บทความนี้ไม่มีจาก |
โรงเรียนผดุงนารี จังหวัดมหาสารคาม เป็นโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดมหาสารคามซึ่งแต่เดิมเคยรับเฉพาะนักเรียนหญิง แต่ในปัจจุบันได้จัดการเรียนการสอนแบบสหศึกษา เช่นเดียวกับโรงเรียนชายประจำจังหวัดคือ โรงเรียนสารคามพิทยาคม โรงเรียนผดุงนารีตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม เปิดทำการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2469 ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 90 ปี ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนมากกว่า 4500 คน และบุคลากรทางการศึกษากว่า 250 คน
โรงเรียนผดุงนารี Phadungnaree school Phadungnaree school | |
---|---|
ที่ตั้ง | |
ข้อมูล | |
ชื่ออื่น | ผ.น. / P.N. |
ประเภท | โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ |
คำขวัญ | ค.ม.ส.3 ความรู้ดี มีมารยาท สะอาด สามัคคี มีสุขภาพ |
สถาปนา | 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469 (97 ปี 226 วัน) |
หน่วยงานกำกับ | สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน |
รหัส | 10440102 |
ผู้อำนวยการ | นายประพันธ์ ขันโมลี |
ระดับปีที่จัดการศึกษา | มัธยมศึกษา |
ภาษาที่ใช้เป็นสื่อการสอน | ภาษาที่มีการเรียนการสอนในโรงเรียน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน ภาษาเวียดนาม |
สี | ██████ กรมท่า - ฟ้า |
เพลง | มาร์ชผดุงนารี |
เว็บไซต์ | phadungnaree.ac.th |
ในปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนผดุงนารีมีแผนชั้นเรียนเป็น 18-18-18/15-15-15 รวม99 ห้องเรียนและห้องGifted ตั้งแต่ ม.1 ถึง ม.6
ประวัติ
การกำเนิดโรงเรียน (พ.ศ. 2449-พ.ศ. 2469)
ในปี พ.ศ. 2449 พระพิทักษ์นรากร หรือพระเจริญราชเดช (อุ่น ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) เจ้าเมืองมหาสารคามคนแรก ได้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองมหาสารคามที่วัดโพธิ์ศรีวรารามและวัดนาควิชัย แล้วอาราธนาพระภิกษุมาเป็นครูสอน มีนักเรียนเฉพาะชายล้วน ๆ ต่อมาได้ช่วยกันบำรุง ส่งเสริมโรงเรียนที่วัดโพธิ์ศรีให้เจริญขึ้นเรื่อยๆ
การศึกษาของเด็กหญิงในเมืองมหาสารคามในสมัยนั้นก็เช่นเดียวกับหัวเมืองอื่น ๆ คือ จัดให้เรียน ตามบ้านข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คหบดี โดยมีการ
รวบรวมบุตรข้าราชการผู้ใหญ่และบุตรคหบดีแล้วหาครูมาสอนให้ ดังนั้นการศึกษาของเด็กผู้หญิงจึงอยูในวงจำกัดและส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนเหมือนเด็กทั่วไป วิชาที่เรียนส่วนมากเป็นวิชาการเรือน (เย็บปักถักร้อย การทำครัว การจัดดอกไม้) อันเป็นกิจจำเป็นของสตรีในสมัยนั้นเป็นส่วนใหญ่และเรียนหนังสือบ้างพอให้อ่านออกเขียนได้เท่านั้น
ในสมัยของพระประชากรบริรักษ์ (สาย ปาลนันท์) ผู้ว่าราชการเมือง (เจ้าเมือง) คนที่ 7 ของมหาสารคามเห็นว่าโรงเรียนประจำจังหวัดต้องอาศัยเรียนที่ศาลาวัดโพธิ์ศรี (ชื่อโรงเรียนวัดโพธิ์ศรีสามัคคี) เป็นการไม่สะดวกแก่การศึกษาจึงขออนุญาตให้จ่ายเงินเรี่ยไรบำรุงการศึกษาจำนวน 15,500 บาท(หนึ่งหมื่นห้าพันห้าร้อยบาทถ้วน) เมื่อมณฑลร้อยเอ็ดอนุญาตมาแล้วก็เริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2468 เป็นอาคารไม้ชั้นครึ่งตั้งอยู่บริเวณหลังสถานีตำรวจ (ในปัจจุบัน) และเป็นเป็นสถานศึกษาเรียกว่าโรงเรียนประจำจังหวัดมหาสารคาม “สารคามพิทยาคม” มีนักเรียนรวมกันทั้งชาย-หญิง
