ระบบสุริยะได้กำเนิดและดำเนินวิวัฒนาการมาตั้งแต่ประมาณ 4,600 ล้านปีก่อน โดยเริ่มจากการแตกสลายด้วยแรงโน้มถ่วงภายในของเมฆโมเลกุลขนาดยักษ์ มวลส่วนใหญ่ในการแตกสลายครั้งนั้นได้กระจุกรวมกันอยู่บริเวณศูนย์กลาง และกลายมาเป็นดวงอาทิตย์ มวลส่วนที่เหลือวนเวียนโดยรอบมีรูปร่างแบนลง กลายเป็นจานดาวเคราะห์ก่อนเกิด ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของดาวเคราะห์ ดาวบริวาร ดาวเคราะห์น้อย และวัตถุขนาดเล็กอื่นๆ ในระบบสุริยะ
แบบจำลองดังกล่าวมานี้ถือเป็นแบบที่ได้รับการยอมรับทั่วไป เรียกชื่อว่า สมมติฐานเนบิวลา มีการพัฒนาแบบจำลองนี้ขึ้นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดย อิมมานูเอล คานท์ และปีแยร์-ซีมง ลาปลัส การวิวัฒนาการในลำดับถัดมาเกี่ยวข้องกับศาสตร์หลายแขนง เช่น ดาราศาสตร์ ฟิสิกส์ ธรณีวิทยา วิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ นับแต่ยุคเริ่มต้นของการสำรวจอวกาศในคริสต์ทศวรรษ 1950 และการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบในคริสต์ทศวรรษ 1990 แบบจำลองนี้ได้ถูกท้าทายและผ่านการปรับแต่งมาอีกหลายครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการค้นพบใหม่ๆ
ระบบสุริยะได้เริ่มวิวัฒนาการอย่างมากนับตั้งแต่มันเริ่มกำเนิดขึ้น ดาวบริวารหลายดวงกำเนิดขึ้นจากจานของแก๊สและฝุ่นรอบๆดาวเคราะห์แม่ของมัน ขณะที่มีดาวบริวารบางดวงที่เกิดในบริเวณอื่น แล้วถูกดึงดูดให้กลายเป็นดาวบริวารในภายหลัง นอกจากนั้น เช่น ดวงจันทร์ ซึ่งอาจจะกำเนิดหลังจาก การปะทะระหว่างวัตถุสองวัตถุ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และเคยเป็นหัวใจสำคัญของการวิวัฒนาการของระบบสุริยะ ตำแหน่งของดาวเคราะห์มักจะเลื่อนจากตำแหน่งเดิม เนื่องด้วยแรงโน้มถ่วงการย้ายตำแหน่งของดาวเคราะห์นี้คาดว่าจะเกิดขึ้นมากขณะในช่วงต้นของการวิวัฒนาการ
ในช่วงประมาณ 5 พันล้านปีข้างหน้า ดวงอาทิตย์จะเย็นลง และผิวนอกจะขยายตัวออกไปหลายเท่าจากเส้นผ่านศูนย์กลางเดิม (กลายเป็นดาวยักษ์แดง) หลังจากนั้นดาวยักษ์แดงก็จะสลายผิวนอกกลายเป็นเนบิวลาดาวเคราะห์ และเหลือแกนกลางไว้ ซึ่งรู้จักกันว่าเป็น ดาวแคระขาว ในอนาคตอันไกลโพ้น ความโน้มถ่วงระหว่างดาวฤกษ์จะลดลง ดาวเคราะห์บางดวงอาจจะถูกทำลาย บางส่วนอาจจะหลุดออกไปสู่ ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงประมาณหมื่นล้านปีข้างหน้า ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นดาวฤกษ์ที่ไม่มีวัตถุใดโคจรรอบๆเลย
ประวัติ
