เมริทอาเตน, หรืออาจจะสะกดว่า เมริตาเตน หรือ เมริเอตาเตน (มีพระชนม์อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 14 ก่อนคริสตกาล), เป็นเจ้าหญิงชาวอียิปต์โบราณจากราชวงศ์ที่สิบแปดแห่งอียิปต์โบราณ พระนามของพระองค์มีความหมายว่า สตรี ผู้เป็นที่รักแห่งอาเตน พระองค์มีตำแหน่งเป็นพระมเหสีในฟาโรห์สเมงห์คาเร ผู้ซึงเป็นพระอนุชาหรือพระราชโอรสของฟาโรห์อเคนาเทน พระองค์เป็นไปได้ว่าเป็นฟาโรห์หญิง โดยใช้พระนามว่า อังค์เคเปอร์รูเร เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน
เมริทอาเตน | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|
พระอัครมเหสี, พระราชธิดาแห่งฟาโรห์ | ||||||
พระราชธิดาในฟาโรห์อเคนาเทนกับพระนางเนเฟอร์ติติ ซึ่งในภาพอาจจะเป็นพระนางเมริทอาเตน ขอณะทรงพระเยาว์ ต่อมามีตำแหน่งเป็นพระมเหสีและได้ขึ้นครองราชย์เป็นฟาโรห์สตรี โดยมีพระนามว่าฟาโรห์อังค์เคเปรูเร เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์, ปารีส | ||||||
ประสูติ | ธีบส์? | |||||
คู่อภิเษก | สเมงห์คาเร | |||||
พระราชบุตร | ||||||
พระนามในอักษรเฮียโรกลิฟฟิก |
| |||||
ราชวงศ์ | ||||||
พระราชบิดา | อเคนาเทน | |||||
พระราชมารดา | เนเฟอร์ติติ | |||||
ศาสนา | ศาสนาอียิปต์โบราณและลัทธิอาเทน |
พระราชวงศ์
พระองค์เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในฟาโรห์อเคนาเตนกับพระนางเนเฟอร์ติติ (พระมเหสีเอก) พระขนิษฐาของพระองค์คือ พระนาง, อังค์เอสเอนปาอาเตน, เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน ตาเชริท, เนเฟอร์เนเฟรูเร และ ภายหลังพระองค์ได้อภิเษกสมรสกับฟาโรห์สเมงห์คาเร
จากบันทึกได้กล่าวถึงเจ้าหญิงพระองค์หนึ่งพระนามว่า ซึ่งอาจจะเป็นพระราชธิดาของพระองค์กับฟาโรห์สเมงห์คาเร และบันทึกจากเมืองอัซมูเนอิน (เฮอร์โมโปลิส) กล่าวว่าเจ้าหญิงเมริทอาเตน-ตาเชริท เป็นพระธิดาในพระองค์ โดยเหตุการนี้ในช่วงการครองราชย์ของฟาโรห์อเคนาเตน และเป็นไปได้ว่าฟาโรห์อเคนาเตนเป็นพระบิดาของเจ้าหญิงเมริทอาเตน-ตาเชริท ถ้าเป็นเช่นนั้นแสดงให้เห็นว่าฟาโรห์อเคนาเตนได้สถาปนาพระราชธิดาของพระองค์เองขั้นเป็นพระมเหสีอีกพระองค์ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหญิง ซึ่งถูกสันนิษฐานว่าเป็นพระธิดาของพระองค์ แต่มีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะเป็นพระธิดาของพระนางอังค์เอสเอนปาอาเตน
พระประวัติ
วัยพระเยาว์ในเมืองธีบส์
พระองค์เป็นไปได้มากว่าจะประสูติที่เมืองธีบส์ หลังจากพระบิดาของพระองค์อภิเษกสมรสกับพระนางเนเฟอร์ติติได้ไม่นาน หรืออาจจะก่อนที่พระบิดาขึ้นครองราชย์ พระองค์ปรากฏในบันททึกในช่วงปีที่ 5 ของการครองราชย์ของพระบิดา ซึ่งพระองค์อาจจะประทับอยู่ที่เมืองธีบส์ในพระราชวังที่ซับซ้อนในวิหารที่คาร์นัก แต่ยังไม่ทราบว่าการใช้งานอาคารที่คาร์นักเป็นอย่างไร ซึ่งสังเกตภาพจิตรรรมฝาผนังคาดว่าอาจจะเป็นที่ประทับได้ ภาพสลักนูนต่ำชองพระองค์จะอยู่ข้างพระมารดาของพระองค์ (พระนางเนเฟอร์ติติ) บนภาพนูนต่ำนูนสูงสีสันแกะสลักในห้องฮัท-เบ็นเบ็น ฮัท - เบ็นเบ็นเป็นโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับเนเฟอร์ติติซึ่งเป็นนักบวชชั้นสูง พระองค์ปรากฏอยู่ด้านหลังพระมารดาของพระองค์ที่กำลังสั่นกระดิ่ง และพระขนิษฐาของพระองค์พระนางเมเกตอาเตนและอังค์เอสเอนปาอาเตนก็ปรากฏพระองค์ขึ้นในบางฉาก แต่ไม่บ่อยเหมือนพระองค์
เจ้าหญิงแห่งอาร์มานา
ในปีที่ 5 ของการครองราชย์ของฟาโรห์อเคนาเตน พระองค์ปรากฏบนภาพสลักที่กำแพงเมืองหลวงใหม่ที่พระบิดาสร้างโดยย้ายทั้งคณะเชื้อพระวงศ์และข้าราชบริพารของพระองค์ ในช่วงรัชสมัยของพระบิดา พระองค์มักจะปรากฏอยู่บ่อยที่สุ ดและกล่าวถึงพระราชธิดาทั้งหกพระองค์ ภาพสลักของพระองค์ปรากฏอยู่บนภาพสลักภายในวิหาร สุสาน และหอสวดส่วนพระองค์ ไม่เพียงแค่นั้นพระองค์ยังคงปรากฏให้เห็นในหมู่ภาพแสดงชีวิตครอบครัวของฟาโรห์ ซึ่งเป็นแบบฉบับของจิตรกรรมช่วงยุคอาร์มานา แต่ในบรรดาภาพวาดพิธีอย่างเป็นทางการเช่นกัน
โดยสองสองสถาปัตยกรรมในเมืองอาร์มานาที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ก็คือ พระราชวังทางทิศเหนือ และ มารู-อาเตน ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองอาร์มานาที่โครงสร้างประกอบด้วยสระว่ายน้ำหรือทะเลสาบและศาลาตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ปลูกต้นไม้ เกาะเทียมประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะเป็นเสาซึ่งมีผิวทางที่ทาสีเพื่อแสดงฉากจากธรรมชาติ
ตำแหน่งพระมเหสี
พระองค์ปรากฏบนภาพสลักนูนต่ำบนฝาผนังหลุมฝังศพของ ในอาร์มานา โดยปรากฏร่วมกับฟาโรห์อังค์เคเปรูเร สเมงห์คาเร-ดเจเซอร์เคเปรู ซึ่งเป็นภาพที่ปรากฏให้เห็นถึงคู่บ่าวสาวที่ได้รับเกียรติและมอบของขวัญให้กับเมริเรในปีที่ 12 แห่งการครองราชย์ของฟาโรห์อเคนาเทน ฟาโรห์สเมงห์คาเรอาจจะมีหน้าที่เป็นผู้ปกครองร่วมกับฟาโรห์อเคนาเทน โดยขณะที่พระองค์ดำรงตำแหน่งเป็นพระมเหสีในฟาโรห์สเมงห์คาเร และพระนางเนเฟอร์ติติก็ดำรงตำแหน่งพระมเหสีในฟาโรห์อเคนาเทนด้วย พระนางเนเฟอร์ติติยังคงอยู่ในตำแหน่งพระมเหสีจนถึงปีที่ 16 ดังนั้นฟาโรห์สเมงห์คาเร จึงต้องเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในเวลานั้นหรือไม่ก็ปกครองหลังจากปีที่ 16 แห่งการครองราชย์ของฟาโรห์อเคนาเทน
พระองค์ถูกกล่าวถึงบนดอกเดซี่สีทองที่ตกแต่งเสื้อผ้าที่พบในหลุมฝังศพของฟาโรห์ทุตอังค์อามุน และพระองค์ยังถูกกล่าวถึงในกล่องไม้ที่ตั้งใจจะบรรจุเสื้อผ้าลินิน กล่องระบุถึงสองฟาโรห์คือ เนเฟอร์เคเปรูเร-วาเอนเร (อเคนาเทน) และ อังค์เคเปรูเร-เม-วาเอนเร, เนเฟอร์เนเฟรูอาเตน-เม-วาเอนเร และพระมเหสีเมริทอาเตน
การสิ้นพระชนม์และหลุมฝังพระศพ
ในบันทึกกล่าวถึงว่า พระนางเมริทอาเตนตั้งใจจะถูกฝังที่เมืองอาเคต-อาเตน (เมืองอาร์มานาในปัจจุบัน)
