณะที่เป็นประติมากรรมที่ดูเทอะทะหนักที่ดูดีจากทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านหน้าของวัดมีอนุสาวรีย์บนหลังม้าของทหารรับจ้างอิตาลี “กัตตาเมลาตา” โดยโดนาเทลโล
งานศิลปะ
ภายในบาซิลิการมีสิ่งที่มีคุณค่าทางศิลปะหลายอย่างที่รวมทั้งอนุสรณ์ผู้ตายหลายอนุสรณ์ ชาเปลซานทิสสิโมซาคราเมนโต (Cappella del Santissimo Sacramento) ทางด้านช่องทางเดินข้างด้านขวาเป็นที่บรรจุศพของทหารรับจ้างอิตาลีคนสำคัญชื่ออีราสโมแห่งนาร์นิ หรือที่เรียกกันว่า “กัตตาเมลาตา” และลูกชายจานอันโตนิโอ ชาเปลนี้ตกแต่งด้วยแถบต่างสีและรายละเอียดแบบกอธิคตกแต่งมาเป็นระยะๆ ระยะสุดท้ายเป็นการตกแต่งด้วยงานโมเสกที่มีลำแสงทองส่องลงมายังท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม งานที่มีลักษณะเป็นนาฏกรรมนี้สร้างโดย ระหว่าง ค.ศ. 1927 ถึง ค.ศ. 1936.
วัตถุมงคลของนักบุญแอนโทนีแห่งปาดัวตั้งอยู่ภายในชาเปลเรลิควิโอเดลเทโซโรที่ตกแต่งแบบบาโรกอย่างวิจิตรที่เริ่มในปี ค.ศ. 1691) ร่างของนักบุญที่เดิมตั้งอยู่ภายใน “ชาเปลพระแม่มารีดำ” ก็มาตั้งอยู่ในชาเปลต่างหากตั้งแต่ปี ค.ศ. 1350 การตกแต่งในชาเปลนี้เชื่อว่าทำโดย (Tullio Lombardo) ผู้ตกแต่งภาพนูนหลายชิ้นในวัด ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 ก็มีการติดตั้งประติมากรรมโดย (Tiziano Aspetti)
บาซิลิกามีศิลปะของพระแม่มารีหลายชิ้นที่รวมทั้ง “พระแม่มารีดำ” ที่เป็นประติมากรรมของพระแม่มารีและพระบุตรที่สร้างโดยประติมากรชาวฝรั่งเศส Rainaldino di Puy-l'Evéque ตั้งแต่ ค.ศ. 1396 ที่เรียกว่าพระแม่มารีดำเพราะมีพระเกศาสีดำและพระฉวีคล้ำ (olive skin)
“พระแม่พิลาสโตร” (Madonna del Pilastro) เป็นจิตรกรรมฝาผนังจากคริสต์ศตวรรษที่ 14 โดยสเตฟานโน ดา เฟอร์ราราที่อยู่บนเสาทางด้านซ้าย
ประติมากรรมชิ้นอื่นก็ได้แก่เชิงเทียนอีสเตอร์ในมุขตะวันออกที่สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1515 โดย (Andrea Briosco) ซึ่งถือว่าเป็นงานชิ้นเอก แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดและเด่นที่สุดคือแท่นบูชาเอกที่มีประติมากรรมสัมริดของ “พระแม่มารีและพระบุตร” และนักบุญอีกหกองค์โดยโดนาเทลโล ผู้สร้างประติมากรรมภาพนูนเกี่ยวกับฉากชีวิตของนักบุญแอนโทนีอีกสี่ภาพด้วย
ทางด้านขวาของช่องทางเดินกลางเป็นอนุสรณ์ของนักบุญในชาเปลเซนต์เจมส์ที่โบนิฟาชิโอ ลูพิจ้างให้ทำในคริสต์ศตวรรษ 1370 เป็นแบบกอธิค ผนังของชาเปลเป็นจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับชีวิตของนักบุญเจมส์ ลูกของเซเบดีและโดยอัลติเชียโร ดา เซวิโอซึ่งถือว่าเป็นจิตรกรรมชิ้นสำคัญของคริสต์ศตวรรษที่ 14
อ้างอิง
- CATHOLIC ENCYCLOPEDIA: Basilica
ดูเพิ่ม
- คริสต์ศาสนสถาน
- สถาปัตยกรรมการก่อสร้างมหาวิหารในยุโรปตะวันตก
- แผนผังมหาวิหาร (ผังแสดงส่วนประกอบต่างๆ ของวัด)
- มหาวิหาร
- สถาปัตยกรรมกอธิค
- สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์
- สถาปัตยกรรมบาโรก
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ บาซิลิกาซานอันโตนิโอแห่งปาดัว
- พจนานุกรมศัพท์สถาปัตยกรรมคริสต์ศาสนา