ความคิดเกี่ยวกับกำเนิดและชะตาของโลกเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีงานเขียนในยุคแรก ๆ ถึงอย่างนั้น ตลอดเวลาในขณะนั้น ยังไม่มีการเชื่อมโยงทฤษฎีเหล่านี้เข้ากับ "ระบบสุริยะ" เพราะขณะนั้นยังไม่มีความคิดว่าระบบสุริยะอย่างที่เราเข้าใจกันทุกวันนี้มีอยู่จริง ก้าวแรกเกี่ยวกับทฤษฎีกำเนิดและวิวัฒนาการระบบสุริยะคือการยอมรับโดยทั่วไปว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ เชื่อกันว่าดวงอาทิตย์ตั้งอยู่ ณ ใจกลางของระบบสุริยะและมีโลกโคจรรอบมัน มีการพัฒนาแนวคิดนี้มาหลายพันปี (เคยเสนอความคิดนี้ในช่วงต้น 250 ปีก่อนคริสตกาล) แต่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 มีการบันทึกว่ามีการใช้คำว่า "ระบบสุริยะ" ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2247
ทฤษฎีปัจจุบันของการกำเนิดของระบบสุริยะ คือ สมมติฐานเนบิวลา ซึ่งมักจะถูกกล่าวถึงนับตั้งแต่ตั้งสมมติฐานนี้ขึ้น โดย อิมมานูเอล คานท์ และปีแยร์-ซีมง ลาปลัส ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ใจความสำคัญของสมมติฐานนี้คือการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดวงอาทิตย์กับดาวเคราะห์ผ่านทางความคลาดเคลื่อนของโมเมนตัมเชิงมุม ถึงอย่างนั้นตั้งแต่ต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1980 การศึกษาเกี่ยวกับดาวฤกษ์ที่อายุน้อยแสดงให้เห็นว่าพวกมันถูกล้อมไปด้วยจานฝุ่นและแก๊สเย็น ตรงตามสิ่งที่สมมติฐานเนบิวลาได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้สมมติฐานนี้ได้รับการยอมรับในเวลาต่อมา
การทำความเข้าใจว่าดวงอาทิตย์จะสามารถวิวัฒนาการต่อไปได้อย่างไรนั้น จะต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งพลังงานต้นกำเนิด การที่ ยืนยันเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพัทธภาพของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ทำให้เขาตระหนักว่าแหล่งพลังงานบนดวงอาทิตย์เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน ที่แกนของดวงอาทิตย์ ซึ่งหลอมรวมไฮโดรเจนเข้ากับฮีเลียม ในปี พ.ศ. 2478 เอดดิงตันได้ศึกษาและเสนอว่าอาจมีธาตุอื่น ๆ ก่อตัวขึ้นในดาวฤกษ์เฟรด ฮอยล์ อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักฐานนี้โดยแย้งว่าดาวยักษ์แดงได้สร้างธาตุเป็นจำนวนมากที่หนักกว่าไฮโดรเจนและฮีเลียมที่แกนกลางของมัน เมื่อดาวยักษ์แดงระเบิดเอาผิวชั้นนอกออกมา ธาตุเหล่านั้นก็จะกลับมาก่อตัวเป็นระบบดาวฤกษ์อื่น ๆ ต่อไป
การก่อตัว
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เนบิวลาก่อนสุริยะ
สมมุติฐานเนบิวลาระบุไว้ว่าระบบสุริยะก่อตัวขึ้นจากการแตกสลายของแรงโน้มถ่วงภายในของพื้นที่ส่วนหนึ่งในเมฆโมเลกุลยักษ์ เมฆนี้มีขนาดประมาณ 20 พาร์เซก (65 ปีแสง) ขณะที่พื้นที่ส่วนหนึ่งมีขนาดแค่ 1 พาร์เซก (3.25 ปีแสง) การแตกสลายหลังจากนั้นได้นำไปสู่การสร้างแกนกลาง ซึ่งมีขนาด 0.01–0.1 พาร์เซก (2,000–20,000 หน่วยดาราศาสตร์) ส่วนหนึ่งของชิ้นส่วนจากการแตกสลาย (หรือเรียกกันว่า