Azərbaycanca
Беларускі
Dansk
Deutsch
Española
Français
Indonesia
Italiana
日本語
Қазақ
Lietuvos
Nederlands
Português
Русский
සිංහල
แบบไทย
Türkçe
Українська
中國人
United State
Afrikaans
ทิลมัน รีเมินชไนเดอร์ (เยอรมัน: Tilman Riemenschneider; ราว ค.ศ. 1460 – 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1531) เป็นประติมากรและช่างสลักไม้คนสำคัญชาวเยอรมัน ที่ทำงานอยู่ที่เวือทซ์บวร์ค ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1483 รีเมินชไนเดอร์เป็นประติมากรผู้มีความสามารถระหว่างสมัยคาบเกี่ยวระหว่างสมัยกอทิกและสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา
ทิลมัน รีเมินชไนเดอร์ Tilman Riemenschneider | |
|---|---|
 ภาพเหมือนตนเองทิลมัน รีเมินชไนเดอร์ | |
| เกิด | ราว ค.ศ. 1460 |
| เสียชีวิต | 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1531 |
| สัญชาติ | ชาวเยอรมัน |
| อาชีพ | ประติมากร |
| ตำแหน่ง | ประติมากร |
ประวัติ
ทิลมัน รีเมินชไนเดอร์เกิดราวระหว่างปี ค.ศ. 1445 ถึงปี ค.ศ. 1462 ที่ในรัฐทือริงเงินในประเทศเยอรมนีปัจจุบัน เมื่อรีเมินชไนเดอร์อายุได้ห้าขวบบิดาก็ถูกยึดทรัพย์เพราะเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งทางการเมืองอันรุนแรง ครอบครัวต้องออกจากไฮลิเกนชตัท ไปตั้งหลักแหล่งอยู่ที่โอสเตอโรดเดออัมฮาร์ซ (Osterode am Harz) บิดาของทิลมันได้รับหน้าที่ใหม่เป็นมาสเตอร์ของโรงกษาปณ์ซึ่งเป็นตำแหน่งดีสำหรับยุคนั้น ทิลมันจึงเติบโตขึ้นที่นั่น
กล่าวกันว่ารีเมินชไนเดอร์เดินทางไปเวือทซ์บวร์คครั้งแรกเมื่ออายุได้ 18 ปีเพื่อไปเยี่ยมลุงผู้เป็นนายทะเบียนและที่ปรึกษาทางการเงินของ แต่ก็ไม่ได้ไปพำนักอยู่นาน ราวปี ค.ศ. 1473 รีเมินชไนเดอร์ก็เริ่มการศึกษาและฝึกงานในด้านการประติมากรรมและการแกะสลักไม้ในบริเวณและตอนเหนือของแม่น้ำไรน์ ที่อาจจะเป็นที่ และ อุล์มก็เป็นได้ ขณะสมาคมช่างสลักระบุว่าผู้ที่จะได้รับประกาศนียบัตรได้ต้องผ่านการศึกษาเล่าเรียนเดินทางไปหาประสบการณ์กับห้องช่างต่างๆ แต่นอกไปจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรที่เป็นที่ทราบมากนักเกี่ยวกับชีวิตเบื้องต้นนอกไปจากว่าทิลมันอาจจะได้เห็นงานของ ที่เชินเกาเออร์ใช้เป็นตัวอย่างในการสร้างงานสลักทองแดงต่อมา
ในปี ค.ศ. 1483 รีเมินชไนเดอร์ก็ไปตั้งหลักแหล่งอยู่ที่เวือทซ์บวร์คและเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1483 ก็ได้เข้าเป็นสมาชิกในฐานะผู้ช่วยจิตรกรของสมาคมเซนต์ลูคสำหรับจิตรกร, ประติมากร และ ช่างแก้ว เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1485 ทิลมันก็สมรสกับอันนา ชมิดท์แม่หม้ายของช่างทองกับลูกชายสามคน การแต่งงานครั้งนี้ไม่แต่จะรีเมินชไนเดอร์มีฐานะดีขึ้นแต่ยังทำให้เปลี่ยนฐานะจากการเป็นช่างฝึกหัดเป็นช่างเต็มตัวด้วย (master craftsman) หลังจากแต่งงานกันได้สิบปีอันนาก็เสียชีวิตทิ้งทิลมัลไว้กับลูกสาวคนหนึ่ง จากนั้นทิลมันก็แต่งงานอีกสามครั้ง ในขณะเดียวกันกับที่สร้างและขยายกิจการทางงานศิลปะของตนเอง งานชิ้นแรกที่สุดที่ทราบเป็นงานสลักหินสำหรับหลุมศพของเอเบอร์ฮาร์ด ฟอน กรุมบาคที่โบสถ์ประจำท้องถิ่นที่ริมพาร์ ซึ่งอาจจะเป็นงานประเภทที่รับทำก่อนที่จะมาได้งานชิ้นใหญ่กับคริสต์ศาสนสถาน ทิลมันเริ่มได้รับงานหลายชิ้นจากเทศบาลเมืองเวือทซ์บวร์คและเมืองใกล้เคียง งานชิ้นใหญ่ชิ้นแรกที่เชื่อกันว่าเป็นงานของทิลมันคืองานฉากแท่นบูชาที่โบสถ์นักบุญยากอบที่เมืองที่บรรยายในหนังสือท่องเที่ยวว่าแกะสลักราวปี ค.ศ. 1490 แต่เมื่อเปรียบลักษณะกับงานอื่นแล้วก็ดูจะเป็นงานที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ที่ทำให้สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นงานที่ทำขึ้นก่อนหน้านั้น ในปี ค.ศ. 1490 เทศาภิบาลเมืองมึนเนอร์ชตัดท์ก็สั่งฉากแท่นบูชาแมรีแม็กดาเลนสำหรับโบสถ์ประจำเมืองที่รวมทั้งการแกะนักบุญ[[มารีย์ชาวมักดาลา]กับทูตสวรรค์หกองค์ ในปีต่อมา ค.ศ. 1491 เทศาภิบาลเมืองเวือทซ์บวร์คก็สั่งงานแกะสลักขนาดเท่าคนจริงจากหินเป็นรูปอาดัมกับเอวาสำหรับประตูทางเข้าด้านใต้ของโบสถ์มาเรียคาเพลเลอที่เป็นโบสถ์ของเทศาภิบาลเมือง
หลังจากอันนาภรรยาคนแรกเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1494 แล้วทิลมันก็แต่งงานเป็นครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1497 ครั้งนี้มีลูกสาวสองคนและลูกชายสามคน และดูเหมือนว่าลูกแต่ละคนจะมีพรสวรรค์เช่นพ่อ หลังจากการเสียชีวิตของอันนาไม่นานทิลมันก็แกะสลักรูปแม่พระและพระกุมารที่อยู่ที่โบสถ์นักบุญแบร์นาร์ดในเวือทซ์บวร์คในปี ค.ศ. 1495 ที่นักเขียนแฮร์มัน เฮสเสบรรยายว่า:
“สายพระเนตรที่ทรงทอดลงมาอันเหมือนฝันที่จากตู้กระจก ดูเหมือนว่าจะทรงมองห่างไกลออกไปจากโลกนี้นัก... ความสง่างามอ่อนช้อยและความโดดเด่นของพระองค์์เป็นสิ่งที่เด่นชัดว่าทรงอยู่เหนือมวลมนุษย์ในปัจจุบันทั้งสิ้น”
เมื่อมาถึงราว ค.ศ. 1500 ทิลมันก็เป็นช่างฝีมือผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและมีฐานะดีของเวิร์ซบวร์ก ไม่แต่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้านหลายหลังแต่ยังเป็นเจ้าของที่ดินและมีไร่องุ่นเป็นของตนเองด้วย ห้องแกะสลักของทิลมันมีชื่อเสียงจนสามารถมีช่างฝึกงานแกะไม้และเขียนภาพได้ถึงสี่สิบคน ในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 1504 รีเมินชไนเดอร์เองก็ได้รับตำแหน่งเป็นเทศาภิบาลเมืองของเวือทซ์บวร์ค และดำรงตำแหน่งอยู่ยี่สิบปี ตำแหน่งที่ได้รับนอกจากจะทำให้มีหน้ามีตาแล้วก็ยังทำให้ได้รับงานชิ้นใหญ่ที่มีราคาดีด้วย ระหว่างปี ค.ศ. 1520 ถึงปี ค.ศ. 1524 ทิลมันถึงกับได้เป็นนายกเทศมนตรีของเวือทซ์บวร์คเอง