สุสานหลวงในอาร์มานาถูกใช้เพื่อการฝังพระศพของพระนางเมเกตอาเตน, พระนางติเย และฟาโรห์อเคนาเทน ถูกปิดหลังจากการสวรรคตและการฝังพระศพของฟาโรห์อเคนาเทน หลังจากนั้นอาจจะมีการวางแผนการฝังพระศพของพระนางเมริทอาเตนสำหรับหลุมฝังพระศพอีกแห่งหนึ่งในเมืองอาร์มานา
อ้างอิง
- J. Tyldesley, Chronicle of the Queens of Egypt, 2006, Thames & Hudson, pg 136–137
- Aidan Dodson & Dyan Hilton: The Complete Royal Families of Ancient Egypt. Thames & Hudson, 2004, ISBN , p.142-157
- Dodson, Aidan, Amarna Sunrise: Egypt from Golden Age to Age of Heresy, The American University in Cairo Press, 2014
- Aldred, Cyril, Akhenaten: King of Egypt ,Thames and Hudson, 1991 (paperback), ISBN
- Kemp, Barry, The City of Akhenaten and Nefertiti: Amarna and its People, Thames and Hudson, 2012
- Dodson, Aidan, Amarna Sunset: Nefertiti, Tutankhamun, Ay, Horemheb, and the Egyptian Counter-reformation, The American University in Cairo Press, 2009
- Seyfried, Friederike (Editor), In the Light of Amarna: 100 Years of the Nefertiti Discovery, Michael Imhof Verlag, 2013
- Ertman, Earl L. and Hoffmeier, James K. A new fragmentary relief of King Ankhkheperure from Tell el-Borg (Sinai)?, JEA Vol 94, 2008
- Murnane, William J. (1995). Texts from the Amarna Period in Egypt. Atlanta, Georgia: Scholars Press. p. 78. ISBN .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
emrithxaetn hruxxaccasakdwa emritaetn hrux emriextaetn miphrachnmxyuinchwngstwrrsthi 14 kxnkhristkal epnecahyingchawxiyiptobrancakrachwngsthisibaepdaehngxiyiptobran phranamkhxngphraxngkhmikhwamhmaywa stri phuepnthirkaehngxaetn phraxngkhmitaaehnngepnphramehsiinfaorhsemnghkhaer phusungepnphraxnuchahruxphrarachoxrskhxngfaorhxekhnaethn phraxngkhepnipidwaepnfaorhhying odyichphranamwa xngkhekhepxrruer enefxrenefruxaetnemrithxaetnphraxkhrmehsi phrarachthidaaehngfaorhphrarachthidainfaorhxekhnaethnkbphranangenefxrtiti sunginphaphxaccaepnphranangemrithxaetn khxnathrngphraeyaw txmamitaaehnngepnphramehsiaelaidkhunkhrxngrachyepnfaorhstri odymiphranamwafaorhxngkhekhepruer enefxrenefruxaetn cdaesdngthiphiphithphnthlufwr parisprasutithibs khuxphiesksemnghkhaerphrarachbutrphranaminxksrehiyorkliffikrachwngsphrarachbidaxekhnaethnphrarachmardaenefxrtitisasnasasnaxiyiptobranaelalththixaethnphrarachwngsphraxngkhepnphrarachthidaphraxngkhihyinfaorhxekhnaetnkbphranangenefxrtiti phramehsiexk phrakhnisthakhxngphraxngkhkhux phranang xngkhexsexnpaxaetn enefxrenefruxaetn taechrith enefxrenefruer aela phayhlngphraxngkhidxphiesksmrskbfaorhsemnghkhaer