หลี่ซิน (Li Xin) (จีน: 李信) แม่ทัพใหญ่แห่งรัฐฉินในช่วงยุครณรัฐ เคียงข้างหวังเจี่ยน หวังเปิน เหมิงเถียน และคนอื่นๆ เขาเป็นหนึ่งในแม่ทัพคนสำคัญและมีส่วนในการช่วยฉินฉื่อหฺวังตี้หรือฉินอ๋อง จนสามารถรวบรวมแผ่นดินทั้งหกเป็นปึกแผ่น
หลี่ซิน Li Xin | |
---|---|
แม่ทัพ | |
เกิด | ไม่ทราบ |
ถึงแก่กรรม | ไม่ทราบ |
บิดา | หลี่เหยา |
อาชีพ | ขุนศึก |
ตำแหน่ง | แม่ทัพ |
นอกจากนี้เขายังเป็นบรรพบุรุษรุ่นที่ 5 ของแม่ทัพคนสำคัญในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เจ้าของสมญานาม แม่ทัพเหินหาว หลี กวั่ง และจักรพรรดิของ ราชวงศ์ถัง ทุกพระองค์
ประวัติ
หลี่ซิ่นมีชื่อทางการว่า "โหย่วเฉิง" เขารับราชการเป็นขุนศึกในช่วง (ศตวรรษที่ 5 - 221 ปีก่อนคริสตกาล) เขามาจากเมืองฮวยลี่ (ปัจจุบันคือเมืองซิงผิง มณฑลส่านซี) พ่อของเขาชื่อ (李瑤) เป็นเจ้าเมืองหนานจวิ้น และเป็นขุนนางจากเขตหลินเทา
ในช่วง 228 ปีก่อนคริสตกาล หลี่ซิ่นได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพภายใต้กองบัญชาการสูงสุดของหวังเจี่ยน ซึ่งในขณะนั้นมีการรบทำศึกกับรัฐจ้าว หลี่ซิ่นเดินทัพจากเมืองไท่หยวนรวมพลกับทัพของหวังเจี่ยนเพื่อล้อมกองทัพรัฐจ้าว และทำการปิดล้อมเมืองหานตาน (邯郸) เมืองหลวงของ รัฐจ้าว รัฐจ้าวไม่อาจต้านทานกองทัพที่แข็งแกร่งของทั้งหวังเจี่ยนและหลี่ซินได้ และในที่สุดการรบก็สิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ของรัฐจ้าว
หลังจากชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์นี้ ฉินอ๋องได้มีคำสั่งต่อเนื่องให้กองทัพฉิน นำโดยหวังเจี่ยน เดินทัพไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อโจมตีเมืองจี้เฉิง เมืองหลวงของรัฐเยียน (ปัจจุบันคือเมืองปักกิ่ง) ถึงแม้ว่ารัฐเยียนจะนำกองกำลังออกมาปกป้องตามชายแดนและแม่น้ำขนาดไหนก็ไม่สามารถต่อกรกับกองทัพของฉินได้ เมื่อกองทัพของหวังเจี่ยนมาถึงเมืองจี้เฉิง พระเจ้าซี อ๋องแห่งรัฐเยียน (燕王喜) และองค์ชายไท่จื่อตันผู้เป็นรัชทายาท ได้ตัดสินใจนำกองทัพเยียนตีฝ่าวงล้อมของฉินซึ่งล้อมเมืองจี้เฉิง และนำไพร่หลบหนีไปยังคาบสมุทรเหลียวตงไกลออกไปทางทิศตะวันออก แต่เมื่อฉินอ๋องทราบถึงการหนีไปของพระเจ้าซีและองค์ชายไท่จื่อตัน จึงได้มีคำสั่งด่วนให้หลี่ซิ่นนำกองทัพไล่ล่าตัวทั้งคู่ให้สำเร็จ หลีซิ่นนำกองทัพไล่ล่ากองทัพของพระเจ้าซีและองค์ชายไท่จื่อตันอย่างรวดเร็วและกำราบกองทัพท้ายสุดขององค์ชายไท่จื่อตันลงได้ พระเจ้าซี อ๋องแห่งรัฐเยียน หวาดกลัวกองทัพหลี่ซิ่นที่ไล่ตามมา จึงได้ปรึกษากับจ้าวเจีย ราชนิกูลของรัฐจ้าวที่พึ่งล่มสลายไป จึงได้รับรู้ว่าสาเหตุที่ฉินอ๋องกริ้วหนักถึงขนาดให้กองทัพฉินมาบุกโจมตีรัฐเยียน และส่งหลี่ซิ่นมาไล่ล่าตนและรัชทายาทนั้น เป็นเพราะเจ้าชายไท่จื่อตันเคยแอบส่งมือสังหารจิงเคอไปลอบสังหารฉินอ๋องแต่กระทำไม่สำเร็จ หากอยากรอดชีวิตก็มีทางเดียวคือมอบศีรษะขององค์ชายไท่จือตันให้แก่ฉินอ๋องเพื่อขอขมา ซึ่งอาจทำให้ฉินอ๋องหายกริ้วลงบ้าง แต่ถึงกระนั้นพระเจ้าซีก็ไม่สามารถที่จะทำใจสังหารบุตรของตนตามคำแนะนำนั้นได้ ขณะที่พระเจ้าซีหารือเรื่องดังกล่าวกับข้าราชบริพารอยู่นั้น องค์ชายไท่จื่อตันรู้ตัวว่าตนจะถูกประหารจึงรีบหนีออกจากที่พัก เมื่อพระเจ้าซีรู้ว่าองค์ชายไท่จื่อตันหนีไป อีกทั้งหลี่ซิ่นกำลังจะบุกมาสังหารตน จึงได้รีบหารือกับข้าราชบริพารและวางอุบายหลอกล่อให้องค์ชายกลับมา แล้วสั่งให้ทหารจับตัวและประหารองค์ชายไท่จือตัน ส่งมอบศรีษะไท่จือตันกับมือของหลี่ซิ่น พร้อมด้วยราชสาส์นขอชีวิตตัวเองและข้าราชบริพารไว้ หลี่ซิ่นได้ทำการส่งมอบศีรษะของไท่จือตันกลับไปยังเซียนหยาง เมืองหลวงของรัฐฉิน ฉินอ๋องได้เห็นดังนั้นแล้วจึงพอพระทัย
หลายปีต่อมา รัฐฉิน พิชิตรัฐอื่นไปได้หลายรัฐ ฉินฉื่อหฺวังตี้ หรือ ฉินอ๋อง จึงได้ตัดสินใจวางแผนที่จะพิชิต รัฐฉู่ ทางตอนใต้ให้สำเร็จ ในช่วงเตรียมการรบ ฉินอ๋องมั่นหมายให้หวังเจี่ยนนำทัพไปกำราบ รัฐฉู่ให้สิ้น แต่หวังเจี่ยนขอกำลังพลทหารมากกว่า 600,000 นาย ถึงจะยอมนำทัพไป ด้วยเหตุนี้ทำให้ฉิงอ๋องเริ่มลังเลใจ เพราะลี้พลจำนวน 600,000 นายต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการเคลื่อนทัพและดูแลไพร่พล ฉิงอ๋องจึงได้คิดแผนใหม่เนื่องจากเห็นว่าแผนการของหวังเจี่ยนต้องใช้จำนวนไพร่พลมาก อีกทั้งหวังเจี่ยนแก่ชราลงมาก ความกล้าหาญก็เริ่มน้อยลงตามอายุ จึงได้หันมาสอบถามหลี่ซิ่น ซึ่งเป็นแม่ทัพที่หนุ่มกว่าและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ฉินอ๋องได้สอบถามหลี่ซิ่นว่าจำเป็นต้องใช้ทหารกี่นาย ถึงจะโค่นล้ม รัฐฉู่ ลงได้ ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมเนื่องจากได้เอาชนะศึกทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาได้ ทำให้หลี่ซินทูลกับฉินอ๋องว่า ขอแค่ทหาร 200,000นาย ก็เป็นที่เพียงพอที่จะโค่นล้ม รัฐฉู่ แต่ทว่า หวังเจี่ยน ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวของหลี่ซิ่น หวังเจี่ยนเห็นว่า รัฐฉินควรใช้ทหารมากกว่า 600,000 นาย ถึงจะเพียงพอที่จะโค่นล้ม รัฐฉู่ แต่ทว่าฉิงอ๋องเลือกที่จะเชื่อใจหลี่ซิ่นในครั้งนี้จึงตัดสินใจให้ หลี่ซินเป็นจอมทัพนำกำลังพลกว่า 200,000 นายเข้าโจมตี รัฐฉู่ และมีรองแม่ทัพคือ เมิ่งอู่ (บางตำรากล่าวว่าเป็นเมิ่งเถียนบุตรของเมิ่งอู่เป็นรองแมทัพ) หลี่ซินแบ่งกองทัพออกเป็นสองกลุ่ม หลี่ซิ่นนำทัพ 100,000 บุกโจมตีจากทางใต้ของเมืองหนานจวิ้น อีกทางให้เมิ่งอู่นำทัพอีก 100,000 บุกโจมตีทางตะวันออกเฉียงใต้ของหนานจวิ้น กองทัพรัฐฉิน ไล่ตีกองทัพรัฐฉู่แตกพ่ายยับเยิน จนกระทั่ง อ๋องแห่งฉู่เห็นท่าไม่ดี จึงได้ส่งยอดแม่ทัพ แห่ง รัฐฉู่ นามว่า เซี่ยงเหยี่ยน ยกทัพมาต่อกรกับกองทัพฉินในศึกครั้งนี้