ระหว่างเทศบาลเมืองเวือทซ์บวร์คก็เข้าเป็นฝักฝ่ายกับชาวนาที่ก่อการปฏิวัติไปทั่วเยอรมนี และหันมาเป็นปฏิปักษ์ต่อคอนราด ฟอน ทุงเงิน ผู้ที่ประทับอยู่บนเหนือตัวเมือง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 1525 กองทัพฝ่ายชาวนาก็ถูกทำลายอย่างย่อยยับโดยกองทัพของฝ่ายบิชอป ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 8,000 คนนอกเมืองเวิร์ซบวร์ก หลังจากที่เวิร์ซบวร์กยอมแพ้ คณะเทศาภิบาลเมืองที่รวมทั้งรีเมินชไนเดอร์ก็ถูกจับเข้าคุกและทรมานในมาเรียนแบร์ก ตามตำนานที่กล่าวขานกันเล่าว่าระหว่างการทรมาน เจ้าหน้าที่ก็หักมือทั้งสองข้างของทิลมันซึ่งเป็นการทำให้หมดอาชีพ หลังจากนั้นอีกสองเดือนคณะเทศาภิบาลเมืองก็ได้รับการปล่อยตัว แต่ทรัพย์สมบัติของทิลมันถูกยึดไปหมดและหลังจากนั้นก็ไม่ได้รับงานชิ้นใหญ่อีกจนกระทั่งเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1531 ที่เวือทซ์บวร์ค ลูกชายจอร์จจากการแต่งงานครั้งที่สองจึงดำเนินงานห้องสลักต่อไปหลังจากนั้น
ศิลปะ
งานประติมากรรมและงานแกะสลักไม้ของทิลมัน รีเมินชไนเดอร์เป็นงานของปลายยุคกอทิกและต้นสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา แต่งานในบั้นปลายเริ่มแสดงลักษณะที่เรียกว่าจริตนิยม ลักษณะงานของทิลมันคืองานที่เป็นงานแสดงพลังอารมณ์บนใบหน้าของรูปสลักที่มักจะแสดงอารมณ์หมกมุ่นในความคิดอันลึกซึ้งเช่นที่เห็นในรูปแกะสลักเหมือนตนเอง และเป็นงานที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่รวมไปถึงรอยพับรอบพริ้วของเสื้อผ้าของตัวแบบ การเน้นอารมณ์ภายในของตัวแบบเป็นสิ่งที่ทำให้งานของรีเมินชไนเดอร์ต่างจากงานของศิลปินผู้อื่นก่อนหน้านั้น ซอเรน เมลิเคียน เปรียบงานชิ้นที่ดีที่สุดเช่นพระแม่มารีในภาพการประกาศของเทพว่าเป็นงานที่ดีเด่นเท่าเทียมกับจิตรกรรมสีน้ำมันของอัลเบรชท์ ดือเรอร์ นักประวัติศาสตร์ศิลป์มีความเห็นว่างานของรีเมินชไนเดอร์เป็นงานที่แสดงถึงความศรัทธาส่วนตัวในคริสต์ศาสนาของชาวเยอรมันในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 และเป็นสัญญาณของการปฏิรูปศาสนาที่ตามมา ในบรรดาผู้ได้รับอิทธิพลจากทิลมันก็ได้แก่ และ
งานสำคัญ
งานสะสมกลุ่มใหญ่ที่สุด 81 ตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ไมน์แฟรงคิชเชสในเหนือตัวเมืองเวือทซ์บวร์ค
- “ปิเอต้าฮาซเซนบาค” (Hassenbacher Vesperbild) ในโบสถ์ฮาซเซนบาค, ราว ค.ศ. 1490, ไม้
- “ฉากแท่นบูชาการลาของอัครทูต” (Altar of the Farewell of the Apostles) โบสถ์อาลเลอร์ไฮลิเกนไม่ไกลจากเนิร์นแบร์ก, ราว ค.ศ. 1491
- “ฉากแท่นบูชามารีย์ชาวมักดาลา” (Altar Piece, Maria Magdalena) , ราว ค.ศ. 1490/1492
- “อาดัมและเอวา” พิพิธภัณฑ์ไมน์แฟรงคิชเชส, เวือทซ์บวร์ค, ราว ค.ศ. 1491/1493
- “รูปสลักของบิชอปรูดอล์ฟ ฟอน เชเรนแบร์ก” (Sculpture of Bishop Rudolf von Scherenberg) , ราว ค.ศ. 1496/1499
