ตระกูลคูโจ (ญี่ปุ่น: 九条家; โรมาจิ: Kujō-ke) เป็นตระกูลสาขาของตระกูลฟูจิวาระ โดยได้แยกออกมาจาก ฟุจิวะระ โนะ ทะดะมิชิ ตระกูลคูโจมีอำนาจเช่นเดียวกับตระกูลฟูจิวาระ ในด้านราชสำนักมีบุตรสาวของตระกูลนี้มากมายแต่งงานกับจักรพรรดิ หนึ่งในนั้นคือสมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม
ตระกูลคูโจ 九条家 | |
---|---|
ตราประจำตระกูลคูโจ | |
เชื้อสาย | ตระกูลฟูจิวาระ |
ตำแหน่ง | ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (หลายวาระ) |
ผู้นำคนแรก | คูโจ คาเนซาเนะ |
ผู้นำคนปัจจุบัน | คูโจ มิจินาริ |
ก่อตั้ง | คริสต์ศตวรรษที่ 12 |
ตระกูลย่อย | ตระกูลนิโจ ตระกูลอิจิโจ สกุลสึรูโดโนะ |
ในฐานะตระกูลขุนนาง ตระกูลคูโจได้แบ่งตำแหน่งเซ็ชโชและคัมปากุ และตำแหน่งต่าง ๆ กับ ตระกูลโคโนอิ ตระกูลทากัตสึกาซะ ตระกูลนิโจ และ ซึ่งเป็นเครือญาติเดียวกันจากศตวรรษที่ 12 จนถึงปี ค.ศ. 1867
ประวัติ
ตระกูลคูโจก่อตั้งโดย (ค.ศ. 1149 - 1207) โดยข้อแนะนำของ คำว่าคูโจนั้นแปลตรงตัวได้ว่า ถนน 9 สาย ซึ่งเป็นเขตในโตเกียวที่เป็นที่ตั้งวังของ โชกุนแห่งคามากูระคนที่สี่และห้า และ ก็มาจากตระกูลนี้ หลังจากการปฏิรูปเมจิ สมาชิกตระกูลคูโจทุกคนได้รับยศแต่งตั้งเป็นเจ้าชาย และได้ส่งคูโจ ซาดาโกะ เข้าถวายตัวแด่สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช เป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม แต่นักประวัติศาสตร์บางท่านก็ว่ากันว่าตระกูลนี้ถูกก่อตั้งโดย ฟูจิวาระ โนะ โมโรซูเกะ (ค.ศ.908 - 960)
ศึกแห่งตระกูล
ในรัชสมัยของจักรพรรดิโกชิรากาวะ เป็นช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองและแต่ละตระกูลก็แตกออกเป็นหลาย ๆ ฝ่าย คือฝ่ายจักรพรรดิและอดีตจักรพรรดิ ตระกูลฟูจิวาระก็แบ่งเป็นสองฝ่ายนี้เช่นกัน รวมไปถึงตระกูลไทระ และตระกูลมินาโมโตะ สงครามครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบถึงความมั่งคงของตระกูลฟูจิวาระอย่างมาก จนกระทั่งถึงรัชสมัยของจักรพรรดิโกซันโจ อำนาจของพวกเขาแทบล่มสลาย เพราะจักรพรรดิโกซันโจไม่ได้เป็นคนของตระกูลฟูจิวาระ จักรพรรดิโกซันโจร่วมมือกับขุนนางที่สนับสนุนและเหล่านักรบกวาดล้างตระกูลฟูจิวาระทั้งหมด อำนาจที่สั่งสมมาเป็นเวลานานได้หมดลง และได้เข้าสู่ยุคของนักรบ หรือซามูไรเข้ามาแทนที่ชนชั้นขุนนาง อย่างไรก็ตามในภายหลังพวกเขาก็กลับมามีสถานะที่สูงส่งได้เหมือนเดิม ภายใต้การนำของ 5 ตระกูลใหญ่ของเครือฟูจิวาระ คือ คูโจ นิโจ อิจิโจ ทากัตสึกาซะ และ โคโนอิ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ตระกูลคูโจเกลียดตระกูลมินาโมโตะ และตระกูลไทระ อย่างมาก
ด้านศิลปะ และศาสนา
ในอดีตตระกูลคูโจได้เป็นผู้สร้าง ศาลเจ้าคิตาโนะ ในปีค.ศ. 1219 โดยคูโจ มิจิอิเอะ ได้มีส่วนร่วมในการตกแต่งศาลเจ้าในด้านศิลปะด้วย ในภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็ได้มีการบำรุงศาสนาในหลาย ๆ ประเทศทั้งในญี่ปุ่น และหลาย ๆ ประเทศในเอเชียรวมไปถึง อเมริกา โดยการเผยแผ่ศาสนาโดยได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลจากแต่ละประเทศโดยในปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้นับถือศาสนาพุทธนิกายนิชิเรนกว่า 1 แสนคน และในอินโดนีเซีย ศรีลังกา สเปน และหลาย ๆ ประเทศก็มียอดผู้นับถือสูงขึ้นมาก
