เมฆ เกิดจากการรวมตัวหรือเกาะกลุ่มของไอน้ำ ลอยตัวอยู่ในชั้นบรรยากาศที่เราสามารถมองเห็นได้ เมฆจะเกิดการควบแน่นและตกลงมาเป็นฝน ละอองน้ำ และเกล็ดน้ำแข็ง
ไอน้ำที่ควบแน่นเป็นละอองน้ำ (โดยปกติแล้วจะมีขนาด 0.01 มิลลิเมตร) หรือเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งเมื่อเกาะตัวกันเป็นกลุ่มจะเห็นเป็นก้อนเมฆ ก้อนเมฆนี้สะท้อนคลื่นแสงในแต่ละความยาวคลื่นในช่วงที่ตามองเห็นได้ ในระดับที่เท่า ๆ กัน จึงทำให้เรามองเห็นก้อนเมฆนั้นเป็นสีขาว แต่ ถ้าหากเมฆนั้นมีความหนาแน่นสูงมากจนแสงผ่านไม่ได้ ก็สามารถมองเห็นเป็นสีเทาหรือสีดำได้เช่นกัน
เมฆบนดาวดวงอื่นนั้นประกอบด้วยสารอื่นนอกจากน้ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพบรรยากาศของดาวนั้น และเป็นได้หลายรูปแบบ
เมฆชั้นโทรโพสเฟียร์
แบ่งตามรูปร่างของเมฆ
เมฆนั้นแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ แบบเป็นชั้น (layered) ในแนวนอน และแบบลอยตัวสูงขึ้น (convective) ในแนวตั้ง โดยจะมีชื่อเรียกว่า สเตรตัส (stratus ซึ่งหมายถึงลักษณะเป็นชั้น) และ คิวมูลัส (cumulus ซึ่งหมายถึงทับถมกันเป็นกอง) ตามลำดับ
นอกจากนี้แล้วยังมีคำที่ใช้ในการบอกลักษณะของเมฆ
- สเตรตัส (stratus) หรือ สเตรโต (strato-) หมายถึง ลักษณะเป็นชั้น
- คิวมูลัส (cumulus) หรือ คิวมูโล (cumulo-) หมายถึง ลักษณะเป็นก้อนสุมกัน
- เซอร์รัส (cirrus) หรือ เซอร์โร (cirro-) หมายถึง เมฆชั้นสูง
- อัลโต (alto-) หมายถึง เมฆชั้นกลาง
- นิมบัส (nimbus) หรือ นิมโบ (nimbo-) หมายถึง ฝน
แบ่งตามระดับความสูง
เมฆยังอาจแบ่งเป็น 4 กลุ่มตามระดับความสูงของเมฆ โดยระดับความสูงของเมฆนี้จะวัดจากฐานของก้อนเมฆ ไม่ได้วัดจากยอด โดยลู้ก ฮาวเวิร์ด เป็นผู้นำเสนอวิธีการแบ่งกลุ่มแบบนี้แก่ Askesian Society ใน ค.ศ. 1802
เมฆชั้นสูง
ก่อตัวที่ความสูงมากกว่า 16,500 ฟุต (5,000 เมตร) ในบริเวณที่อุณหภูมิต่ำในชั้นบรรยากาศโทรโพสเฟียร์ ที่ความสูงระดับนี้น้ำส่วนใหญ่นั้นจะแข็งตัว ดังนั้นเมฆจะประกอบด้วยผลึกน้ำแข็ง เมฆในชั้นนี้ส่วนใหญ่มักจะมีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ และมักจะค่อนข้างโปร่งใส เมฆในกลุ่มนี้จะมีชื่อนำหน้าด้วย เซอร์- (cirr-)
ชนิดของเมฆ:
- เซอร์รัส (cirrus - Ci) : Cirrus, Cirrus uncinus, Cirrus Kelvin-Helmholtz เป็นเมฆที่ก่อตัวอยู่ในระดับสูงที่สุด มีลักษณะเป็นเส้น ๆ คล้ายใยไหมหรือเป็นริ้วบาง ๆ หยิกหยองเป็นปอยเหมือนขนนก หรือบางครั้งมองเห็นเป็นริ้วโค้ง ๆ ยาวพาดกลางท้องฟ้า ลอยตัวอยู่ในบรรยากาศระดับสูงมากบนท้องฟ้า อุณหภูมิของอากาศบนนั้นหนาวจัดจนเมฆชนิดนี้ประกอบด้วยผลึกน้ำแข็งขนาดจิ๋วแทนที่จะเป็นหยดน้ำ บางครั้งอาจเรียกว่าเมฆหางม้า เพราะกระแสลมแรงจัดเบื้องบนพัดจนกลุ่มเมฆกระจายออกเป็นริ้วโค้ง ๆ เหมือนกับหางของม้า เมฆเซอร์รัสเป็นที่ปรากฏอยู่สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า บ่งบอกว่าอากาศดีไม่มีฝนตก