- “อนุสรณ์ที่บรรจุพระบรมศพของพระเจ้าเฮนรีและพระชายาจักรพรรดินีคุนิกุนด์” มหาวิหารบัมแบร์ก, ราว ค.ศ. 1499/1513
- “รูปสลักแมรี ซาโลเมและเซเบดี” (Mary Salome and Zebedee) เวือทซ์บวร์ค ราว ค.ศ. 1501-1505 ปัจจุบันอยู่ที่, ลอนดอน
- “นักบุญแอนน์และสามีสามคน” , มิวนิก, ราว ค.ศ. 1505/1510, ไม้
- “ความรันทดของพระแม่มารีย์” (Grieving Maria) พิพิธภัณฑ์ไมน์แฟรงคิชเชส, เวือทซ์บวร์ค, ราว ค.ศ. 1505
- “ฉากแท่นบูชามาเรีย” , ราว ค.ศ. 1505/1508, ไม้
- “ฉากแท่นบูชาอัครทูต, ฉากแท่นบูชาคริสต์ศาสนบิดา, ฉากแท่นบูชาแม่พระรับสาร, รูปสลักนักบุญคิลเลียน, พระเยซูตรึงกางเขน” โบสถ์เซนต์เลโอ, บิบราไม่ไกลจากไมนิงเง็น, ราว ค.ศ. 1500, ไม้
- “ฉากแท่นบูชาพระเยซูตรึงกางเขน” วัดเซนต์นิโคลัส, ไอซิงเง็น, บาวาเรีย, ราว ค.ศ. 1500-1505
- “ฉากแท่นบูชาพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์” (Holy Blood Altar) โบสถ์นักบุญยากอบ, , ราว ค.ศ. 1501-1505,ไม้
- “ฉากแท่นบูชาอัครทูต ” โบสถ์เซนต์คิเลียนที่วินด์สไฮม์, ราว ค.ศ. 1509 ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ใน
- “ฉากแท่นบูชาพระเยซูตรึงกางเขน” วัดที่เดทวัง, ราว ค.ศ. 1510/1513 ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ใน
- “อนุสรณ์ที่บรรจุศพของบิชอปลอเรนซ์แห่งบิบรา” , ราว ค.ศ. 1520/22
- “แม่พระแห่งสายประคำ” (Madonna of the Rosary) โบสถ์แสวงบุญที่ไวน์แบร์เก็น, ใกล้, ราว ค.ศ. 1521/1524
- “ความโทมนัสต่อการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู” (The Grieving for Christ) อารามเมดบรอนน์ใกล้เวิร์ซบวร์ก ราว ค.ศ. 1525
- “แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์” แผงกลางของฉากแท่นบูชาที่โบสถ์แฮร์กอต, , ราว ค.ศ. 1495-1499
อ้างอิง
- The Limewood Sculptors of Renaissance Germany, , 1980
- Tilman Riemenschneider: Master Sculptor of the Late Middle Ages, Julien Chapuis et al., 1999
- "Tilman Riemenschneider", The Catholic Encyclopedia[]
- Vincent Mayr, "Riemenschneider, Tilman" Grove Art Online. ,(6-21-2006)
- Julien Chapuis, Tilman Riemenschneider: Master Sculptor of the Late Middle Ages, Publications, October 11, 1999,
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ทิลมัน รีเมินชไนเดอร์
- Mainfränkisches Museum, Würzburg[]
- Grove Art Online, Tilman Riemenschneider[]
- National Gallery of Art exhibit: Tilman Riemenschneider: Master Sculptor of the Late Middle Ages[]
- The Web Gallery of Art
- [https://web.archive.org/web/20111217091428/http://www.rijksmuseum.nl/aria/aria_assets/BK-16986-A?lang=en%7C เก็บถาวร 2011-12-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน alabaster Annunciation at the Rijksmuseum], Amsterdam