ต่อมา การอ่านออกเขียนได้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสตรี จึงมีผู้นิยมส่งบุตรหลานให้ได้เล่าเรียนในโรงเรียนมากขึ้น
ครั้นถึงสมัยของผู้ว่าราชการเมือง (เจ้าเมือง) คนที่ 8 อำมาตย์โทพระเริงนฤปการ (อนงพยัคฆันต์) ซึ่งภายหลังได้เลื่อนเป็นพระยาสารคามคณาภิบาล ดำริได้ว่า โรงเรียนประจำจังหวัดมีการสอนเด็กชายหญิงเรียนกะปนกัน ต่อไปการศึกษาคงจะไม่เจริญเต็มที่ได้เพราะผู้ปกครองเด็กหญิงรังเกียจที่จะให้บุตรหลานของตนเรียนรวมกับเด็กชาย จึงจัดสร้างโรงเรียนสตรีขึ้นหลังหนึ่งเป็นโรงเรียนชั่วคราวในบริเวณเดียวกัน พอแบ่งนักเรียนแยกออกอาศัยเรียนไปพลางก่อนและทำพิธีเปิดโรงเรียนเป็นโรงเรียนสำหรับสตรี เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469 ศึกษาธิการจังหวัดสมัยนั้นคือ อำมาตย์ตรีขุนประสาทวิทยากิจ
ความก้าวหน้าของผดุงนารีจากอดีตถึงปัจจุบัน
นับจากวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469 เป็นต้นมา การศึกษาเล่าเรียนของเด็กชาย-หญิง ในเมืองมหาสารคามแยกจากกันโดยเด็ดขาด เด็กหญิงมีโรงเรียนเฉพาะผู้หญิง มีครูใหญ่คนแรก นางสาวทองคำ ศรีสารคาม (พรชัย) มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เปิดสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวนนักเรียนในโรงเรียนเมื่อเปิดครั้งแรกมีจำนวนนักเรียน 33 คน มีครู 3 คน (รวมทั้งครูใหญ่ด้วย)
ปี พ.ศ. 2470 ได้มีการจัดสร้างอาหารเรียนถาวรขึ้น ตามแบบกระทรวงธรรมการ หลังคามุงกระเบื้อง ได้จ่ายเงินค่าศึกษาพลีไปเป็นค่าเหล็ก ค่าแรงและค่ากระเบี้ยง เป็นจำนวนเงิน 2,016.70 บาท (สอนพันสิบหกบาทเจ็ดสิบสตางค์) โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2469 และแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2470 โดยที่ไม่ต้องซื้อเพราะของบริจาคจากราษฎร เมื่อสร้างเสร็จได้ให้นามโรงเรียนเสียใหม่ว่า “โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดมหาสารคาม” (ส่วนคำว่า “ผดุงนารี” มาเพิ่มเข้าภายหลัง)
ในปี พ.ศ. 2482' ได้ขยายโอกาสการศึกษาโดยเปิดสอนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รุ่นแรก จำนวน 7 คน
ปีการศึกษา 2506 ได้เปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแผนกศิลปะ จำนวน 1 ห้องเรียน
ปีการศึกษา 2516 ได้เปิดสอนแผนกทั่วไปชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 2 ห้องเรียน
ปีการศึกษา 2518 ได้เปิดสอนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 6 โปรแกรมการเรียน
ปีการศึกษา 2521 ได้เปิดสอนในหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521
ปีการศึกษา 2524 ได้เปิดสอนโดยใช้หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2524
ปีการศึกษา 2533 เป็นโรงเรียนร่วมพัฒนาการใช้หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการและเปิดสอนโดยใช้หลักสูตรมัธยมศึกษา ฉบับปรังปรุงพุทธศักราช 2533 ตั้งแต่ชั้น ม.1-ม.6
ปีการศึกษา 2551 เปิดสอนแผนการเรียนภาษาฝรั่งเศส มีแนการจัดชั้นเรียนเป็น 12-10-10/10-10-10 รวม 62 ห้องเรียน
ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนได้เปิดสอนโดยใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ในระดับชั้น ม.1 และ ม.4 มีแผนการจัดชั้นเรียนเป็น 12-12-10/10-10-10 รวม 64 ห้องเรียน
ปีการศึกษา 2553 โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง (SP2) โครงการโรงเรียนมาตรฐานสากล โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ (ม.4 จำนวน 1 ห้อง) โครงการยกระดับคุณภาพการศึกษา มีแผนการจัดชั้นเรียนเป็น 12-12-12/11-10-10 รวม 67 ห้องเรียน
ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนจัดโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ (ม.1 จำนวน 2 ห้อง ม.4 จำนวน 1 ห้อง) ดำเนินการก่อสร้างอาหารเรียน แบบ 324 ล (ตอกเข็ม) เปิดสอนแผนการเรียนศิลป์-ธุรกิจ มีแผนการจัดชั้นเรียนเป็น 16-12-12/12-11-10 รวม 73 ห้องเรียน
ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนได้ปรับปรุงถนนลาดยางในบริเวณโรงเรียน เปิดสอนแผนการเรียนศิลป์-จีน มีแผนการจัดชั้นเรียนเป็น 16-16-12/13-12-11 รวม 80 ห้องเรียน
ปีการศึกษา 2556 แผนการจัดชั้นเรียนเป็น 16-16-16/13-13-12 รวม 86 ห้องเรียน
ปีการศึกษา 2557 แผนการจัดชั้นเรียนเป็น 18-16-16/15-13-13 รวม 91 ห้องเรียน เปิดสอนแผนการเรียนทั่วไป (ศิลป์-การงานฯ) และภาษาเวียดนาม
ปีการศึกษา 2558 แผนการจัดชั้นเรียนเป็น 18-18-16/15-15-13 รวม 95 ห้องเรียน
ปีการศึกษา 2559 แผนการจัดชั้นเรียนเป็น 18-18-18/15-15-15 รวม 99 ห้องเรียน
หลักสูตรที่เปิดสอน
โรงเรียนผดุงนารีเปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายสายสามัญ
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
- วิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์
- ศิลป์ - คำนวณ
- ศิลป์ - ภาษา
- ศิลป์ - ฝรั่งเศส
- ศิลป์ - จีน
- ศิลป์ - เวียดนาม
- ศิลป์ - ญี่ปุน
- ศิลป์ - เกาหลี
- คอมพิวเตอร์ - ธุรกิจ
- ศิลป์ - ดนตรี
- ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์
อ้างอิง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-10-07. สืบค้นเมื่อ 2017-10-05.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir orngeriynphdungnari cnghwdmhasarkham epnorngeriynstripracacnghwdmhasarkhamsungaetedimekhyrbechphaankeriynhying aetinpccubnidcdkareriynkarsxnaebbshsuksa echnediywkborngeriynchaypracacnghwdkhux orngeriynsarkhamphithyakhm orngeriynphdungnaritngxyuinekhtethsbalemuxngmhasarkham xaephxemuxngmhasarkham cnghwdmhasarkham epidthakareriynkarsxnmatngaetpiphuththskrach 2469 sungmiprawtiyawnankwa 90 pi pccubnmicanwnnkeriynmakkwa 4500 khn aelabukhlakrthangkarsuksakwa 250 khnorngeriynphdungnari Phadungnaree school Phadungnaree schoolthitngxaephxemuxngmhasarkham cnghwdmhasarkham 44000khxmulchuxxunph n P N praephthorngeriynmthymsuksakhnadihyphiesskhakhwykh m s 3 khwamrudi mimaryath saxad samkhkhi misukhphaphsthapna9 phvscikayn ph s 2469 97 pi 226 wn hnwyngankakbsankngankhnakrrmkarkarsuksakhnphunthanrhs10440102phuxanwykarnaypraphnth khnomliradbpithicdkarsuksamthymsuksaphasathiichepnsuxkarsxnphasathimikareriynkarsxninorngeriyn phasaithy phasaxngkvs