ก่อนการปฏิรูปเมจิ ยุคล่มสลายของโชกุน และซามูไร
ในยุคนี้ตระกูลคูโจแทบไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ อันเนื่องจากตระกูลคูโจนั้นเป็นตระกูลขุนนางที่ผูกขาดตำแหน่งเซ็สโซและคัมปากุ จึงไม่มีส่วนได้เสียในการล่มสลายของรัฐบาลทหารเท่าใดนัก แต่เมื่อการต่อต้านบากูฟุรุนแรงขึ้น เหล่า 5 ตระกูลใหญ่แห่งเซ็สกังก็ได้เริ่มตระหนักว่าการล่มสลายของตนเองได้ใกล้เข้ามาอันเนื่องจาก หากฝ่ายจักรพรรดิได้รับชัยชนะอำนาจของพวกเขาต้องจบลงเป็นแน่แท้
สมัยเมจิ - สมัยโชวะ
ภายหลังการปฏิรูปเมจิ สมาชิกตระกูลคูโจได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าชาย ซึ่งเทียบได้กับ แกรนด์ดยุก ของยุโรปนั่นเอง ตระกุลคูโจได้เริ่มกลับมามีอำนาจอีกครั้งโดยการยกบุตรสาวของเจ้าชายคูโจ มิจิตากะ ให้สมรสกับเจ้าชายโทชิฮิโตะ(สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช) และเจ้าชายคูโจ โทชิฮิโตะ จึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นพระเชษฐาตั้งแต่นั้น ในเวลาต่อมาได้เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นเหตุให้คนของสกุลคูโจหมดอำนาจลงเนื่องจาก เจ้าชายคูโจ โทชิฮิโตะได้ประกาศคัดค้านการเข้าร่วมสงคราม ฝ่านสนับสนุนสงครามจึงปลงพระชนม์พระองค์เสีย ส่งผลให้สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเมกริ้วและต่อต้านการเข้าร่วมสงครามอย่างเปิดเผยจนเกิดการทะเลาะกับจักรพรรดิโชวะ จนทำให้ทั้งสองพระองค์แทบไม่มองพระพักตร์กัน นับแต่นั้นคนของสกุลคูโจก็ไม่ได้ขึ้นมามีอำนาจอีกเลยหลังจากการ สรรคตของจักรพรรดินีเทเม
อ้างอิง
- คูโจ คามอน ตราตระกูล
- kitanomaki
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
trakulkhuoc yipun 九条家 ormaci Kujō ke epntrakulsakhakhxngtrakulfuciwara odyidaeykxxkmacak fuciwara ona thadamichi trakulkhuocmixanacechnediywkbtrakulfuciwara indanrachsankmibutrsawkhxngtrakulnimakmayaetngngankbckrphrrdi hnunginnnkhuxsmedcphrackrphrrdiniethemtrakulkhuoc 九条家trapracatrakulkhuocechuxsaytrakulfuciwarataaehnngphusaercrachkaraethnphraxngkh hlaywara phunakhnaerkkhuoc khaensaenaphunakhnpccubnkhuoc micinarikxtngkhriststwrrsthi 12trakulyxytrakulnioc trakulxicioc skulsuruodona inthanatrakulkhunnang trakulkhuocidaebngtaaehnngeschochaelakhmpaku aelataaehnngtang kb trakulokhonxi trakulthaktsukasa trakulnioc aela sungepnekhruxyatiediywkncakstwrrsthi 12 cnthungpi kh s 1867prawtikhuoc khaensaena trakulkhuockxtngody kh s 1149 1207 odykhxaenanakhxng khawakhuocnnaepltrngtwidwa thnn 9 say sungepnekhtinotekiywthiepnthitngwngkhxng ochkunaehngkhamakurakhnthisiaelaha aela kmacaktrakulni hlngcakkarptirupemci smachiktrakulkhuocthukkhnidrbysaetngtngepnecachay aelaidsngkhuoc sadaoka ekhathwaytwaedsmedcphrackrphrrdiithoch epnsmedcphrackrphrrdiniethem aetnkprawtisastrbangthankwaknwatrakulnithukkxtngody