- เซอร์โรคิวมูลัส (cirrocumulus - Cc) เกิดจากผลึกน้ำแข็งเป็นเมฆ สีขาวโปร่งแสง บางครั้งจะปรากฏวงแหวนสีสวยงามขึ้นในเมฆเซอร์โรสเตรตัสหรือเมฆอัลโทรสเตรตัสที่อยู่สูง ๆ มีฐานสูงเฉลี่ย 7,000 เมตร มีลักษณะเป็นเกล็ดบาง ๆ หรือเป็นละอองคลื่นเล็ก ๆ อยู่ติดกัน บางตอนอาจแยกจากกัน แต่จะอยู่เรียงรายกันอย่างมีระเบียบ โปร่งแสงอาจมองเห็นดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ได้
- เซอร์โรสเตรตัส (cirrostratus - Cs) เกิดจากผลึกน้ำแข็งเป็นเมฆ สีขาวโปร่งแสง บางครั้งจะปรากฏวงแหวนสีสวยงามขึ้นในเมฆเซอร์โรสเตรตัสหรือเมฆอัลโทรสเตรตัสที่อยู่สูง ๆ มีฐานสูงเฉลี่ย 8,500 เมตร มีลักษณะเป็นแผ่นเยื่อบาง ๆ โปร่งแสงเหมือนม่านติดต่อกันเป็นแผ่นในระดับสูง มีสีขาวหรือน้ำเงินจาง ปกคลุมเต็มท้องฟ้าหรือเพียงบางส่วน เป็นเมฆที่ทำให้เกิดวงแสงสีขาวหรือมีสี (Halo) รอบดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ได้ บ่งบอกว่า ฝนกำลังจะตกในไม่ช้า
- คอนเทรล (Contrail) เป็นเมฆที่เกิดจากความร้อนของเครื่องบินไอพ่น มีลักษณะเป็นเส้นพาดท้องฟ้าตามวิถีการบินของเครื่องบินไอพ่น
เมฆชั้นกลาง
ก่อตัวที่ความสูงระหว่าง 6,500 และ 16,500 ฟุต (ระหว่าง 2,000 และ 5,000 เมตร) เมฆจะประกอบด้วยละอองน้ำ และละอองน้ำเย็นยิ่งยวด ชื่อของเมฆในชั้นนี้จะนำหน้าด้วย อัลโต- (alto-) ชนิดของเมฆ:
- อัลโตคิวมูลัส (altocumulus - Ac) : Altocumulus, Altocumulus undulatus, Altocumulus mackerel sky, Altocumulus castellanus, Altocumulus lenticularis มีลักษณะอยู่เป็นกลุ่ม ๆ คล้ายฝูงแกะ มีสีขาว บางครั้งสีเทา มีการจัดตัวเป็นแถว ๆ หรือเป็นคลื่น เป็นชั้น ๆ มีเงาเมฆมีลักษณะเป็นเกล็ด เป็นก้อนม้วนตัว (roll) อาจมี 2 ชั้นหรือมากกว่าขึ้นไป อาจเกิดพระอาทิตย์ทรงกลด (corona)
- อัลโตสเตรตัส (altostratus - As) : Altostratus, Altostratus undulatus มีลักษณะเป็นแผ่นหนาบางสม่ำเสมอในชั้นกลางของบรรยากาศ มองดูเรียบเป็นปุยหรือฝอยละเอียดแผ่ออกเป็นพืด เป็นลูกคลื่น ปกคลุมเต็มท้องฟ้า มีสีขาว สีเทาอ่อนหรือน้ำเงินอ่อน และอาจมีบางส่วนที่ บางพอที่แสงอาทิตย์จะส่องผ่านลงมายังพื้นดินได้ อาจมีแสงทรงกลด
เมฆชั้นต่ำ
ก่อตัวที่ความสูงต่ำกว่า 6,500 ฟุต (2,000 เมตร) และ รวมถึงสเตรตัส (stratus) เมฆสเตรตัสที่ลอยตัวอยู่ระดับพื้นดินเรียก หมอก
ชนิดของเมฆ:
- สเตรตัส (stratus - St) มีลักษณะเป็นแผ่นหนา ๆ สม่ำเสมอในชั้นต่ำของบรรยากาศ ใกล้ผิวโลกเหมือนหมอก มีสีเทา มองไม่เห็นดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ ไม่ทำให้เกิดวงแสง (halo) เว้นแต่เมื่อมีอุณหภูมิต่ำมากก็อาจเกิดได้
- สเตรโตคิวมูลัส (stratocumulus - Sc) มีสีเทา ลักษณะอ่อนนุ่ม เป็นก้อนกลมเรียงติด ๆ กันทั้งทางแนวตั้ง และทางแนวนอนทำให้มองเห็นเป็นลอนเชื่อมติดต่อกันไป
- นิมโบสเตรตัส (nimbostratus - Ns) มีลักษณะเป็นแผ่นหนาสีเทาดำ เป็นแนวยาวติดต่อกัน แผ่กว้างออกไป ไม่เป็นรูปร่าง เป็นเมฆที่ทำให้เกิดฝนตก จึงเรียกกันว่า "เมฆฝน" เมฆชนิดนี้จะไม่มีฟ้าแลบฟ้าร้อง เกิดเฉพาะในเขตอบอุ่นเท่านั้น