phasafrngess phasacin phasaewiydnamsi krmtha faephlngmarchphdungnariewbistphadungnaree ac th inpccubnkarcdkareriynkarsxnkhxngorngeriynphdungnarimiaephnchneriynepn 18 18 18 15 15 15 rwm99 hxngeriynaelahxngGifted tngaet m 1 thung m 6prawtikarkaenidorngeriyn ph s 2449 ph s 2469 inpi ph s 2449 phraphithksnrakr hruxphraecriyrachedch xun phwphutannth n mhasarkham ecaemuxngmhasarkhamkhnaerk idcdtngorngeriynkhunepnkhrngaerkinemuxngmhasarkhamthiwdophthisriwraramaelawdnakhwichy aelwxarathnaphraphiksumaepnkhrusxn minkeriynechphaachaylwn txmaidchwyknbarung sngesrimorngeriynthiwdophthisriihecriykhuneruxy karsuksakhxngedkhyinginemuxngmhasarkhaminsmynnkechnediywkbhwemuxngxun khux cdiheriyn tambankharachkarchnphuihy khhbdi odymikar rwbrwmbutrkharachkarphuihyaelabutrkhhbdiaelwhakhrumasxnih dngnnkarsuksakhxngedkphuhyingcungxyuinwngcakdaelaswnihykmkcaimidsuksaelaeriynehmuxnedkthwip wichathieriynswnmakepnwichakareruxn eybpkthkrxy karthakhrw karcddxkim xnepnkiccaepnkhxngstriinsmynnepnswnihyaelaeriynhnngsuxbangphxihxanxxkekhiynidethann insmykhxngphraprachakrbrirks say palnnth phuwarachkaremuxng ecaemuxng khnthi 7 khxngmhasarkhamehnwaorngeriynpracacnghwdtxngxasyeriynthisalawdophthisri chuxorngeriynwdophthisrisamkhkhi epnkarimsadwkaekkarsuksacungkhxxnuyatihcayengineriyirbarungkarsuksacanwn 15 500 bath hnunghmunhaphnharxybaththwn emuxmnthlrxyexdxnuyatmaaelwkerimdaeninkarkxsrangineduxntulakhm 2468 epnxakharimchnkhrungtngxyubriewnhlngsthanitarwc inpccubn aelaepnepnsthansuksaeriykwaorngeriynpracacnghwdmhasarkham sarkhamphithyakhm minkeriynrwmknthngchay hying txma karxanxxkekhiynidepnsingcaepnxyangyingsahrbstri cungmiphuniymsngbutrhlanihidelaeriyninorngeriynmakkhun khrnthungsmykhxngphuwarachkaremuxng ecaemuxng khnthi 8 xamatyothphraeringnvpkar xnngphykhkhnt sungphayhlngideluxnepnphrayasarkhamkhnaphibal dariidwa orngeriynpracacnghwdmikarsxnedkchayhyingeriynkapnkn txipkarsuksakhngcaimecriyetmthiidephraaphupkkhrxngedkhyingrngekiycthicaihbutrhlankhxngtneriynrwmkbedkchay cungcdsrangorngeriynstrikhunhlnghnungepnorngeriynchwkhrawinbriewnediywkn phxaebngnkeriynaeykxxkxasyeriynipphlangkxnaelathaphithiepidorngeriynepnorngeriynsahrbstri emuxwnthi 9 phvscikayn ph s 2469 suksathikarcnghwdsmynnkhux xamatytrikhunprasathwithyakic khwamkawhnakhxngphdungnaricakxditthungpccubn nbcakwnthi 9 phvscikayn ph s 2469 epntnma karsuksaelaeriynkhxngedkchay hying inemuxngmhasarkhamaeykcakknodyeddkhad edkhyingmiorngeriynechphaaphuhying mikhruihykhnaerk nangsawthxngkha srisarkham phrchy micanwnnkeriynephimkhuneruxy epidsxntngaetchnprathmsuksapithi 1 thungmthymsuksapithi 2 canwnnkeriyninorngeriynemuxepidkhrngaerkmicanwnnkeriyn 33 khn mikhru 3 khn rwmthngkhruihydwy pi ph s 2470 idmikarcdsrangxahareriynthawrkhun tamaebbkrathrwngthrrmkar hlngkhamungkraebuxng idcayenginkhasuksaphliipepnkhaehlk