fuciwara ona omorsueka kh s 908 960 sukaehngtrakulinrchsmykhxngckrphrrdiokchirakawa epnchwngthiekidsngkhramklangemuxngaelaaetlatrakulkaetkxxkepnhlay fay khuxfayckrphrrdiaelaxditckrphrrdi trakulfuciwarakaebngepnsxngfayniechnkn rwmipthungtrakulithra aelatrakulminaomota sngkhramkhrngniidsngphlkrathbthungkhwammngkhngkhxngtrakulfuciwaraxyangmak cnkrathngthungrchsmykhxngckrphrrdioksnoc xanackhxngphwkekhaaethblmslay ephraackrphrrdioksnocimidepnkhnkhxngtrakulfuciwara ckrphrrdioksnocrwmmuxkbkhunnangthisnbsnunaelaehlankrbkwadlangtrakulfuciwarathnghmd xanacthisngsmmaepnewlananidhmdlng aelaidekhasuyukhkhxngnkrb hruxsamuirekhamaaethnthichnchnkhunnang xyangirktaminphayhlngphwkekhakklbmamisthanathisungsngidehmuxnedim phayitkarnakhxng 5 trakulihykhxngekhruxfuciwara khux khuoc nioc xicioc thaktsukasa aela okhonxi cakehtukarninkhrngnithaihtrakulkhuocekliydtrakulminaomota aelatrakulithra xyangmakdansilpa aelasasnainxdittrakulkhuocidepnphusrang salecakhitaona inpikh s 1219 odykhuoc micixiexa idmiswnrwminkartkaetngsalecaindansilpadwy inphayhlngsngkhramolkkhrngthisxng kidmikarbarungsasnainhlay praethsthnginyipun aelahlay praethsinexechiyrwmipthung xemrika odykarephyaephsasnaodyidrbkhwamchwyehluxcakbukhkhlcakaetlapraethsodyinpccubninpraethsithymiphunbthuxsasnaphuththnikaynichiernkwa 1 aesnkhn aelainxinodniesiy srilngka sepn aelahlay praethskmiyxdphunbthuxsungkhunmakkxnkarptirupemci yukhlmslaykhxngochkun aelasamuirinyukhnitrakulkhuocaethbimidrbphlkrathbid xnenuxngcaktrakulkhuocnnepntrakulkhunnangthiphukkhadtaaehnngessosaelakhmpaku cungimmiswnidesiyinkarlmslaykhxngrthbalthharethaidnk aetemuxkartxtanbakufurunaerngkhun ehla 5 trakulihyaehngesskngkiderimtrahnkwakarlmslaykhxngtnexngidiklekhamaxnenuxngcak hakfayckrphrrdiidrbchychnaxanackhxngphwkekhatxngcblngepnaenaethsmyemci smyochwasmedcphrackrphrrdiniethem butrsawaehngtrakulkhuoc phayhlngkarptirupemci smachiktrakulkhuocidrbkaraetngtngepnecachay sungethiybidkb aekrnddyuk khxngyuorpnnexng trakulkhuociderimklbmamixanacxikkhrngodykarykbutrsawkhxngecachaykhuoc micitaka ihsmrskbecachayothchihiota smedcphrackrphrrdiithoch aelaecachaykhuoc othchihiota cungiddarngtaaehnngepnphraechsthatngaetnn inewlatxmaidekidsngkhramolkkhrngthisxng sungepnehtuihkhnkhxngskulkhuochmdxanaclngenuxngcak ecachaykhuoc othchihiotaidprakaskhdkhankarekharwmsngkhram fansnbsnunsngkhramcungplngphrachnmphraxngkhesiy sngphlihsmedcphrackrphrrdiniethemkriwaelatxtankarekharwmsngkhramxyangepidephycnekidkarthaelaakbckrphrrdiochwa cnthaihthngsxngphraxngkhaethbimmxngphraphktrkn nbaetnnkhnkhxngskulkhuockimidkhunmamixanacxikelyhlngcakkar srrkhtkhxngckrphrrdiniethemxangxingkhuoc khamxn tratrakul kitanomaki