ระเบียงภาพ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha basilikasanxnotnioxaehngpadw xngkvs Basilica of Saint Anthony of Padua xitali Basilica di Sant Antonio da Padova epnkhristsasnsthan nikayormnkhathxlikthimithanaepnbasilika thitngxyuthiemuxngpadwinpraethsxitali sthaptykrrmthiehnxyuinpccubnepnaebbfunfusilpwithya aemwacaepnkhristsasnsthanthimiphumaeyiymchmaelaaeswngbuymakthisudaetmiidepnmhawihar epnxiksingkxsranghnung basilikasanxnotnioxruckkninthxngthinwa il Santo basilikasanxnotnioxaehngpadwBasilica of Saint Anthony of Paduabasilikasanxnotnioxaehngpadw45 24 5 N 11 52 48 E 45 40139 N 11 88000 E 45 40139 11 88000thitngpadwinpraethsxitalipraethspraethsxitalinikayormnkhathxlikewbistbasilikasanxnotnioxaehngpadwsthanabasilikapraephthsthaptykangekhnrupaebbsthaptyormaensk kxthikh baork funfusilpwithyapisrangkh s 1235 kh s 1301prawtikarkxsrangbasilikaxaccaerimkhunraw kh s 1235 sibekapihlngcakkaresiychiwitkhxngnkbuyaexnothniaehngpadwaelasrangesrcinpi kh s 1301 aemcayngmikartxetimokhrngsrangxikhlngcaknn rwmthngkarsxmaesmbriewncrmukh ambulatory thiphnglngma aelakarsrangchakkangekhnihm thitharahwangplaykhriststwrrsthi 14 thungklangkhriststwrrsthi 15 tamkhwamprasngkhkhxngnkbuyaexnothnirangkhxngthanidrbkarfngiwinwdelk chuxwdsantamaeriymaetxrodmini thixaccasrangmatngaetplaykhriststwrrsthi 12 iklkbkhxnaewntthithankxtngkhuninpi kh s 1229 wdnirwmekhaepnswnhnungkhxngbasilikapccubnepn chaeplmadxnnaomra hrux chaeplphraaemmarida Cappella della Madonna Mora sthaptykrrmsanxnotnioxepnsingkxsrangthiimbnglksnasthaptykrrmkhxngtrakulidtrakulhnungodyechphaa aetepnsingkxsrangthiwiwthnakarthimacaklksnasthaptykrrmkhxnghlaytrakulthiekidkhuninchwnghlaystwrrsthisrangthicaehnidcakraylaexiydkhxnglksnaphaynxk basilikaihmerimcaksingkxsrangthimichxngthangedinklangephiyngthangedinediywechnediywkbmhawiharesntfransisaehngxasisiodymibriewnphithiokhngthangmukhtawnxxk aekhnkangekhnkwang aelahlngkhasiehliymsxnghlngkhaehnuxchxngthangedinklangthitxnbnepnodmechnediywkbodmthiwdsanmarokhinewnis sungepnsthaptykrrmormaensk txmainkhriststwrrsthi 13 kmikartxetimchxngthangedinkhangkrahnabchxngthangedinklangepnlksnasthaptykrrmkxthikhthiaebngepnsxngchwngthiepnephdanokhngaelaephdanaebbokhngsi quadripartite thangmukhtawnxxkkidrbkartxetimepnaebbkxthikhaetepnephdanokhngsnodymichaeplekachaeplkracayxxkiptamaebbfrngess txmakmikarsrang chaeplerlikhwioxedlethosor Cappella delle Reliquie o del Tesoro hruxchaeplekbkhxngmikha Treasury chapel inpi kh s 1691 aebbbaorkody Filippo Parodi luksisykhxngcanolernos aebrnini danhnatxnklangepnxithaebbsthaptykrrmormaenskthiyunxxkmaemuxmikarsrangchxngthangedinkhangsungthaihmilksnaepnokhngewaekhaipsiokhngtrngthangekhaaebbkxthikh ehnuxthangekhaepnraebiyngthiaelntamaenwkhwangtlxddanhnakhxngsingkxsrang odmsxngodmsrangaebbediywkbodmsungkhxngbasilikasanmarokhinewnisthaihmilksnathiduehmuxnsthaptykrrmibaesnithn aethxrakhngelk rxbodmmilksnakhlaykhxngkhxngsthaptykrrmxislam