เมฆที่ก่อตัวในแนวตั้ง
เป็นเมฆที่มีแนวก่อตัวในแนวตั้ง ซึ่งทำให้เมฆมีความสูงจากฐาน
- คิวมูโลนิมบัส (cumulonimbus - Cb) : Cumulonimbus, Cumulonimbus incus, Cumulonimbus calvus, Cumulonimbus with mammatus ลักษณะเป็นเมฆก้อนใหญ่รูปร่างคล้ายภูเขาใหญ่ มียอดเมฆแผ่ออกเป็นรูปร่างคล้ายทั่ง (anvil) ฐานเมฆต่ำมีสีดำมืด เป็นเมฆหนา มืดทึบ มีฟ้าแลบ ฟ้าร้อง อาจอยู่กระจัดกระจายหรือรวมกันอยู่ มักมีฝนตกลงมา เรียกเมฆชนิดนี้ว่า "เมฆฟ้าคะนอง"
- คิวมูลัส (cumulus) ลักษณะเป็นเมฆก้อนหนามียอดมนกลมคล้ายกะหล่ำดอก เห็นขอบนอกได้ชัดเจน ส่วนฐานมีสีค่อนข้างดำ ก่อตัวในทางตั้ง กระจัดกระจายเหมือนสำลี ถ้าเกิดขึ้นเป็นหย่อม ๆ หรือลอยอยู่โดดเดี่ยว แสดงถึงสภาวะอากาศดี แดดจัด ถ้ามีขนาดก้อนเมฆใหญ่ ก็อาจมีฝนตกภายใต้ก้อนเมฆ ลักษณะเป็นฝนเฉพาะแห่งและยังเป็นเมฆที่สามารถทำฝนเทียมได้
เมฆชั้นมีโซสเฟียร์แถบขั้วโลก
เมฆชั้นมีโซสเฟียร์แถบขั้วโลกจะก่อตัวในระดับความสูงมาก ๆ ที่ประมาณ 80-85 กิโลเมตร นักอุตนิยมวิทยามักเรียกว่า น็อกติลูเซนต์ หรือเมฆเรืองแสงกลางคืน เนื่องจากแสงประกายของมันที่ระยิบระยับก่อนพระอาทิตย์ขึ้น และหลังพระอาทิตย์ตก เมฆชั้นมีโซสเฟียร์แถบขั้วโลกนั้นจะอยู่สูงที่สุดในบรรยากาศและก่อตัวใกล้ ๆ ขอบชั้นมีโซสเฟียร์ประมาณ 10 เท่าของความสูงเมฆชั้นโทรโพสเฟียร์
สีของเมฆ
สีของเมฆใช้ในการบอกสภาพอากาศได้ เมฆสีเขียวจาง ๆ นั้นเกิดจากการกระเจิงของแสงอาทิตย์เมื่อตกกระทบน้ำแข็ง เมฆคิวมูโลนิมบัสที่มีสีเขียวนั้นบ่งบอกถึงการก่อตัวของพายุฝน พายุลูกเห็บหรือพายุทอร์นาโด เมฆสีเหลืองไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยครั้ง แต่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงช่วงต้นของฤดูใบไม้ร่วงในช่วงที่เกิดไฟป่าได้ง่าย สีเหลืองนั้นเกิดจากฝุ่นควันในอากาศ เมฆสีแดง สีส้มหรือสีชมพูนั้นโดยปกติเกิดในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก เกิดจากการกระเจิงของแสงในชั้นบรรยากาศไม่ได้เกิดจากเมฆโดยตรง เมฆเพียงเป็นตัวสะท้อนแสงนี้เท่านั้น ในกรณีที่มีพายุฝนขนาดใหญ่ในช่วงเดียวกันจะทำให้เห็นเมฆเป็นสีแดงเข้มเหมือนสีเลือด เมฆเกิดจากการรวมตัวหรือเกาะกลุ่มของไอน้ำในที่สุดก็จะเกิดการควบแน่นและตกลงมาเป็นฝน
การพยากรณ์เมฆ
ในวันที่อากาศแจ่มใส จะเห็นเมฆเป็นสีขาว เนื่องจากเกิดการกระเจิงของแสงในทุกช่วงความยาวเมฆ แต่ในวันที่ฝนตก จะเห็นเมฆเป็นสีดำเพราะเมฆลอยต่ำ ทำให้ความสว่างของเมฆข้างล่างไม่เท่ากับข้างบน
อ้างอิง
- * Hamblyn, Richard The Invention of Clouds – How an Amateur Meteorologist Forged the Language of the Skies Picador; Reprint edition (August 3, 2002).
- http://www.ldeo.columbia.edu/news/2006/04_14_06.htm 2016-03-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Could Reducing Global Dimming Mean a Hotter, Dryer World?
- เอาชีวิตรอดในธรรมชาติ (September 2017). พยากรณ์อากาศด้วยตัวเอง (1 ed.). นามมีบุ๊คส์ จำกัด. p. 86. ISBN . สืบค้นเมื่อ February 23, 2022.