cakbnthukidklawthungecahyingphraxngkhhnungphranamwa sungxaccaepnphrarachthidakhxngphraxngkhkbfaorhsemnghkhaer aelabnthukcakemuxngxsmuenxin ehxromoplis klawwaecahyingemrithxaetn taechrith epnphrathidainphraxngkh odyehtukarniinchwngkarkhrxngrachykhxngfaorhxekhnaetn aelaepnipidwafaorhxekhnaetnepnphrabidakhxngecahyingemrithxaetn taechrith thaepnechnnnaesdngihehnwafaorhxekhnaetnidsthapnaphrarachthidakhxngphraxngkhexngkhnepnphramehsixikphraxngkh nxkcakniyngmiecahying sungthuksnnisthanwaepnphrathidakhxngphraxngkh aetmikhwamepnipidmakkwathicaepnphrathidakhxngphranangxngkhexsexnpaxaetnphraprawtiwyphraeyawinemuxngthibs phraxngkhepnipidmakwacaprasutithiemuxngthibs hlngcakphrabidakhxngphraxngkhxphiesksmrskbphranangenefxrtitiidimnan hruxxaccakxnthiphrabidakhunkhrxngrachy phraxngkhpraktinbnththukinchwngpithi 5 khxngkarkhrxngrachykhxngphrabida sungphraxngkhxaccaprathbxyuthiemuxngthibsinphrarachwngthisbsxninwiharthikharnk aetyngimthrabwakarichnganxakharthikharnkepnxyangir sungsngektphaphcitrrrmfaphnngkhadwaxaccaepnthiprathbid phaphslknuntachxngphraxngkhcaxyukhangphramardakhxngphraxngkh phranangenefxrtiti bnphaphnuntanunsungsisnaekaslkinhxnghth ebnebn hth ebnebnepnokhrngsrangthiekiywkhxngkbenefxrtitisungepnnkbwchchnsung phraxngkhpraktxyudanhlngphramardakhxngphraxngkhthikalngsnkrading aelaphrakhnisthakhxngphraxngkhphranangemektxaetnaelaxngkhexsexnpaxaetnkpraktphraxngkhkhuninbangchak aetimbxyehmuxnphraxngkh ecahyingaehngxarmana ecahyingaehngxarmanacakphiphithphnthinebxrlinphaphslkcakphiphithphnthinkrunglxndxn inpithi 5 khxngkarkhrxngrachykhxngfaorhxekhnaetn phraxngkhpraktbnphaphslkthikaaephngemuxnghlwngihmthiphrabidasrangodyyaythngkhnaechuxphrawngsaelakharachbripharkhxngphraxngkh inchwngrchsmykhxngphrabida phraxngkhmkcapraktxyubxythisu daelaklawthungphrarachthidathnghkphraxngkh phaphslkkhxngphraxngkhpraktxyubnphaphslkphayinwihar susan aelahxswdswnphraxngkh imephiyngaekhnnphraxngkhyngkhngpraktihehninhmuphaphaesdngchiwitkhrxbkhrwkhxngfaorh sungepnaebbchbbkhxngcitrkrrmchwngyukhxarmana aetinbrrdaphaphwadphithixyangepnthangkarechnkn odysxngsxngsthaptykrrminemuxngxarmanathiekiywkhxngkbphraxngkhkkhux phrarachwngthangthisehnux aela maru xaetn sungtngxyuthangthisitkhxngemuxngxarmanathiokhrngsrangprakxbdwysrawaynahruxthaelsabaelasalatngxyuinphunthithipluktnim ekaaethiymprakxbdwysingkxsrangthimilksnaepnesasungmiphiwthangthithasiephuxaesdngchakcakthrrmchati taaehnngphramehsi phaphslkfaorhsemnghkhaerkbphranangemrithxaetnthisusanemrierthi 2kharthuthkhxngfaorhxekhnaethn