dannxkhlngkhaepnaebbcwaebbekuxbrabtkaetngdwysumokhngbxdthithadwyxith cwemuxrwmkbodm khaynkwang aelahxelk sranglksnathiepnpratimakrrmthiduethxathahnkthidudicakthangdantawnxxkechiyngehnux danhnakhxngwdmixnusawriybnhlngmakhxngthharrbcangxitali kttaemlata odyodnaethlolngansilpacitrkrrmfaphnngody Altichiero da Zevio inchaeplesntecms phayinbasilikarmisingthimikhunkhathangsilpahlayxyangthirwmthngxnusrnphutayhlayxnusrn chaeplsanthissiomsakhraemnot Cappella del Santissimo Sacramento thangdanchxngthangedinkhangdankhwaepnthibrrcusphkhxngthharrbcangxitalikhnsakhychuxxirasomaehngnarni hruxthieriykknwa kttaemlata aelalukchaycanxnotniox chaeplnitkaetngdwyaethbtangsiaelaraylaexiydaebbkxthikhtkaetngmaepnraya rayasudthayepnkartkaetngdwynganomeskthimilaaesngthxngsxnglngmayngthxngfasinaenginekhm nganthimilksnaepnnatkrrmnisrangody rahwang kh s 1927 thung kh s 1936 wtthumngkhlkhxngnkbuyaexnothniaehngpadwtngxyuphayinchaeplerlikhwioxedlethosorthitkaetngaebbbaorkxyangwicitrthieriminpi kh s 1691 rangkhxngnkbuythiedimtngxyuphayin chaeplphraaemmarida kmatngxyuinchaepltanghaktngaetpi kh s 1350 kartkaetnginchaeplniechuxwathaody Tullio Lombardo phutkaetngphaphnunhlaychininwd inplaykhriststwrrsthi 16 kmikartidtngpratimakrrmody Tiziano Aspetti basilikamisilpakhxngphraaemmarihlaychinthirwmthng phraaemmarida thiepnpratimakrrmkhxngphraaemmariaelaphrabutrthisrangodypratimakrchawfrngess Rainaldino di Puy l Eveque tngaet kh s 1396 thieriykwaphraaemmaridaephraamiphraeksasidaaelaphrachwikhla olive skin phraaemphilasotr Madonna del Pilastro epncitrkrrmfaphnngcakkhriststwrrsthi 14 odysetfanon da efxrrarathixyubnesathangdansay pratimakrrmchinxunkidaekechingethiynxisetxrinmukhtawnxxkthisrangesrcinpi kh s 1515 ody Andrea Briosco sungthuxwaepnnganchinexk aetsingthimichuxesiyngthisudaelaednthisudkhuxaethnbuchaexkthimipratimakrrmsmridkhxng phraaemmariaelaphrabutr aelankbuyxikhkxngkhodyodnaethlol phusrangpratimakrrmphaphnunekiywkbchakchiwitkhxngnkbuyaexnothnixiksiphaphdwy thangdankhwakhxngchxngthangedinklangepnxnusrnkhxngnkbuyinchaeplesntecmsthiobnifachiox luphicangihthainkhriststwrrs 1370 epnaebbkxthikh phnngkhxngchaeplepncitrkrrmfaphnngekiywkbchiwitkhxngnkbuyecms lukkhxngesebdiaelaodyxltiechiyor da eswioxsungthuxwaepncitrkrrmchinsakhykhxngkhriststwrrsthi 14xangxingCATHOLIC ENCYCLOPEDIA Basilicaduephimkhristsasnsthan sthaptykrrmkarkxsrangmhawiharinyuorptawntk aephnphngmhawihar phngaesdngswnprakxbtang khxngwd mhawihar sthaptykrrmkxthikh sthaptykrrmormaensk sthaptykrrmbaorkaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb basilikasanxnotnioxaehngpadw phcnanukrmsphthsthaptykrrmkhristsasnaraebiyngphaphxikmumhnungkhxngbasilika sumnkbuyxxkaebb chaepl Miracle of the stingy man s heart by Donatello odnaethlol Miracle of the talking newborn baby odnaethlol