แหล่งข้อมูลอื่น
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
emkh ekidcakkarrwmtwhruxekaaklumkhxngixna lxytwxyuinchnbrryakasthierasamarthmxngehnid emkhcaekidkarkhwbaennaelatklngmaepnfn laxxngna aelaekldnaaekhng ixnathikhwbaennepnlaxxngna odypktiaelwcamikhnad 0 01 milliemtr hruxepnekldnaaekhng sungemuxekaatwknepnklumcaehnepnkxnemkh kxnemkhnisathxnkhlunaesnginaetlakhwamyawkhluninchwngthitamxngehnid inradbthietha kn cungthaiheramxngehnkxnemkhnnepnsikhaw aet thahakemkhnnmikhwamhnaaennsungmakcnaesngphanimid ksamarthmxngehnepnsiethahruxsidaidechnkn emkhbndawdwngxunnnprakxbdwysarxunnxkcakna thngnikhunxyukbsphaphbrryakaskhxngdawnn aelaepnidhlayrupaebbemkhchnothrophsefiyrkarcaaenkpraephthkhxngemkhchnothrophsefiyrtamkhwamsungaebngtamruprangkhxngemkh emkhnnaebngepn 2 praephthihy khux aebbepnchn layered inaenwnxn aelaaebblxytwsungkhun convective inaenwtng odycamichuxeriykwa setrts stratus sunghmaythunglksnaepnchn aela khiwmuls cumulus sunghmaythungthbthmknepnkxng tamladb nxkcakniaelwyngmikhathiichinkarbxklksnakhxngemkh setrts stratus hrux setrot strato hmaythung lksnaepnchn khiwmuls cumulus hrux khiwmuol cumulo hmaythung lksnaepnkxnsumkn esxrrs cirrus hrux esxror cirro hmaythung emkhchnsung xlot alto hmaythung emkhchnklang nimbs nimbus hrux nimob nimbo hmaythung fnaebngtamradbkhwamsung emkhyngxacaebngepn 4 klumtamradbkhwamsungkhxngemkh odyradbkhwamsungkhxngemkhnicawdcakthankhxngkxnemkh imidwdcakyxd odyluk hawewird epnphunaesnxwithikaraebngklumaebbniaek Askesian Society in kh s 1802 emkhchnsung emkhesxrrssaybnphsanekhakbemkhesxrorsetrtsaelaemkhesxrorkhiwmulskhwabnbangswn kxtwthikhwamsungmakkwa 16 500 fut 5 000 emtr inbriewnthixunhphumitainchnbrryakasothrophsefiyr thikhwamsungradbninaswnihynncaaekhngtw dngnnemkhcaprakxbdwyphluknaaekhng emkhinchnniswnihymkcamilksnaepnkxnelk aelamkcakhxnkhangoprngis emkhinklumnicamichuxnahnadwy esxr cirr chnidkhxngemkh esxrrs cirrus Ci Cirrus Cirrus uncinus Cirrus Kelvin Helmholtz epnemkhthikxtwxyuinradbsungthisud milksnaepnesn khlayiyihmhruxepnriwbang hyikhyxngepnpxyehmuxnkhnnk hruxbangkhrngmxngehnepnriwokhng yawphadklangthxngfa lxytwxyuinbrryakasradbsungmakbnthxngfa xunhphumikhxngxakasbnnnhnawcdcnemkhchnidniprakxbdwyphluknaaekhngkhnadciwaethnthicaepnhydna bangkhrngxaceriykwaemkhhangma ephraakraaeslmaerngcdebuxngbnphdcnklumemkhkracayxxkepnriwokhng ehmuxnkbhangkhxngma emkhesxrrsepnthipraktxyusungkhunipbnthxngfa bngbxkwaxakasdiimmifntk esxrorkhiwmuls cirrocumulus Cc ekidcakphluknaaekhngepnemkh