enefxrenefruxaetn aelaemrithxaetn cakhlumfngphrasphkhxngfaorhthutxngkhxamun phraxngkhpraktbnphaphslknuntabnfaphnnghlumfngsphkhxng inxarmana odypraktrwmkbfaorhxngkhekhepruer semnghkhaer decesxrekhepru sungepnphaphthipraktihehnthungkhubawsawthiidrbekiyrtiaelamxbkhxngkhwyihkbemrierinpithi 12 aehngkarkhrxngrachykhxngfaorhxekhnaethn faorhsemnghkhaerxaccamihnathiepnphupkkhrxngrwmkbfaorhxekhnaethn odykhnathiphraxngkhdarngtaaehnngepnphramehsiinfaorhsemnghkhaer aelaphranangenefxrtitikdarngtaaehnngphramehsiinfaorhxekhnaethndwy phranangenefxrtitiyngkhngxyuintaaehnngphramehsicnthungpithi 16 dngnnfaorhsemnghkhaer cungtxngepnphusaercrachkaraethnphraxngkhinewlannhruximkpkkhrxnghlngcakpithi 16 aehngkarkhrxngrachykhxngfaorhxekhnaethn phraxngkhthukklawthungbndxkedsisithxngthitkaetngesuxphathiphbinhlumfngsphkhxngfaorhthutxngkhxamun aelaphraxngkhyngthukklawthunginklxngimthitngiccabrrcuesuxphalinin klxngrabuthungsxngfaorhkhux enefxrekhepruer waexner xekhnaethn aela xngkhekhepruer em waexner enefxrenefruxaetn em waexner aelaphramehsiemrithxaetnkarsinphrachnmaelahlumfngphrasphinbnthukklawthungwa phranangemrithxaetntngiccathukfngthiemuxngxaekht xaetn emuxngxarmanainpccubn susanhlwnginxarmanathukichephuxkarfngphrasphkhxngphranangemektxaetn phranangtiey aelafaorhxekhnaethn thukpidhlngcakkarswrrkhtaelakarfngphrasphkhxngfaorhxekhnaethn hlngcaknnxaccamikarwangaephnkarfngphrasphkhxngphranangemrithxaetnsahrbhlumfngphrasphxikaehnghnunginemuxngxarmanaxangxingJ Tyldesley Chronicle of the Queens of Egypt 2006 Thames amp Hudson pg 136 137 Aidan Dodson amp Dyan Hilton The Complete Royal Families of Ancient Egypt Thames amp Hudson 2004 ISBN 0 500 05128 3 p 142 157 Dodson Aidan Amarna Sunrise Egypt from Golden Age to Age of Heresy The American University in Cairo Press 2014 Aldred Cyril Akhenaten King of Egypt Thames and Hudson 1991 paperback ISBN 0 500 27621 8 Kemp Barry The City of Akhenaten and Nefertiti Amarna and its People Thames and Hudson 2012 Dodson Aidan Amarna Sunset Nefertiti Tutankhamun Ay Horemheb and the Egyptian Counter reformation The American University in Cairo Press 2009 Seyfried Friederike Editor In the Light of Amarna 100 Years of the Nefertiti Discovery Michael Imhof Verlag 2013 Ertman Earl L and Hoffmeier James K A new fragmentary relief of King Ankhkheperure from Tell el Borg Sinai JEA Vol 94 2008 Murnane William J 1995 Texts from the Amarna Period in Egypt Atlanta Georgia Scholars Press p 78 ISBN 1 55540 965 2