เนบิวลาก่อนสุริยะ) ได้ก่อตัวกันเป็นระบบสุริยะ มวลในบริเวณนั้นมีค่าใกล้เคียงกับมวลของดวงอาทิตย์ในปัจจุบัน และในบริเวณนั้นประกอบไปด้วย ไฮโดรเจน ฮีเลียม และลิเทียมจำนวนเล็กน้อย ผลผลิตจากบิกแบงนิวคลีโอซินทีสิส เป็นมวลรวมกัน 98% ของมวลโดยรวมทั้งหมด มวลที่เหลืออีก 2% เป็นมวลของธาตุที่หนักกว่าที่ถูกสร้างขึ้นจากการสังเคราะห์นิวเคลียส ในช่วงแรกๆของการวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ เมื่อเวลาผ่านไป ดาวฤกษ์นั้นจะปล่อยธาตุหนักเหล่านั้นออกมาสู่อวกาศระหว่างดวงดาว
ได้พาไปสู่หลักฐานที่ชี้ถึงการเกิดของวัตถุของแข็งในช่วงเนบิวลาก่อนสุริยะ ซึ่งมีอายุ 4568.2 ล้านปี โดยอายุนี้ยังเป็นนิยามหนึ่งของอายุระบบสุริยะ การศึกษาอุกกาบาตเก่าแก่ได้บ่งชี้ถึงร่องรอยไอโซโทปอายุสั้นเช่น เหล็ก-60 ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากการระเบิดของดาวฤกษ์อายุน้อยเท่านั้น หลักฐานนี้จึงบ่งชี้ว่าเคยมีซูเปอร์โนวาเกิดขึ้นใกล้ดวงอาทิตย์ขณะที่มันกำลังก่อตัว คลื่นกระแทกจากซูเปอร์โนวาเหล่านี้อาจช่วยจุดชนวนการก่อตัวของดวงอาทิตย์ขึ้นโดยทำให้เกิดย่านความหนาแน่นสูงภายในเมฆโมเลกุล และทำให้ย่านนั้นแตกสลายลง และเนื่องจากซูเปอร์โนวาจะเกิดขึ้นได้จากดาวฤกษ์อายุน้อยที่มีมวลมาก ดังนั้นดวงอาทิตย์จะต้องก่อตัวจากย่านกำเนิดดาวขนาดใหญ่ซึ่งสามารถสร้างดาวฤกษ์มวลมากได้ บางทีย่านนั้นอาจจะมีหน้าตาคล้ายคลึงกับเนบิวลานายพรานก็ได้ การศึกษาโครงสร้างของแถบไคเปอร์ และวัตถุอื่นๆที่บ่งบอกว่าดวงอาทิตย์เกิดในกระจุกดาวขนาด 1,000 และ 10,000 ดวงด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 6.5 และ 19.5 ปีแสง และมวลรวมทั้งหมด 3,000 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ กระจุกนี้เริ่มแตกตัวเมื่อผ่านไปในช่วงเวลาระหว่าง 135 ล้าน ถึง 535 ล้านปีหลังจากการก่อตัว แบบจำลองบางแบบของดวงอาทิตย์เยาว์ มีความเกี่ยวข้องกับดาวที่ผ่านมาในระยะใกล้ในช่วง 100 ล้านปีแรกของช่วงชีวิตดวงอาทิตย์ ซึ่งก่อวัตถุที่มีวงโคจรไม่เสถียรบริเวณนอกระบบสุริยะ เช่น
การก่อตัวของดาวเคราะห์
การวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นในภายหลัง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดวงจันทร์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อนาคต
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ความสัมพันธ์กับดาราจักร
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ลำดับเหตุการณ์
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Audrey Bouvier, Meenakshi Wadhwa (2010). "The age of the solar system redefined by the oldest Pb-Pb age of a meteoritic inclusion". Nature Geoscience. 3: 637–641. Bibcode:2010NatGe...3..637B. doi:10.1038/NGEO941.