sikhawoprngaesng bangkhrngcapraktwngaehwnsiswyngamkhuninemkhesxrorsetrtshruxemkhxlothrsetrtsthixyusung mithansungechliy 7 000 emtr milksnaepnekldbang hruxepnlaxxngkhlunelk xyutidkn bangtxnxacaeykcakkn aetcaxyueriyngrayknxyangmiraebiyb oprngaesngxacmxngehndwngxathityhruxdwngcnthrid esxrorsetrts cirrostratus Cs ekidcakphluknaaekhngepnemkh sikhawoprngaesng bangkhrngcapraktwngaehwnsiswyngamkhuninemkhesxrorsetrtshruxemkhxlothrsetrtsthixyusung mithansungechliy 8 500 emtr milksnaepnaephneyuxbang oprngaesngehmuxnmantidtxknepnaephninradbsung misikhawhruxnaengincang pkkhlumetmthxngfahruxephiyngbangswn epnemkhthithaihekidwngaesngsikhawhruxmisi Halo rxbdwngxathityhruxdwngcnthrid bngbxkwa fnkalngcatkinimcha khxnethrl Contrail epnemkhthiekidcakkhwamrxnkhxngekhruxngbinixphn milksnaepnesnphadthxngfatamwithikarbinkhxngekhruxngbinixphnemkhchnklang emkhxlotkhiwmuls kxtwthikhwamsungrahwang 6 500 aela 16 500 fut rahwang 2 000 aela 5 000 emtr emkhcaprakxbdwylaxxngna aelalaxxngnaeynyingywd chuxkhxngemkhinchnnicanahnadwy xlot alto chnidkhxngemkh xlotkhiwmuls altocumulus Ac Altocumulus Altocumulus undulatus Altocumulus mackerel sky Altocumulus castellanus Altocumulus lenticularis milksnaxyuepnklum khlayfungaeka misikhaw bangkhrngsietha mikarcdtwepnaethw hruxepnkhlun epnchn miengaemkhmilksnaepnekld epnkxnmwntw roll xacmi 2 chnhruxmakkwakhunip xacekidphraxathitythrngkld corona xlotsetrts altostratus As Altostratus Altostratus undulatus milksnaepnaephnhnabangsmaesmxinchnklangkhxngbrryakas mxngdueriybepnpuyhruxfxylaexiydaephxxkepnphud epnlukkhlun pkkhlumetmthxngfa misikhaw siethaxxnhruxnaenginxxn aelaxacmibangswnthi bangphxthiaesngxathitycasxngphanlngmayngphundinid xacmiaesngthrngkldemkhchnta phaphthaythangxakaskhxngemkhsetrotkhiwmuls kxtwthikhwamsungtakwa 6 500 fut 2 000 emtr aela rwmthungsetrts stratus emkhsetrtsthilxytwxyuradbphundineriyk hmxk chnidkhxngemkh setrts stratus St milksnaepnaephnhna smaesmxinchntakhxngbrryakas iklphiwolkehmuxnhmxk misietha mxngimehndwngxathityhruxdwngcnthr imthaihekidwngaesng halo ewnaetemuxmixunhphumitamakkxacekidid setrotkhiwmuls stratocumulus Sc misietha lksnaxxnnum epnkxnklmeriyngtid knthngthangaenwtng aelathangaenwnxnthaihmxngehnepnlxnechuxmtidtxknip nimobsetrts nimbostratus Ns milksnaepnaephnhnasiethada epnaenwyawtidtxkn aephkwangxxkip imepnruprang epnemkhthithaihekidfntk cungeriykknwa emkhfn emkhchnidnicaimmifaaelbfarxng ekidechphaainekhtxbxunethannemkhthikxtwinaenwtng emkhkhiwmuolnimbsthiyktwehnuxthaelthrayomhawikhnaplxyfntkhnk epnemkhthimiaenwkxtwinaenwtng