khaaerngaelakhakraebiyng epncanwnengin 2 016 70 bath sxnphnsibhkbathecdsibstangkh odyerimkxsrangtngaetpi ph s 2469 aelaaelwesrcsmburninpi ph s 2470 odythiimtxngsuxephraakhxngbricakhcakrasdr emuxsrangesrcidihnamorngeriynesiyihmwa orngeriynstripracacnghwdmhasarkham swnkhawa phdungnari maephimekhaphayhlng inpi ph s 2482 idkhyayoxkaskarsuksaodyepidsxnthungchnmthymsuksapithi 6 aelaminkeriynchnmthymsuksapithi 6 runaerk canwn 7 khn pikarsuksa 2506 idepidsxnchnmthymsuksatxnplayaephnksilpa canwn 1 hxngeriyn pikarsuksa 2516 idepidsxnaephnkthwipchnmthymsuksatxnplay canwn 2 hxngeriyn pikarsuksa 2518 idepidsxninchnmthymsuksatxnplay 6 opraekrmkareriyn pikarsuksa 2521 idepidsxninhlksutrmthymsuksatxntn phuththskrach 2521 pikarsuksa 2524 idepidsxnodyichhlksutrmthymsuksatxnplay phuththskrach 2524 pikarsuksa 2533 epnorngeriynrwmphthnakarichhlksutrkhxngkrathrwngsuksathikaraelaepidsxnodyichhlksutrmthymsuksa chbbprngprungphuththskrach 2533 tngaetchn m 1 m 6 pikarsuksa 2551 epidsxnaephnkareriynphasafrngess miaenkarcdchneriynepn 12 10 10 10 10 10 rwm 62 hxngeriyn pikarsuksa 2552 orngeriynidepidsxnodyichhlksutraeknklangkarsuksakhnphunthanphuththskrach 2551 inradbchn m 1 aela m 4 miaephnkarcdchneriynepn 12 12 10 10 10 10 rwm 64 hxngeriyn pikarsuksa 2553 orngeriynidekharwmokhrngkaraephnptibtikarithyekhmaekhng SP2 okhrngkarorngeriynmatrthansakl okhrngkarhxngeriynphiesswithyasastr m 4 canwn 1 hxng okhrngkarykradbkhunphaphkarsuksa miaephnkarcdchneriynepn 12 12 12 11 10 10 rwm 67 hxngeriyn pikarsuksa 2554 orngeriyncdokhrngkarhxngeriynphiesswithyasastr m 1 canwn 2 hxng m 4 canwn 1 hxng daeninkarkxsrangxahareriyn aebb 324 l txkekhm epidsxnaephnkareriynsilp thurkic miaephnkarcdchneriynepn 16 12 12 12 11 10 rwm 73 hxngeriyn pikarsuksa 2555 orngeriynidprbprungthnnladyanginbriewnorngeriyn epidsxnaephnkareriynsilp cin miaephnkarcdchneriynepn 16 16 12 13 12 11 rwm 80 hxngeriyn pikarsuksa 2556 aephnkarcdchneriynepn 16 16 16 13 13 12 rwm 86 hxngeriyn pikarsuksa 2557 aephnkarcdchneriynepn 18 16 16 15 13 13 rwm 91 hxngeriyn epidsxnaephnkareriynthwip silp karngan aelaphasaewiydnam pikarsuksa 2558 aephnkarcdchneriynepn 18 18 16 15 15 13 rwm 95 hxngeriyn pikarsuksa 2559 aephnkarcdchneriynepn 18 18 18 15 15 15 rwm 99 hxngeriynhlksutrthiepidsxnorngeriynphdungnariepidsxninradbmthymsuksatxntnaelatxnplaysaysamy radbmthymsuksatxntn swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidradbmthymsuksatxnplay withyasastr khnitsastr silp khanwn silp phasa silp frngess silp cin silp ewiydnam silp yipun silp ekahli khxmphiwetxr thurkic silp dntri hxngeriynphiesswithyasastrxangxing khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 10 07 subkhnemux 2017 10 05 aehlngkhxmulxunewbistxyangepnthangkar bthkhwamniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk