อหิราชสูตร เป็นพระสูตรในจตุกกนิบาต อังคุตตรนิกาย พระสุตตันตปิฎก ของพระไตรปิฎก ตัวพระสูตรนี้มักไม่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง แต่คาถาที่ต่อท้ายพระสูตรได้รับการยกแยกมาเป็นพระปริตรต่างหาก เรียกว่าขันธปริตร อันเป็นพระปริตรที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนแก่ภิกษุทั้งหลาย โดยมุ่งหมายเพื่อแผ่เมตตาให้กับบรรดาอสรพิษตระกูลต่างๆ เพื่อมิให้อสรพิษเหล่านั้นกระทำอันตรายได้ ทั้งนี้ อหิราชสูตรเป็นส่วนหนึ่งของภาณวาร หรือบทสวดมนต์หลวง
มูลเหตุและสถานที่
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงอหิราชสูตร ขณะที่ทรงประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ซึ่งเป็นพระอารามที่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย ตั้งอยู่ใกล้กับพระนครสาวัตถี วันหนึ่ง ภิกษุรูปหนึ่งในกรุงสาวัตถีถูกงูกัดจนมรณภาพ พระองค์ตรัสสว่า " ดูกรภิกษุทั้งหลายภิกษุนั้นชะรอยจะไม่ได้แผ่เมตตาจิตไปยังสกุลพญางูทั้ง 4 เป็นแน่ ก็ถ้าเธอพึงแผ่เมตตาจิตไปยังสกุลพญางูทั้ง 4 ไซร้ เธอก็ไม่พึงถูกงูกัดทำกาละ" จากนั้นจึงทรงแสดงสาระสำคัญของพระสูตร
เนื้อหา
สาระสำคัญของพระสูตรนั้น คือการที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้นมิได้แผ่จิตมีเมตตาไปยังตระกูลแห่งพญางูทั้ง 4 เป็นแน่ ก็ถ้าภิกษุนั้นพึงแผ่จิตมีเมตตาไปยังพญางูทั้ง 4 เธอก็ไม่พึงถูกงูกัดทำกาลกิริยา ตระกูลพญางูทั้ง 4 ก็คือ ตระกูลพญางูชื่อว่า วิรูปักษ์ ตระกูลแห่งพญางูชื่อว่า เอราปถะ ตระกูลพญางูชื่อว่า ฉัพยาบุตร ตระกูลพญางูชื่อว่า กันหาโคตมกะ ภิกษุนั้นมิได้แผ่จิตมีเมตตาไปยังพญางูทั้ง 4 นี้แน่ ก็ถ้าเธอแผ่จิตมีเมตตาไปยังพญางูทั้ง ๔ เหล่านี้ เธอก็จะไม่พึงถูกงูกัดทำกาลกิริยา ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้แผ่จิตอันมีเมตตาไปยังพญางูทั้ง 4 เหล่านี้ เพื่อคุ้มครองตน เพื่อรักษาตน เพื่อป้องกันตน และต่อจากนี้ในพระสูตรได้มีแสดงนิคมคาถาคือคาถาลงท้ายซึ่งใช้เป็นบทสวดตั้งต้นว่า วิรูปกฺเขหิ เม เมตฺตํ เป็นต้น ซึ่งนิคมคาถานี้ก็คือขันธปริตรนั่นเอง
ทั้งนี้ใน มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตตรนิกาย ได้ทำการอธิบายเนื้อความและคำศัพท์ในพุทธพจน์ในพระสูตรนี้เพิ่มเติม อาทิเช่นการอธิบายว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระภิกษุสวดสาธยายพระปริตรนี้เพื่อเป็นการป้องกันตน หรืออธิบายคำว่าเมตตา อันเป็นข้อธรรมสำคัญที่จะทำให้รอดพ้นจากภยันตรายทั้งหลาย รวมถึงอันตรายจากอสรพิษ ดังนี้ว่า "สพฺเพ สตฺตา ความว่า ก่อนแต่นี้ ภิกษุกล่าวเมตตาเจาะจงด้วยฐานะประมาณเท่านี้แล้ว บัดนี้ จึงเริ่มคำนี้ เพื่อกล่าวเมตตาไม่เจาะจง" รวมถึงการกล่าวถึงบทที่เอ่ยถึงพุทธคุณในตอนท้ายว่า "ในบทว่า อปฺปมาโณ พุทฺโธ นี้พึงทราบพุทธคุณว่า พุทฺโธ แท้จริง พุทธคุณเหล่านั้น ชื่อว่าสุดที่จะประมาณได้" ดังนี้ เป็นต้น
อ้างอิง
- พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม 2 - หน้าที่ 214 - 215
- สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช. 2540. อหิราชสูตรบรรยาย
- มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตรนิกาย. หน้า 216
- มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตรนิกาย. หน้า 217
- มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตรนิกาย. หน้า 217
บรรณานุกรม
- พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม 2
- มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตรนิกาย. ใน พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม 2.
- สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช. 2540. อหิราชสูตรบรรยาย ใน นิตยสารธรรมจักษุ ปีที่ 82 ฉบับที่ 2 พฤศจิกายน 2540.
- พระคันธสาราภิวงศ์ (แปล). 2550. บทสวดมนต์พระปริตรธรรม 32. กรุงเทพฯ ไทยรายวันการพิมพ์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xhirachsutr epnphrasutrinctukknibat xngkhuttrnikay phrasuttntpidk khxngphraitrpidk twphrasutrnimkimepnthiruckkninwngkwang aetkhathathitxthayphrasutridrbkarykaeykmaepnphrapritrtanghak eriykwakhnthpritr xnepnphrapritrthismedcphrasmmasmphuththecathrngsxnaekphiksuthnghlay odymunghmayephuxaephemttaihkbbrrdaxsrphistrakultang ephuxmiihxsrphisehlannkrathaxntrayid thngni xhirachsutrepnswnhnungkhxngphanwar hruxbthswdmnthlwngmulehtuaelasthanthismedcphrasmmasmphuththecathrngaesdngxhirachsutr khnathithrngprathbxyu n phrawiharechtwn sungepnphraxaramthithanxnathbinthikesrsthisrangthway tngxyuiklkbphrankhrsawtthi wnhnung phiksuruphnunginkrungsawtthithukngukdcnmrnphaph phraxngkhtrsswa dukrphiksuthnghlayphiksunncharxycaimidaephemttacitipyngskulphyanguthng 4 epnaen kthaethxphungaephemttacitipyngskulphyanguthng 4 isr ethxkimphungthukngukdthakala caknncungthrngaesdngsarasakhykhxngphrasutrenuxhasarasakhykhxngphrasutrnn khuxkarthiphraphumiphraphakhecaidthrngtrswa phiksuthnghlay phiksunnmiidaephcitmiemttaipyngtrakulaehngphyanguthng 4 epnaen kthaphiksunnphungaephcitmiemttaipyngphyanguthng 4 ethxkimphungthukngukdthakalkiriya trakulphyanguthng 4 kkhux trakulphyanguchuxwa wirupks trakulaehngphyanguchuxwa exraptha trakulphyanguchuxwa chphyabutr trakulphyanguchuxwa knhaokhtmka phiksunnmiidaephcitmiemttaipyngphyanguthng 4 niaen kthaethxaephcitmiemttaipyngphyanguthng 4 ehlani ethxkcaimphungthukngukdthakalkiriya phiksuthnghlay eraxnuyatihaephcitxnmiemttaipyngphyanguthng 4 ehlani ephuxkhumkhrxngtn ephuxrksatn ephuxpxngkntn aelatxcakniinphrasutridmiaesdngnikhmkhathakhuxkhathalngthaysungichepnbthswdtngtnwa wirupk ekhhi em emt t epntn sungnikhmkhathanikkhuxkhnthpritrnnexng thngniin monrthpurni xrrthkthaxngkhuttrnikay idthakarxthibayenuxkhwamaelakhasphthinphuththphcninphrasutrniephimetim xathiechnkarxthibaywa smedcphrasmmasmphuththecathrngxnuyatihphraphiksuswdsathyayphrapritrniephuxepnkarpxngkntn hruxxthibaykhawaemtta xnepnkhxthrrmsakhythicathaihrxdphncakphyntraythnghlay rwmthungxntraycakxsrphis dngniwa sph eph st ta khwamwa kxnaetni phiksuklawemttaecaacngdwythanapramanethaniaelw bdni cungerimkhani ephuxklawemttaimecaacng rwmthungkarklawthungbththiexythungphuththkhunintxnthaywa inbthwa xp pmaon phuth oth niphungthrabphuththkhunwa phuth oth aethcring phuththkhunehlann chuxwasudthicapramanid dngni epntnxangxingphraitrpidkchbbmhamkutrachwithyaly phrasuttntpidk xngkhutrnikay ctuknibat elm 2 hnathi 214 215 smedcphrayansngwr smedcphrasngkhrach 2540 xhirachsutrbrryay monrthpurni xrrthkthaxngkhutrnikay hna 216 monrthpurni xrrthkthaxngkhutrnikay hna 217 monrthpurni xrrthkthaxngkhutrnikay hna 217brrnanukrmphraitrpidkchbbmhamkutrachwithyaly phrasuttntpidk xngkhutrnikay ctuknibat elm 2 monrthpurni xrrthkthaxngkhutrnikay in phraitrpidkchbbmhamkutrachwithyaly phrasuttntpidk xngkhutrnikay ctuknibat elm 2 smedcphrayansngwr smedcphrasngkhrach 2540 xhirachsutrbrryay in nitysarthrrmcksu pithi 82 chbbthi 2 phvscikayn 2540 phrakhnthsaraphiwngs aepl 2550 bthswdmntphrapritrthrrm 32 krungethph ithyraywnkarphimph