- [https://web.archive.org/web/20051116072438/http://www.ku.edu/~sma/collection/europeanamerican/riemenschneider.html เก็บถาวร 2005-11-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Virgin and Child at the ], University of Kansas,
- Herbermann, Charles, บ.ก. (1913). . สารานุกรมคาทอลิก. New York: Robert Appleton Company.
- ทิลมัน รีเมินชไนเดอร์ ที่
 | บทความชีวประวัตินี้ยังเป็น คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
thilmn rieminchinedxr eyxrmn Tilman Riemenschneider raw kh s 1460 7 krkdakhm kh s 1531 epnpratimakraelachangslkimkhnsakhychaweyxrmn thithanganxyuthiewuxthsbwrkh tngaetpi kh s 1483 rieminchinedxrepnpratimakrphumikhwamsamarthrahwangsmykhabekiywrahwangsmykxthikaelasmyfunfusilpwithyathilmn rieminchinedxr Tilman Riemenschneiderphaphehmuxntnexngthilmn rieminchinedxrekidraw kh s 1460esiychiwit7 krkdakhm kh s 1531sychatichaweyxrmnxachiphpratimakrtaaehnngpratimakrpratimakrprawtithilmn rieminchinedxrekidrawrahwangpi kh s 1445 thungpi kh s 1462 thiinrththuxringengininpraethseyxrmnipccubn emuxrieminchinedxrxayuidhakhwbbidakthukyudthrphyephraaekhaipphwphnkbkhwamkhdaeyngthangkaremuxngxnrunaerng khrxbkhrwtxngxxkcakihlieknchtth iptnghlkaehlngxyuthioxsetxordedxxmhars Osterode am Harz bidakhxngthilmnidrbhnathiihmepnmasetxrkhxngorngksapnsungepntaaehnngdisahrbyukhnn thilmncungetibotkhunthinn klawknwarieminchinedxredinthangipewuxthsbwrkhkhrngaerkemuxxayuid 18 piephuxipeyiymlungphuepnnaythaebiynaelathipruksathangkarenginkhxng aetkimidipphankxyunan rawpi kh s 1473 rieminchinedxrkerimkarsuksaaelafuknganindankarpratimakrrmaelakaraekaslkiminbriewnaelatxnehnuxkhxngaemnairn thixaccaepnthi aela xulmkepnid khnasmakhmchangslkrabuwaphuthicaidrbprakasniybtridtxngphankarsuksaelaeriynedinthangiphaprasbkarnkbhxngchangtang aetnxkipcaknnaelwkimmixairthiepnthithrabmaknkekiywkbchiwitebuxngtnnxkipcakwathilmnxaccaidehnngankhxng thiechinekaexxrichepntwxyanginkarsrangnganslkthxngaedngtxma inpi kh s 1483 rieminchinedxrkiptnghlkaehlngxyuthiewuxthsbwrkhaelaemuxwnthi 7 thnwakhm kh s 1483 kidekhaepnsmachikinthanaphuchwycitrkrkhxngsmakhmesntlukhsahrbcitrkr pratimakr aela changaekw emuxwnthi 28 kumphaphnth kh s 1485 thilmnksmrskbxnna chmidthaemhmaykhxngchangthxngkblukchaysamkhn karaetngngankhrngniimaetcarieminchinedxrmithanadikhunaetyngthaihepliynthanacakkarepnchangfukhdepnchangetmtwdwy master