sungthaihemkhmikhwamsungcakthan khiwmuolnimbs cumulonimbus Cb Cumulonimbus Cumulonimbus incus Cumulonimbus calvus Cumulonimbus with mammatus lksnaepnemkhkxnihyruprangkhlayphuekhaihy miyxdemkhaephxxkepnruprangkhlaythng anvil thanemkhtamisidamud epnemkhhna mudthub mifaaelb farxng xacxyukracdkracayhruxrwmknxyu mkmifntklngma eriykemkhchnidniwa emkhfakhanxng khiwmuls cumulus lksnaepnemkhkxnhnamiyxdmnklmkhlaykahladxk ehnkhxbnxkidchdecn swnthanmisikhxnkhangda kxtwinthangtng kracdkracayehmuxnsali thaekidkhunepnhyxm hruxlxyxyuoddediyw aesdngthungsphawaxakasdi aeddcd thamikhnadkxnemkhihy kxacmifntkphayitkxnemkh lksnaepnfnechphaaaehngaelayngepnemkhthisamarththafnethiymidemkhchnmiossefiyraethbkhwolkemkhnxktiluesntehnuxpraethsexsoteniy emkhchnmiossefiyraethbkhwolkcakxtwinradbkhwamsungmak thipraman 80 85 kiolemtr nkxutniymwithyamkeriykwa nxktiluesnt hruxemkheruxngaesngklangkhun enuxngcakaesngprakaykhxngmnthirayibraybkxnphraxathitykhun aelahlngphraxathitytk emkhchnmiossefiyraethbkhwolknncaxyusungthisudinbrryakasaelakxtwikl khxbchnmiossefiyrpraman 10 ethakhxngkhwamsungemkhchnothrophsefiyrsikhxngemkhsikhxngemkhichinkarbxksphaphxakasid emkhsiekhiywcang nnekidcakkarkraecingkhxngaesngxathityemuxtkkrathbnaaekhng emkhkhiwmuolnimbsthimisiekhiywnnbngbxkthungkarkxtwkhxngphayufn phayulukehbhruxphayuthxrnaod emkhsiehluxngimkhxyidphbehnbxykhrng aetxacekidkhunidinchwngplayvduibimphliipcnthungchwngtnkhxngvduibimrwnginchwngthiekidifpaidngay siehluxngnnekidcakfunkhwninxakas emkhsiaedng sismhruxsichmphunnodypktiekidinchwngphraxathitykhunaelaphraxathitytk ekidcakkarkraecingkhxngaesnginchnbrryakasimidekidcakemkhodytrng emkhephiyngepntwsathxnaesngniethann inkrnithimiphayufnkhnadihyinchwngediywkncathaihehnemkhepnsiaedngekhmehmuxnsieluxd emkhekidcakkarrwmtwhruxekaaklumkhxngixnainthisudkcaekidkarkhwbaennaelatklngmaepnfnkarphyakrnemkhinwnthixakasaecmis caehnemkhepnsikhaw enuxngcakekidkarkraecingkhxngaesnginthukchwngkhwamyawemkh aetinwnthifntk caehnemkhepnsidaephraaemkhlxyta thaihkhwamswangkhxngemkhkhanglangimethakbkhangbnxangxing Hamblyn Richard The Invention of Clouds How an Amateur Meteorologist Forged the Language of the Skies Picador Reprint edition August 3 2002 ISBN 0 312 42001 3 http www ldeo columbia edu news 2006 04 14 06 htm 2016 03 03 thi ewyaebkaemchchin Could Reducing Global Dimming Mean a Hotter Dryer World exachiwitrxdinthrrmchati September 2017 phyakrnxakasdwytwexng 1 ed nammibukhs cakd p 86 ISBN 978 616 04 3552 4 subkhnemux February 23 2022 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb emkh