- Gomes, R.; Levison, Harold F.; Tsiganis, K.; Morbidelli, Alessandro (2005). "Origin of the cataclysmic Late Heavy Bombardment period of the terrestrial planets" (PDF). Nature. 435 (7041): 466–9. Bibcode:2005Natur.435..466G. doi:10.1038/nature03676. PMID 15917802.
- Freeman Dyson (July 1979). "Time Without End: Physics and Biology in an open universe". Reviews of Modern Physics. Institute for Advanced Study, Princeton New Jersey. 51 (3): 447–460. Bibcode:1979RvMP...51..447D. doi:10.1103/RevModPhys.51.447. สืบค้นเมื่อ 2008-04-02.
- "Solar system". Merriam Webster Online Dictionary. 2008. สืบค้นเมื่อ 2008-04-15.
- M. M. Woolfson (1984). "Rotation in the Solar System". Philosophical Transactions of the Royal Society. 313 (1524): 5–18. Bibcode:1984RSPTA.313....5W. doi:10.1098/rsta.1984.0078.
- Nigel Henbest (1991). "Birth of the planets: The Earth and its fellow planets may be survivors from a time when planets ricocheted around the Sun like ball bearings on a pinball table". New Scientist. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-07. สืบค้นเมื่อ 2008-04-18.
- David Whitehouse (2005). The Sun: A Biography. John Wiley and Sons. ISBN .
- Simon Mitton (2005). "Origin of the Chemical Elements". Fred Hoyle: A Life in Science. Aurum. pp. 197–222. ISBN .
- Thierry Montmerle; Jean-Charles Augereau; Marc Chaussidon (2006). "Solar System Formation and Early Evolution: the First 100 Million Years". Earth, Moon, and Planets. Springer. 98 (1–4): 39–95. Bibcode:2006EM&P...98...39M. doi:10.1007/s11038-006-9087-5.
- Ann Zabludoff (University of Arizona) (Spring 2003). "Lecture 13: The Nebular Theory of the origin of the Solar System". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-22. สืบค้นเมื่อ 2006-12-27.
- J. J. Rawal (1986). "Further Considerations on Contracting Solar Nebula" (PDF). Earth, Moon, and Planets. Nehru Planetarium, Bombay India: Springer Netherlands. 34 (1): 93–100. Bibcode:1986EM&P...34...93R. doi:10.1007/BF00054038. สืบค้นเมื่อ 2006-12-27.[]
- W. M. Irvine (1983). "The chemical composition of the pre-solar nebula". ใน T. I. Gombosi (ed.) (บ.ก.). Cometary Exploration. Vol. 1. pp. 3–12. Bibcode:1983coex....1....3I.
{{}}
:|editor=
มีชื่อเรียกทั่วไป ((help)) - Zeilik & Gregory 1998, p. 207.
- Charles H. Lineweaver (2001). "An Estimate of the Age Distribution of Terrestrial Planets in the Universe: Quantifying Metallicity as a Selection Effect". Icarus. 151 (2): 307–313. :astro-ph/0012399. Bibcode:2001Icar..151..307L. doi:10.1006/icar.2001.6607.
- Williams, J. (2010). "The astrophysical environment of the solar birthplace". Contemporary Physics. 51 (5): 381–396. :1008.2973. Bibcode:2010ConPh..51..381W. doi:10.1080/00107511003764725.
- J. Jeff Hester, Steven J. Desch, Kevin R. Healy, Laurie A. Leshin (21 May 2004). "The Cradle of the Solar System". Science. 304 (5674): 1116–1117. Bibcode:2004Sci...304.1116H. doi:10.1126/science.1096808. PMID 15155936.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Martin Bizzarro, David Ulfbeck, Anne Trinquier, Kristine Thrane, James N. Connelly, Bradley S. Meyer (2007). "Evidence for a Late Supernova Injection of 60Fe into the Protoplanetary Disk". Science. 316 (5828): 1178–1181. Bibcode:2007Sci...316.1178B. doi:10.1126/science.1141040. PMID 17525336.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Morgan Kelly. "Slow-Moving Rocks Better Odds That Life Crashed to Earth from Space". News at Princeton. สืบค้นเมื่อ Sep 24, 2012.
- Simon F. Portegies Zwart (2009). "The Lost Siblings of the Sun". Astrophysical Journal. 696 (L13–L16): L13. :0903.0237. Bibcode:2009ApJ...696L..13P. doi:10.1088/0004-637X/696/1/L13.
- Nathan A. Kaib and Thomas Quinn (2008). "The formation of the Oort cloud in open cluster environments". Icarus. 197 (1): 221–238. :0707.4515. Bibcode:2008Icar..197..221K. doi:10.1016/j.icarus.2008.03.020.
แหล่งข้อมูลอื่น
- ภาพเคลื่อนไหวแสดงเหตุการณ์จำลองในอนาคต เมื่อทางช้างเผือกกับแอนดรอเมดาปะทะกัน
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "note" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="note"/>
ที่สอดคล้องกัน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
rabbsuriyaidkaenidaeladaeninwiwthnakarmatngaetpraman 4 600 lanpikxn odyerimcakkaraetkslaydwyaerngonmthwngphayinkhxngemkhomelkulkhnadyks mwlswnihyinkaraetkslaykhrngnnidkracukrwmknxyubriewnsunyklang aelaklaymaepndwngxathity mwlswnthiehluxwnewiynodyrxbmiruprangaebnlng klayepncandawekhraahkxnekid sungepntnkaenidkhxngdawekhraah dawbriwar dawekhraahnxy aelawtthukhnadelkxun inrabbsuriyaphaphwadodysilpin aesdngcandawekhraahkxnekidincintnakar aebbcalxngdngklawmanithuxepnaebbthiidrbkaryxmrbthwip eriykchuxwa smmtithanenbiwla mikarphthnaaebbcalxngnikhunkhrngaerkinkhriststwrrsthi 18 ody ximmanuexl khanth aelapiaeyr simng lapls karwiwthnakarinladbthdmaekiywkhxngkbsastrhlayaekhnng echn darasastr fisiks thrniwithya withyasastrdawekhraah nbaetyukherimtnkhxngkarsarwcxwkasinkhristthswrrs 1950 aelakarkhnphbdawekhraahnxkrabbinkhristthswrrs 1990 aebbcalxngniidthukthathayaelaphankarprbaetngmaxikhlaykhrngephuxihsxdkhlxngkbkarkhnphbihm rabbsuriyaiderimwiwthnakarxyangmaknbtngaetmnerimkaenidkhun dawbriwarhlaydwngkaenidkhuncakcankhxngaeksaelafunrxbdawekhraahaemkhxngmn khnathimidawbriwarbangdwngthiekidinbriewnxun aelwthukdungdudihklayepndawbriwarinphayhlng nxkcaknn echn dwngcnthr sungxaccakaenidhlngcak karpatharahwangwtthusxngwtthu ekidkhunxyangtxenuxngcnthungpccubn aelaekhyepnhwicsakhykhxngkarwiwthnakarkhxngrabbsuriya taaehnngkhxngdawekhraahmkcaeluxncaktaaehnngedim enuxngdwyaerngonmthwngkaryaytaaehnngkhxngdawekhraahnikhadwacaekidkhunmakkhnainchwngtnkhxngkarwiwthnakar inchwngpraman 5 phnlanpikhanghna dwngxathitycaeynlng aelaphiwnxkcakhyaytwxxkiphlayethacakesnphansunyklangedim klayepndawyksaedng hlngcaknndawyksaedngkcaslayphiwnxkklayepnenbiwladawekhraah aelaehluxaeknklangiw sungruckknwaepn dawaekhrakhaw inxnakhtxniklophn khwamonmthwngrahwangdawvkscaldlng dawekhraahbangdwngxaccathukthalay bangswnxaccahludxxkipsu yingipkwann inchwngpramanhmunlanpikhanghna dwngxathitycaklayepndawvksthiimmiwtthuidokhcrrxbelyprawtipiaeyr simng lapls hnunginphuihkaenidsmmtithanenbiwla khwamkhidekiywkbkaenidaelachatakhxngolkekidkhuntngaeterimminganekhiyninyukhaerk thungxyangnn tlxdewlainkhnann yngimmikarechuxmoyngthvsdiehlaniekhakb rabbsuriya ephraakhnannyngimmikhwamkhidwarabbsuriyaxyangthieraekhaicknthukwnnimixyucring kawaerkekiywkbthvsdikaenidaelawiwthnakarrabbsuriyakhuxkaryxmrbodythwipwadwngxathityepnsunyklangkhxngrabbsuriya echuxknwadwngxathitytngxyu n icklangkhxngrabbsuriyaaelamiolkokhcrrxbmn mikarphthnaaenwkhidnimahlayphnpi ekhyesnxkhwamkhidniinchwngtn 250 pikxnkhristkal aetimidrbkaryxmrbxyangkwangkhwangcnthungplaykhriststwrrsthi 17 mikarbnthukwamikarichkhawa rabbsuriya khrngaerkemux ph s 2247 thvsdipccubnkhxngkarkaenidkhxngrabbsuriya khux smmtithanenbiwla sungmkcathukklawthungnbtngaettngsmmtithannikhun ody ximmanuexl khanth aelapiaeyr simng lapls inchwngkhriststwrrsthi 18 ickhwamsakhykhxngsmmtithannikhuxkarxthibaykhwamsmphnthrahwangdwngxathitykbdawekhraahphanthangkhwamkhladekhluxnkhxngomemntmechingmum thungxyangnntngaettnkhristthswrrsthi 1980 karsuksaekiywkbdawvksthixayunxyaesdngihehnwaphwkmnthuklxmipdwycanfunaelaaekseyn trngtamsingthismmtithanenbiwlaidkhadkarniw sungthaihsmmtithanniidrbkaryxmrbinewlatxma karthakhwamekhaicwadwngxathitycasamarthwiwthnakartxipidxyangirnn catxngxasykhwamekhaicekiywkbaehlngphlngngantnkaenid karthi yunynekiywkbthvsdismphththphaphkhxngxlebirt ixnsitn thaihekhatrahnkwaaehlngphlngnganbndwngxathityekidcakptikiriyaniwekhliyrfiwchn thiaeknkhxngdwngxathity sunghlxmrwmihodrecnekhakbhieliym inpi ph s 2478 exddingtnidsuksaaelaesnxwaxacmithatuxun kxtwkhunindawvksefrd hxyl xthibayephimetimekiywkbhlkthanniodyaeyngwadawyksaedngidsrangthatuepncanwnmakthihnkkwaihodrecnaelahieliymthiaeknklangkhxngmn emuxdawyksaedngraebidexaphiwchnnxkxxkma thatuehlannkcaklbmakxtwepnrabbdawvksxun txipkarkxtwswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidenbiwlakxnsuriya smmutithanenbiwlarabuiwwarabbsuriyakxtwkhuncakkaraetkslaykhxngaerngonmthwngphayinkhxngphunthiswnhnunginemkhomelkulyks emkhnimikhnadpraman 20 pharesk 65 piaesng khnathiphunthiswnhnungmikhnadaekh 1 pharesk 3 25 piaesng karaetkslayhlngcaknnidnaipsukarsrangaeknklang sungmikhnad 0 01 0 1 pharesk 2 000 20 000 hnwydarasastr swnhnungkhxngchinswncakkaraetkslay hruxeriykknwa enbiwlakxnsuriya idkxtwknepnrabbsuriya mwlinbriewnnnmikhaiklekhiyngkbmwlkhxngdwngxathityinpccubn aelainbriewnnnprakxbipdwy ihodrecn hieliym aelaliethiymcanwnelknxy phlphlitcakbikaebngniwkhlioxsinthisis epnmwlrwmkn 98 khxngmwlodyrwmthnghmd mwlthiehluxxik 2 epnmwlkhxngthatuthihnkkwathithuksrangkhuncakkarsngekhraahniwekhliys inchwngaerkkhxngkarwiwthnakarkhxngdawvks emuxewlaphanip dawvksnncaplxythatuhnkehlannxxkmasuxwkasrahwangdwngdaw phaphhbebilkhxngcandawekhraahkxnekidinenbiwlanayphran sungkhlaykbcanthidwngxathityekidma idphaipsuhlkthanthichithungkarekidkhxngwtthukhxngaekhnginchwngenbiwlakxnsuriya sungmixayu 4568 2 lanpi odyxayuniyngepnniyamhnungkhxngxayurabbsuriya karsuksaxukkabatekaaekidbngchithungrxngrxyixosothpxayusnechn ehlk 60 sungcaekidkhunidcakkarraebidkhxngdawvksxayunxyethann hlkthannicungbngchiwaekhymisuepxronwaekidkhunikldwngxathitykhnathimnkalngkxtw khlunkraaethkcaksuepxronwaehlanixacchwycudchnwnkarkxtwkhxngdwngxathitykhunodythaihekidyankhwamhnaaennsungphayinemkhomelkul aelathaihyannnaetkslaylng aelaenuxngcaksuepxronwacaekidkhunidcakdawvksxayunxythimimwlmak dngnndwngxathitycatxngkxtwcakyankaeniddawkhnadihysungsamarthsrangdawvksmwlmakid bangthiyannnxaccamihnatakhlaykhlungkbenbiwlanayphrankid karsuksaokhrngsrangkhxngaethbikhepxr aelawtthuxunthibngbxkwadwngxathityekidinkracukdawkhnad 1 000 aela 10 000 dwngdwyesnphansunyklangrahwang 6 5 aela 19 5 piaesng aelamwlrwmthnghmd 3 000 ethakhxngmwldwngxathity kracuknierimaetktwemuxphanipinchwngewlarahwang 135 lan thung 535 lanpihlngcakkarkxtw aebbcalxngbangaebbkhxngdwngxathityeyaw mikhwamekiywkhxngkbdawthiphanmainrayaiklinchwng 100 lanpiaerkkhxngchwngchiwitdwngxathity sungkxwtthuthimiwngokhcrimesthiyrbriewnnxkrabbsuriya echn karkxtwkhxngdawekhraahkarwiwthnakarthiekidkhuninphayhlngswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniiddwngcnthrswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidxnakhtswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidkhwamsmphnthkbdarackrswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidladbehtukarnswnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidduephimsthaniyxyrabbsuriyabikaebng ckrwalwithya kaenidaelawiwthnakarkhxngdarackr wiwthnakarkhxngdawvks esnewlakhxngbikaebng esnewlakhxngxnakhtiklxangxingAudrey Bouvier Meenakshi Wadhwa 2010 The age of the solar system redefined by the oldest Pb Pb age of a meteoritic inclusion Nature Geoscience 3 637 641 Bibcode 2010NatGe 3 637B doi 10 1038 NGEO941 Gomes R Levison Harold F Tsiganis K Morbidelli Alessandro 2005 Origin of the cataclysmic Late Heavy Bombardment period of the terrestrial planets PDF Nature 435 7041 466 9 Bibcode 2005Natur 435 466G doi 10 1038 nature03676 PMID 15917802 Freeman Dyson July 1979 Time Without End Physics and Biology in an open universe Reviews of Modern Physics Institute for Advanced Study Princeton New Jersey 51 3 447 460 Bibcode 1979RvMP 51 447D doi 10 1103 RevModPhys 51 447 subkhnemux 2008 04 02 Solar system Merriam Webster Online Dictionary 2008 subkhnemux 2008 04 15 M M Woolfson 1984 Rotation in the Solar System Philosophical Transactions of the Royal Society 313 1524 5 18 Bibcode 1984RSPTA 313 5W doi 10 1098 rsta 1984 0078 Nigel Henbest 1991 Birth of the planets The Earth and its fellow planets may be survivors from a time when planets ricocheted around the Sun like ball bearings on a pinball table New Scientist khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 07 07 subkhnemux 2008 04 18 David Whitehouse 2005 The Sun A Biography John Wiley and Sons ISBN 978 0 470 09297 2 Simon Mitton 2005 Origin of the Chemical Elements Fred Hoyle A Life in Science Aurum pp 197 222 ISBN 978 1 85410 961 3 Thierry Montmerle Jean Charles Augereau Marc Chaussidon 2006 Solar System Formation and Early Evolution the First 100 Million Years Earth Moon and Planets Springer 98 1 4 39 95 Bibcode 2006EM amp P 98 39M doi 10 1007 s11038 006 9087 5 Ann Zabludoff University of Arizona Spring 2003 Lecture 13 The Nebular Theory of the origin of the Solar System khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 08 22 subkhnemux 2006 12 27 J J Rawal 1986 Further Considerations on Contracting Solar Nebula PDF Earth Moon and Planets Nehru Planetarium Bombay India Springer Netherlands 34 1 93 100 Bibcode 1986EM amp P 34 93R doi 10 1007 BF00054038 subkhnemux 2006 12 27 lingkesiy W M Irvine 1983 The chemical composition of the pre solar nebula in T I Gombosi ed b k Cometary Exploration Vol 1 pp 3 12 Bibcode 1983coex 1 3I a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite conference title aemaebb Cite conference cite conference a editor michuxeriykthwip help Zeilik amp Gregory 1998 p 207 sfn error no target CITEREFZeilikGregory1998 Charles H Lineweaver 2001 An Estimate of the Age Distribution of Terrestrial Planets in the Universe Quantifying Metallicity as a Selection Effect Icarus 151 2 307 313 astro ph 0012399 Bibcode 2001Icar 151 307L doi 10 1006 icar 2001 6607 Williams J 2010 The astrophysical environment of the solar birthplace Contemporary Physics 51 5 381 396 1008 2973 Bibcode 2010ConPh 51 381W doi 10 1080 00107511003764725 J Jeff Hester Steven J Desch Kevin R Healy Laurie A Leshin 21 May 2004 The Cradle of the Solar System Science 304 5674 1116 1117 Bibcode 2004Sci 304 1116H doi 10 1126 science 1096808 PMID 15155936 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Martin Bizzarro David Ulfbeck Anne Trinquier Kristine Thrane James N Connelly Bradley S Meyer 2007 Evidence for a Late Supernova Injection of 60Fe into the Protoplanetary Disk Science 316 5828 1178 1181 Bibcode 2007Sci 316 1178B doi 10 1126 science 1141040 PMID 17525336 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Morgan Kelly Slow Moving Rocks Better Odds That Life Crashed to Earth from Space News at Princeton subkhnemux Sep 24 2012 Simon F Portegies Zwart 2009 The Lost Siblings of the Sun Astrophysical Journal 696 L13 L16 L13 0903 0237 Bibcode 2009ApJ 696L 13P doi 10 1088 0004 637X 696 1 L13 Nathan A Kaib and Thomas Quinn 2008 The formation of the Oort cloud in open cluster environments Icarus 197 1 221 238 0707 4515 Bibcode 2008Icar 197 221K doi 10 1016 j icarus 2008 03 020 aehlngkhxmulxunphaphekhluxnihwaesdngehtukarncalxnginxnakht emuxthangchangephuxkkbaexndrxemdapathaknbthkhwamdarasastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk xangxingphidphlad mipayrabu lt ref gt sahrbklumchux note aetimphbpayrabu lt references group note gt thisxdkhlxngkn