ขณะที่หลี่ซิน และ เมิ่งอู่ กำลังได้ใจและรุกไล่กองทัพของฉู่มาเรื่อยๆ เซี่ยงเหยี่ยนก็ได้ใช้กลศึกหลอกล่อให้ หลี่ซิน และ เมิ่งอู่ รุกไล่ตามตนมา โดยได้มีการส่งกำลังทหารไปวางตั้งทัพรอที่เมืองหนานจวิ้นข้างหลังทัพฉิน และ เกลี้ยกล่อมให้ ชางผิงจวิน ราชนิกูลแคว้นฉู่ซึ่งเป็นถึงอัครมหาเสนาบดี รัฐฉิน ที่อยู่ในเมืองหนานจวิ้น ณ เวลานั้น เห็นแก่บ้านเกิด หักหลังแคว้นฉิน ชางผิงจวินได้ตัดสินใจหักหลังรัฐฉิน และคิดกลอุบายก่อการขึ้นในแนวหลังกองทัพฉินจนปั่นป่วน เมื่อหลี่ซิ่นทราบข่าวที่ ชางผิงจวินทรยศ จึงเจ็บใจอย่างมาก ด้วยความตกใจและด้วยโทสะจึงนำทัพวนกลับมายังแนวหลังกองทัพฉินหลายวันหลายคืนไม่ได้พัก เซี่ยงเหยี่ยนเห็นทหารฉินเหนื่อยล้าจากการเดินทางจึงได้ปลุกใจกองทัพฉู่ว่าหนานจวิ้น เมืองหลวงเก่าของแคว้นฉู่ ได้กลับคืนสู่แคว้นฉู่อีกครั้ง ทหารฉู่มีกำลังใจฮึกเหิม ไล่สังหารทหารฉินที่เหนื่อยล้าเป็นจำนวนมาก กองทัพ 200,000 คนของหลี่ซิ่นพ่ายแพ้หมดรูป ขุนพลใหญ่ทัพฉินตายในที่รบ 7 คน แถมเสียหนานจวิ้นให้แก่ รัฐฉู่ ด้วย หลี่ซิ่นได้ถอยทัพกลับมายัง รัฐฉิน อย่างอดสู เมื่อฉินอ๋องทราบเรื่องจึงได้คิดหาวิธีในการแก้ปัญหานี้โดยการไปอ้อนวอนของให้ หวังเจี่ยน กลับมานำทัพอีกครั้ง หวังเจี่ยนตัดสินใจอยู่นาน แต่สุดท้ายก็รับหน้าที่นำทัพไปบุก รัฐฉู่ โดนนำกองกำลังไพร่พลกว่า 600,000 นาย ไปบุกโจมตี รัฐฉู่ โดยมีรองแม่ทัพคือ เมิ่งอู่ ในศึกสุดท้ายกับ รัฐฉู่ เซี่ยงเหยี่ยนถูกสังหารโดน เมิ่งอู่ และ ชางผิงจวิน (ในตอนนั้นได้กลับมาเป็นอ๋ององค์สุดท้ายของรัฐฉู่) ก็สิ้นชีวิต ณ ศึกครั้งนี้ ทำให้ รัฐฉู่ ได้ล่มสลายในที่สุด
แม้จะพ่ายแพ้ในศึกกับ รัฐฉู่ แต่หลี่ซิ่นก็รอดพ้นจากการถูกประหารอย่างเหลือเชื่อ แถมยังได้รับโอกาสแก้ตัวในการนำทัพ คู่กับแม่ทัพอีกคนนามว่า หวังเปิน (บุตรชายของหวังเจี่ยน) ในยุทธการณ์ถล่ม รัฐฉี และพิชิต รัฐไต้ ที่จ้าวเจียราชนิกูลแคว้นจ้าวหลบหนีไปตั้งรัฐบาลผลัดถิ่นอยู่ ในยุทธการณ์ครั้งนี้ทำให้สามารถจับตัว จ้าวเจียราชนิกูลรัฐจ้าว และ อ๋องแห่ง รัฐฉี ได้สำเร็จ โดยรัฐฉีเป็น รัฐสุดท้ายที่ถูกฉินโค่นล้ม ในที่สุด รัฐฉิน ก็สามารถร่วมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว ใน 221 ปี ก่อนคริสตกาล เป็นปีที่ 26 ในรัชสมัยของ ฉินฉื่อหฺวังตี้
สำหรับความสำเร็จในครั้งนี้ เขาได้รับปูนบำเหน็จโดยให้ตำแหน่งเป็นขุนนางใหญ่ปกครองดินแดนแทบเมืองหลงซี (ปัจจุบันคือ มณฑลกานซู )
หลังสงคราม
หลังจบสงครามการรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งแล้ว เขาได้เกษียณและถูกส่งตัวให้ไปอยู่เมืองหลงซี (ปัจจุบันคือ กานซู) และได้รับรางวัลเป็นตำแหน่งขุนนางใหญ่ปกครองเมือง และ ที่ดินรวมทั้งทรัพย์สินจำนวนมากจากฉินอ๋อง
อ้างอิง
- Sima Qian. (Shiji).
- Loewe, Michael (2000), A Biographical Dictionary of the Qin, Former Han and Xin Periods (221 BC - AD 24) (Handbook of Oriental Studies, 16), Brill Academic Pub,
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hlisin Li Xin cin 李信 aemthphihyaehngrthchininchwngyukhrnrth ekhiyngkhanghwngeciyn hwngepin ehmingethiyn aelakhnxun ekhaepnhnunginaemthphkhnsakhyaelamiswninkarchwychinchuxh wngtihruxchinxxng cnsamarthrwbrwmaephndinthnghkepnpukaephnhlisin Li Xinaemthphekidimthrabthungaekkrrmimthrabbidahliehyaxachiphkhunsuktaaehnngaemthph nxkcakniekhayngepnbrrphburusrunthi 5 khxngaemthphkhnsakhyinsmyrachwngshntawntk ecakhxngsmyanam aemthphehinhaw hli kwng aelackrphrrdikhxng rachwngsthng thukphraxngkhprawtihlisinmichuxthangkarwa ohyweching ekharbrachkarepnkhunsukinchwng stwrrsthi 5 221 pikxnkhristkal ekhamacakemuxnghwyli pccubnkhuxemuxngsingphing mnthlsansi phxkhxngekhachux 李瑤 epnecaemuxnghnancwin aelaepnkhunnangcakekhthlinetha inchwng 228 pikxnkhristkal hlisinidrbkaraetngtngepnaemthphphayitkxngbychakarsungsudkhxnghwngeciyn sunginkhnannmikarrbthasukkbrthcaw hlisinedinthphcakemuxngithhywnrwmphlkbthphkhxnghwngeciynephuxlxmkxngthphrthcaw aelathakarpidlxmemuxnghantan 邯郸 emuxnghlwngkhxng rthcaw rthcawimxactanthankxngthphthiaekhngaekrngkhxngthnghwngeciynaelahlisinid aelainthisudkarrbksinsudlngdwykhwamphayaephkhxngrthcaw hlngcakchychnakhrngprawtisastrni chinxxngidmikhasngtxenuxngihkxngthphchin naodyhwngeciyn edinthphipthangtawnxxkechiyngehnuxephuxocmtiemuxngcieching emuxnghlwngkhxngrtheyiyn pccubnkhuxemuxngpkking thungaemwartheyiyncanakxngkalngxxkmapkpxngtamchayaednaelaaemnakhnadihnkimsamarthtxkrkbkxngthphkhxngchinid emuxkxngthphkhxnghwngeciynmathungemuxngcieching phraecasi xxngaehngrtheyiyn 燕王喜 aelaxngkhchayithcuxtnphuepnrchthayath idtdsinicnakxngthpheyiyntifawnglxmkhxngchinsunglxmemuxngcieching aelanaiphrhlbhniipyngkhabsmuthrehliywtngiklxxkipthangthistawnxxk aetemuxchinxxngthrabthungkarhniipkhxngphraecasiaelaxngkhchayithcuxtn cungidmikhasngdwnihhlisinnakxngthphillatwthngkhuihsaerc hlisinnakxngthphillakxngthphkhxngphraecasiaelaxngkhchayithcuxtnxyangrwderwaelakarabkxngthphthaysudkhxngxngkhchayithcuxtnlngid phraecasi xxngaehngrtheyiyn hwadklwkxngthphhlisinthiiltamma cungidpruksakbcaweciy rachnikulkhxngrthcawthiphunglmslayip cungidrbruwasaehtuthichinxxngkriwhnkthungkhnadihkxngthphchinmabukocmtirtheyiyn aelasnghlisinmaillatnaelarchthayathnn epnephraaecachayithcuxtnekhyaexbsngmuxsngharcingekhxiplxbsngharchinxxngaetkrathaimsaerc hakxyakrxdchiwitkmithangediywkhuxmxbsirsakhxngxngkhchayithcuxtnihaekchinxxngephuxkhxkhma sungxacthaihchinxxnghaykriwlngbang aetthungkrannphraecasikimsamarththicathaicsngharbutrkhxngtntamkhaaenanannid khnathiphraecasiharuxeruxngdngklawkbkharachbripharxyunn xngkhchayithcuxtnrutwwatncathukpraharcungribhnixxkcakthiphk emuxphraecasiruwaxngkhchayithcuxtnhniip xikthnghlisinkalngcabukmasnghartn cungidribharuxkbkharachbripharaelawangxubayhlxklxihxngkhchayklbma aelwsngihthharcbtwaelapraharxngkhchayithcuxtn sngmxbsrisaithcuxtnkbmuxkhxnghlisin phrxmdwyrachsasnkhxchiwittwexngaelakharachbriphariw hlisinidthakarsngmxbsirsakhxngithcuxtnklbipyngesiynhyang emuxnghlwngkhxngrthchin chinxxngidehndngnnaelwcungphxphrathy hlaypitxma rthchin phichitrthxunipidhlayrth chinchuxh wngti hrux chinxxng cungidtdsinicwangaephnthicaphichit rthchu thangtxnitihsaerc inchwngetriymkarrb chinxxngmnhmayihhwngeciynnathphipkarab rthchuihsin aethwngeciynkhxkalngphlthharmakkwa 600 000 nay thungcayxmnathphip dwyehtunithaihchingxxngerimlngelic ephraaliphlcanwn 600 000 naytxngichngbpramancanwnmakinkarekhluxnthphaeladuaeliphrphl chingxxngcungidkhidaephnihmenuxngcakehnwaaephnkarkhxnghwngeciyntxngichcanwniphrphlmak xikthnghwngeciynaekchralngmak khwamklahaykerimnxylngtamxayu cungidhnmasxbthamhlisin sungepnaemthphthihnumkwaaelamiphlnganepnthipracks chinxxngidsxbthamhlisinwacaepntxngichthharkinay thungcaokhnlm rthchu lngid dwykhwammnicetmepiymenuxngcakidexachnasukthangphakhtawnxxkechiyngehnuxmaid thaihhlisinthulkbchinxxngwa khxaekhthhar 200 000nay kepnthiephiyngphxthicaokhnlm rthchu aetthwa hwngeciyn imehndwykbkhaklawkhxnghlisin hwngeciynehnwa rthchinkhwrichthharmakkwa 600 000 nay thungcaephiyngphxthicaokhnlm rthchu aetthwachingxxngeluxkthicaechuxichlisininkhrngnicungtdsinicih hlisinepncxmthphnakalngphlkwa 200 000 nayekhaocmti rthchu aelamirxngaemthphkhux emingxu bangtaraklawwaepnemingethiynbutrkhxngemingxuepnrxngaemthph hlisinaebngkxngthphxxkepnsxngklum hlisinnathph 100 000 bukocmticakthangitkhxngemuxnghnancwin xikthangihemingxunathphxik 100 000 bukocmtithangtawnxxkechiyngitkhxnghnancwin kxngthphrthchin iltikxngthphrthchuaetkphayybeyin cnkrathng xxngaehngchuehnthaimdi cungidsngyxdaemthph aehng rthchu namwa esiyngehyiyn ykthphmatxkrkbkxngthphchininsukkhrngni khnathihlisin aela emingxu kalngidicaelarukilkxngthphkhxngchumaeruxy esiyngehyiynkidichklsukhlxklxih hlisin aela emingxu rukiltamtnma odyidmikarsngkalngthharipwangtngthphrxthiemuxnghnancwinkhanghlngthphchin aela ekliyklxmih changphingcwin rachnikulaekhwnchusungepnthungxkhrmhaesnabdi rthchin thixyuinemuxnghnancwin n ewlann ehnaekbanekid hkhlngaekhwnchin changphingcwinidtdsinichkhlngrthchin aelakhidklxubaykxkarkhuninaenwhlngkxngthphchincnpnpwn emuxhlisinthrabkhawthi changphingcwinthrys cungecbicxyangmak dwykhwamtkicaeladwyothsacungnathphwnklbmayngaenwhlngkxngthphchinhlaywnhlaykhunimidphk esiyngehyiynehnthharchinehnuxylacakkaredinthangcungidplukickxngthphchuwahnancwin emuxnghlwngekakhxngaekhwnchu idklbkhunsuaekhwnchuxikkhrng thharchumikalngichukehim ilsngharthharchinthiehnuxylaepncanwnmak kxngthph 200 000 khnkhxnghlisinphayaephhmdrup khunphlihythphchintayinthirb 7 khn aethmesiyhnancwinihaek rthchu dwy hlisinidthxythphklbmayng rthchin xyangxdsu emuxchinxxngthraberuxngcungidkhidhawithiinkaraekpyhaniodykaripxxnwxnkhxngih hwngeciyn klbmanathphxikkhrng hwngeciyntdsinicxyunan aetsudthaykrbhnathinathphipbuk rthchu odnnakxngkalngiphrphlkwa 600 000 nay ipbukocmti rthchu odymirxngaemthphkhux emingxu insuksudthaykb rthchu esiyngehyiynthuksngharodn emingxu aela changphingcwin intxnnnidklbmaepnxxngxngkhsudthaykhxngrthchu ksinchiwit n sukkhrngni thaih rthchu idlmslayinthisud aemcaphayaephinsukkb rthchu aethlisinkrxdphncakkarthukpraharxyangehluxechux aethmyngidrboxkasaektwinkarnathph khukbaemthphxikkhnnamwa hwngepin butrchaykhxnghwngeciyn inyuththkarnthlm rthchi aelaphichit rthit thicaweciyrachnikulaekhwncawhlbhniiptngrthbalphldthinxyu inyuththkarnkhrngnithaihsamarthcbtw caweciyrachnikulrthcaw aela xxngaehng rthchi idsaerc odyrthchiepn rthsudthaythithukchinokhnlm inthisud rthchin ksamarthrwmaephndinepnhnungediyw in 221 pi kxnkhristkal epnpithi 26 inrchsmykhxng chinchuxh wngti sahrbkhwamsaercinkhrngni ekhaidrbpunbaehncodyihtaaehnngepnkhunnangihypkkhrxngdinaednaethbemuxnghlngsi pccubnkhux mnthlkansu hlngsngkhramhlngcbsngkhramkarrwmaephndinepnhnungaelw ekhaideksiynaelathuksngtwihipxyuemuxnghlngsi pccubnkhux kansu aelaidrbrangwlepntaaehnngkhunnangihypkkhrxngemuxng aela thidinrwmthngthrphysincanwnmakcakchinxxngxangxingSima Qian Shiji Loewe Michael 2000 A Biographical Dictionary of the Qin Former Han and Xin Periods 221 BC AD 24 Handbook of Oriental Studies 16 Brill Academic Pub ISBN 9004103643