craftsman hlngcakaetngnganknidsibpixnnakesiychiwitthingthilmliwkbluksawkhnhnung caknnthilmnkaetngnganxiksamkhrng inkhnaediywknkbthisrangaelakhyaykickarthangngansilpakhxngtnexng nganchinaerkthisudthithrabepnnganslkhinsahrbhlumsphkhxngexebxrhard fxn krumbakhthiobsthpracathxngthinthirimphar sungxaccaepnnganpraephththirbthakxnthicamaidnganchinihykbkhristsasnsthan thilmnerimidrbnganhlaychincakethsbalemuxngewuxthsbwrkhaelaemuxngiklekhiyng nganchinihychinaerkthiechuxknwaepnngankhxngthilmnkhuxnganchakaethnbuchathiobsthnkbuyyakxbthiemuxngthibrryayinhnngsuxthxngethiywwaaekaslkrawpi kh s 1490 aetemuxepriyblksnakbnganxunaelwkducaepnnganthiyngimsmburnetmthi thithaihsnnisthanwaxaccaepnnganthithakhunkxnhnann inpi kh s 1490 ethsaphibalemuxngmunenxrchtdthksngchakaethnbuchaaemriaemkdaelnsahrbobsthpracaemuxngthirwmthngkaraekankbuy mariychawmkdala kbthutswrrkhhkxngkh inpitxma kh s 1491 ethsaphibalemuxngewuxthsbwrkhksngnganaekaslkkhnadethakhncringcakhinepnrupxadmkbexwasahrbpratuthangekhadanitkhxngobsthmaeriykhaephlelxthiepnobsthkhxngethsaphibalemuxng nkbuybarbara hlngcakxnnaphrryakhnaerkesiychiwitinpi kh s 1494 aelwthilmnkaetngnganepnkhrngthisxnginpi kh s 1497 khrngnimiluksawsxngkhnaelalukchaysamkhn aeladuehmuxnwalukaetlakhncamiphrswrrkhechnphx hlngcakkaresiychiwitkhxngxnnaimnanthilmnkaekaslkrupaemphraaelaphrakumarthixyuthiobsthnkbuyaebrnardinewuxthsbwrkhinpi kh s 1495 thinkekhiynaehrmn ehsesbrryaywa sayphraentrthithrngthxdlngmaxnehmuxnfnthicaktukrack duehmuxnwacathrngmxnghangiklxxkipcakolknink khwamsngangamxxnchxyaelakhwamoddednkhxngphraxngkhepnsingthiednchdwathrngxyuehnuxmwlmnusyinpccubnthngsin emuxmathungraw kh s 1500 thilmnkepnchangfimuxphumichuxesiyngepnthiruckaelamithanadikhxngewirsbwrk imaetwacaepnecakhxngbanhlayhlngaetyngepnecakhxngthidinaelamiirxngunepnkhxngtnexngdwy hxngaekaslkkhxngthilmnmichuxesiyngcnsamarthmichangfuknganaekaimaelaekhiynphaphidthungsisibkhn ineduxnphvscikaynpi kh s 1504 rieminchinedxrexngkidrbtaaehnngepnethsaphibalemuxngkhxngewuxthsbwrkh aeladarngtaaehnngxyuyisibpi taaehnngthiidrbnxkcakcathaihmihnamitaaelwkyngthaihidrbnganchinihythimirakhadidwy rahwangpi kh s 1520 thungpi kh s 1524 thilmnthungkbidepnnaykethsmntrikhxngewuxthsbwrkhexng rahwangethsbalemuxngewuxthsbwrkhkekhaepnfkfaykbchawnathikxkarptiwtiipthweyxrmni aelahnmaepnptipkstxkhxnrad fxn thungengin phuthiprathbxyubnehnuxtwemuxng emuxwnthi 4 mithunayn kh s 1525 kxngthphfaychawnakthukthalayxyangyxyybodykxngthphkhxngfaybichxp thithaihmiphuesiychiwitraw 8 000 khnnxkemuxngewirsbwrk hlngcakthiewirsbwrkyxmaeph khnaethsaphibalemuxngthirwmthngrieminchinedxrkthukcbekhakhukaelathrmaninmaeriynaebrk tamtananthiklawkhanknelawarahwangkarthrman ecahnathikhkmuxthngsxngkhangkhxngthilmnsungepnkarthaihhmdxachiph hlngcaknnxiksxngeduxnkhnaethsaphibalemuxngkidrbkarplxytw aetthrphysmbtikhxngthilmnthukyudiphmdaelahlngcaknnkimidrbnganchinihyxikcnkrathngesiychiwitinpi kh s 1531 thiewuxthsbwrkh lukchaycxrccakkaraetngngankhrngthisxngcungdaeninnganhxngslktxiphlngcaknnsilpa khwamothmnstxkarsinphrachnmkhxngphraeysu emdbrxnn nganpratimakrrmaelanganaekaslkimkhxngthilmn rieminchinedxrepnngankhxngplayyukhkxthikaelatnsmyfunfusilpwithya aetnganinbnplayerimaesdnglksnathieriykwacritniym lksnangankhxngthilmnkhuxnganthiepnnganaesdngphlngxarmnbnibhnakhxngrupslkthimkcaaesdngxarmnhmkmuninkhwamkhidxnluksungechnthiehninrupaekaslkehmuxntnexng aelaepnnganthietmipdwyraylaexiydthirwmipthungrxyphbrxbphriwkhxngesuxphakhxngtwaebb karennxarmnphayinkhxngtwaebbepnsingthithaihngankhxngrieminchinedxrtangcakngankhxngsilpinphuxunkxnhnann sxern emliekhiyn epriybnganchinthidithisudechnphraaemmariinphaphkarprakaskhxngethphwaepnnganthidiednethaethiymkbcitrkrrmsinamnkhxngxlebrchth duxerxr nkprawtisastrsilpmikhwamehnwangankhxngrieminchinedxrepnnganthiaesdngthungkhwamsrththaswntwinkhristsasnakhxngchaweyxrmninplaykhriststwrrsthi 15 aelaepnsyyankhxngkarptirupsasnathitamma inbrrdaphuidrbxiththiphlcakthilmnkidaek aelangansakhy chakpradbaethnbuchaphraolhitxnskdisiththi thiraylaexiydkhxng chakaethnbuchaphraolhitxnskdisiththi ngansasmklumihythisud 81 tngaesdngxyuthiphiphithphnthimnaefrngkhichechsinehnuxtwemuxngewuxthsbwrkh piextahasesnbakh Hassenbacher Vesperbild inobsthhasesnbakh raw kh s 1490 im chakaethnbuchakarlakhxngxkhrthut Altar of the Farewell of the Apostles obsthxalelxrihlieknimiklcakenirnaebrk raw kh s 1491 chakaethnbuchamariychawmkdala Altar Piece Maria Magdalena raw kh s 1490 1492 xadmaelaexwa phiphithphnthimnaefrngkhichechs ewuxthsbwrkh raw kh s 1491 1493 rupslkkhxngbichxprudxlf fxn echernaebrk Sculpture of Bishop Rudolf von Scherenberg raw kh s 1496 1499 xnusrnthibrrcuphrabrmsphkhxngphraecaehnriaelaphrachayackrphrrdinikhunikund mhawiharbmaebrk raw kh s 1499 1513 rupslkaemri saolemaelaesebdi Mary Salome and Zebedee ewuxthsbwrkh raw kh s 1501 1505 pccubnxyuthi lxndxn nkbuyaexnnaelasamisamkhn miwnik raw kh s 1505 1510 im khwamrnthdkhxngphraaemmariy Grieving Maria phiphithphnthimnaefrngkhichechs ewuxthsbwrkh raw kh s 1505 chakaethnbuchamaeriy raw kh s 1505 1508 im chakaethnbuchaxkhrthut chakaethnbuchakhristsasnbida chakaethnbuchaaemphrarbsar rupslknkbuykhileliyn phraeysutrungkangekhn obsthesntelox bibraimiklcakimningengn raw kh s 1500 im chakaethnbuchaphraeysutrungkangekhn wdesntniokhls ixsingengn bawaeriy raw kh s 1500 1505 chakaethnbuchaphraolhitxnskdisiththi Holy Blood Altar obsthnkbuyyakxb raw kh s 1501 1505 im chakaethnbuchaxkhrthut obsthesntkhieliynthiwindsihm raw kh s 1509 pccubnxyuthiphiphithphnthin chakaethnbuchaphraeysutrungkangekhn wdthiedthwng raw kh s 1510 1513 pccubnxyuthiphiphithphnthin xnusrnthibrrcusphkhxngbichxplxernsaehngbibra raw kh s 1520 22 aemphraaehngsayprakha Madonna of the Rosary obsthaeswngbuythiiwnaebrekn ikl raw kh s 1521 1524 khwamothmnstxkarsinphrachnmkhxngphraeysu The Grieving for Christ xaramemdbrxnniklewirsbwrk raw kh s 1525 aemphrarbekiyrtiykkhunswrrkh aephngklangkhxngchakaethnbuchathiobsthaehrkxt raw kh s 1495 1499xangxingThe Limewood Sculptors of Renaissance Germany 1980 Tilman Riemenschneider Master Sculptor of the Late Middle Ages Julien Chapuis et al 1999 Tilman Riemenschneider The Catholic Encyclopedia lingkesiy Vincent Mayr Riemenschneider Tilman Grove Art Online 6 21 2006 Julien Chapuis Tilman Riemenschneider Master Sculptor of the Late Middle Ages Publications October 11 1999 ISBN 0300081626 ISBN 978 0300081626aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb thilmn rieminchinedxr Mainfrankisches Museum Wurzburg lingkesiy Grove Art Online Tilman Riemenschneider lingkesiy National Gallery of Art exhibit Tilman Riemenschneider Master Sculptor of the Late Middle Ages lingkesiy The Web Gallery of Art https web archive org web 20111217091428 http www rijksmuseum nl aria aria assets BK 16986 A lang en 7C ekbthawr 2011 12 17 thi ewyaebkaemchchin alabaster Annunciation at the Rijksmuseum Amsterdam https web archive org web 20051116072438 http www ku edu sma collection europeanamerican riemenschneider html ekbthawr 2005 11 16 thi ewyaebkaemchchin Virgin and Child at the University of Kansas Herbermann Charles b k 1913 Tillmann Riemenschneider saranukrmkhathxlik New York Robert Appleton Company thilmn rieminchinedxr thibthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk