บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
วัดไร่ขิง เป็นวัดสำคัญตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำท่าจีน (เรียกอีกชื่อว่าแม่น้ำนครชัยศรี) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย สร้างโดย "สมเด็จพระพุทธฒาจารย์ (พุก)" มีหลวงพ่อวัดไร่ขิงซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นพระประธาน ที่ชาวนครปฐมเคารพนับถือ เดิมเป็นวัดราษฏร์ ต่อมาจึงยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2533
วัดไร่ขิง | |
---|---|
ที่ตั้ง | ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม |
ประเภท | พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ |
นิกาย | มหานิกาย |
พระพุทธรูปสำคัญ | หลวงพ่อวัดไร่ขิง |
เจ้าอาวาส | พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตตินฺธโร ป.ธ.๓) |
ส่วนหนึ่งของ |
ประวัติ
คนรุ่นเก่าได้เล่าสืบต่อกันมาว่า วัดไร่ขิงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2394 โดยพระธรรมราชานุวัตร (พุก) ชาวเมืองนครชัยศรี มณฑลนครชัยศรี (ต่อมา ท่านได้รับสถาปนาสมศักดิ์เป็น สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก)) ในขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร ท่านได้กลับมาสร้างวัดไร่ขิงและวัดดอนหวาย ซึ่งเป็นบ้านโยมบิดาและมารดาของท่าน แต่ยังไม่แล้วเสร็จ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) มรณภาพเมื่อปี วอก พ.ศ. 2427 รวมสิริอายุ 91 ปี พระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 9 เมษายน ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม 10 ค่ำ เดือน 5 ปีระกา พ.ศ. 2428 ในการนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร มาพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุพิเศษวัดศาลาปูน ดังนั้น งานทุกอย่างจึงตกเป็นภาระของพระธรรมราชานุวัตร (อาจ จนฺทโชโต) เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนรูปที่ 6 ซึ่งเป็นหลานชายของท่าน” แต่ไม่ทราบว่าท่านกลับมาปฏิสังขรณ์วัดเมื่อใดหรือท่านอาจจะมาในปี พ.ศ. 2453 ตอนที่ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระธรรมราชานุวัตรก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุ 75 ปี และเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาปูนรูปที่ 6 ต่อจากสมเด็จพุฒาจารย์ (พุก) อย่างไรก็ตาม ในการปฏิสังขรณ์วัดไร่ขิงในสมัยท่านอยู่ประมาณปี พ.ศ. 2427 หรือ 2453 เป็นต้นมา
สำหรับชื่อวัดนั้น มีเรื่องเล่าว่า พื้นที่วัดในอดีตมีชาวจีนปลูกบ้านอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมากและชาวจีนที่มาปลูกบ้านอาศัยในบริเวณดังกล่าวก็นิยมปลูกขิงกันอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านหรือชุมชนในแถบนี้ว่า “ไร่ขิง” นั่นเอง ต่อมาเมื่อมีชุมชนหนาแน่นมากยิ่งขึ้นจึงได้มีการสร้างวัดเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ดังนั้น วัดจึงได้ชื่อตามชื่อของหมู่บ้านหรือชุมชนว่า “วัดไร่ขิง”
ในราวปี พ.ศ. 2446 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ เสด็จตรวจเยี่ยมวัดในเขตอำเภอสามพราน สมเด็จฯ ได้เสด็จมาที่วัดไร่ขิง และทรงตั้งชื่อวัดใหม่ว่า “วัดมงคลจินดาราม” ทั้งทรงใส่วงเล็บชื่อเดิมต่อท้ายจึงกลายเป็น “วัดมงคลจินดาราม (ไร่ขิง)” เมื่อเวลาผ่านพ้นมานานและคงเป็นเพราะความกร่อนของภาษาจีนทำให้วงเล็บหายไป คงเหลือเพียงคำว่า “ไร่ขิง” ต่อท้ายคำว่า “มงคลจินดาราม” จึงต้องเขียนว่า “วัดมงคลจินดาราม-ไร่ขิง” แต่ในทางราชการยังคงใช้ชื่อเดิมเพียงว่า “วัดไร่ขิง” สืบมาจนทุกวันนี้
หลวงพ่อวัดไร่ขิง
องค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิ้วเศษ สูง 4 ศอก 16 นิ้วเศษ ประดิษฐานอยู่บนฐานอยู่บนฐานชุกชี 5 ชั้น เบื้องหน้าผ้าทิพย์ปูทอดลงมาองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายในอุโบสถ หันพระพักตร์ไปทางทิศอุดร (ทิศเหนือ) ซึ่งหน้าวัดมีแม่น้ำนครชัยศรีหรือแม่น้ำท่าจีนไหลผ่าน จากหนังสือประวัติของวัดไร่ขิงได้กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อัญเชิญมาจากวัดศาลาปูน โดยนำล่องมาทางน้ำด้วยการทำแพไม้ไผ่หรือที่เรียกกันว่าแพลูกบวบรองรับองค์พระปฏิมากรณ์ เมื่อถึงหน้าวัดไร่ขิงจึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ภายในอุโบสถ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งเป็นวันสงกรานต์พอดีจึงมีประชาชนจำนวนมากมาชุมนุมกัน ในขณะที่อัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้นจากแพ สู่ปะรำพิธีได้เกิดอัศจรรย์แสงแดดที่แผดจ้ากลับพลันหายไป ความร้อนระอุในวันสงกรานต์ก็บังเกิดมีเมฆดำมืดทะมึน ลมปั่นป่วน ฟ้าคะนอง และบันดาลให้มีฝนโปรยลงมาทำให้เกิดความเย็นฉ่ำและเกิดความปิติ ยินดีกันโดยทั่วหน้า ประชาชนที่มาต่างก็พากันตั้งจิตรอธิษฐานเป็นหนึ่งเดียวกัน ว่า “หลวงพ่อจะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ดับความร้อนร้ายคลายความทุกข์ให้หมดไป ดุจสายฝนที่เมทนีดลให้ชุ่มฉ่ำ เจริญงอกงามด้วยธัญญาหารฉะนั้น” ดังนั้น วันดังกล่าวที่ตรงกับวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของคนไทย ทางวัดจึงได้ถือเป็นวันสำคัญ และได้จัดให้มีงานเทศกาลนมัสการปิดทองประจำปีหลวงพ่อวัดไร่ขิง สืบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ตำนานหลวงพ่อวัดไร่ขิงนั้นจากคำบอกเล่าสืบต่อกันมา หรือที่เรียกว่า "มุขปาฐะ" มีหลายตำนาน ดังนี้
- ตำนานที่ 1 ครั้งเมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์(พุก)ชาวเมืองนครชัยศรี ได้มาตรวจเยี่ยมวัดในเขตอำเภอสามพราน ได้เข้าไปในพระอุโบสถวัดไร่ขิง หลังจากกราบพระประธานแล้ว มีความเห็นว่าพระประธานมีขนาดเล็กเกินไป จึงบอกให้ท่านเจ้าอาวาสพร้อมชาวบ้านไปอัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยวางลงบนแบบไม้ไผ่และนำล่องมาตามลำน้ำและอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกับวันพระขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 วันสงกรานต์พอดี
- ตำนานที่ 2 วัดไร่ขิงสร้างเมื่อปีกุน พุทธศักราช 2394 ตรงกับปีสุดท้ายในรัชกาลที่ 3 ต้นปี ในรัชกาลที่ 4 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก)ซึ่งเป็นชาวเมืองนครชัยศรี ในขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะที่ "พระธรรมราชานุวัตร" ปกครองอยู่ที่วัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้กลับมาสร้างวัดที่บ้านเกิดของตนที่ไร่ขิง เมื่อสร้างพระอุโบสถเสร็จแล้วจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูป
สำคัญองค์หนึ่งจากกรุงเก่า ( จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ) มาเพื่อประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถแต่การสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ท่านได้มรณภาพเสียก่อน ส่วนงานที่เหลืออยู่พระธรรมราชานุวัตร(อาจ จนฺทโชโต) หลานชายของท่านจึงดำเนินงานต่อจนเรียบร้อย และบูรณะดูแลมาโดยตลอดจนถึงแก่มรณภาพ
- ตำนานที่ 3 ตามตำนานเป็นเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับมีพระพุทธรูปลอยน้ำมา 5 องค์ก็มี 3 องค์ก็มีโดยเฉพาะในเรื่องที่เล่าว่ามี 5 องค์นั้น ตรงกับคำว่า " ปัญจภาคี ปาฏิหาริยกสินธุ์โน " ซึ่งได้มีการเล่าเป็นนิทานว่า ในกาลครั้งหนึ่ง มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน ได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาจนสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล ชั้นโสดาบัน มีฤทธิ์อำนาจทางจิตมากได้พร้อมใจกันตั้งสัตย์อธิษฐานว่า เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยให้สัตว์โลกได้พ้นทุกข์ แม้จะตายไปแล้ว ก็จะขอสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้ได้พ้นทุกข์ต่อไปจนกว่าจะถึงพระนิพานครั้งพระอริยบุคคลทั้ง 5 องค์ ได้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าไปสถิตในพระพุทธรูปทั้ง 5 องค์จะมีความปรารถนาที่จะช่วยคนทางเมืองใต้ที่อยู่ติดแม่น้ำให้ได้พ้นทุกข์ จึงได้พากันลอยน้ำลงมาตามลำน้ำทั้ง 5 สาย เมื่อชาวบ้านตามเมืองที่อยู่ริมแม่น้ำเห็นเข้า จึงได้อัญเชิญและประดิษฐานไว้ตามวัดต่างๆ มีดังนี้
- พระพุทธรูปองค์ที่ 1 ลอยไปตามแม่น้ำบางปะกง ขึ้นสถิตที่วัดโสธรวรวิหาร เมืองแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกกันว่า "หลวงพ่อโสธร"
- พระพุทธรูปองค์ที่ 2 ลอยไปตามแม่น้ำนครชัยศรี (ท่าจีน) ขึ้นสถิตที่วัดไร่ขิง เมืองนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เรียกกันว่า "หลวงพ่อวัดไร่ขิง"
- พระพุทธรูปองค์ที่ 3 ลอยไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสถิตที่วัดบางพลี เรียกกันว่า "หลวงพ่อวัดบางพลี" แต่บางตำนานก็ว่า หลวงพ่อวัดบางพลีเป็นองค์แรกในจำนวน 5 องค์ จึงเรียกว่า "หลวงพ่อโตวัดบางพลี "
- พระพุทธรูปองค์ที่ 4 ลอยไปตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นสถิตที่วัดบ้านแหลม เมืองแม่กลอง เรียกว่า "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม"
- พระพุทธรูปองค์ที่ 5 ลอยไปตามแม่น้ำเพชรบุรี ขึ้นสถิตที่วัดเขาตะเคราเมืองเพชรบุรี เรียกว่า "หลวงพ่อวัดเขาตะเครา"
ส่วนตำนานของเมืองนครปฐมนั้นเล่าว่า มีพระ 3 องค์ ลอยน้ำมาพร้อมกัน และแสดงปาฏิหาริย์จะเข้าไปยังบ้านศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ จึงได้เรียกตำบลนั้นว่า "บางพระ" พระพุทธรูป 3 องค์ลอยไปจนถึงปากน้ำท่าจีนแล้วกลับลอยทวนน้ำขึ้นมาใหม่ จึงเรียกตำบลนั้นว่า "สามประทวน" หรือ "สัมปทวน" แต่เนื่องจากตำบลที่ชาวบ้านพากันไปชักพระขึ้นฝั่งเพื่อขึ้นประดิษฐาน ณ หมู่บ้านของตน แต่ทำไม่สำเร็จ ต้องเปียกฝนและตากแดดตากลมจึงได้ชื่อว่า "บ้านลานตากฟ้า" และ "บ้านตากแดด" ในที่สุดพระพุทธรูปองค์แรกจึงยอมสถิต ณ วัดไร่ขิงเรียกกันว่า "หลวงพ่อวัดไร่ขิง" ส่วนองค์ที่ 2 ลอยน้ำไปแล้วสถิตขึ้นที่วัดบ้านแหลมจังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม" และองค์ที่ 3 ลอยตามน้ำไปตามจังหวัดเพชรบุรี แล้วขึ้นสถิตที่วัดเขาตะเครา เรียกว่า "หลวงพ่อวัดเขาตะเครา" แต๋น
อ้างอิง
- หนังสืองานนมัสการปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิง ปี พ.ศ. 2533
- Kritwat-Talk (2009-11-13). "ประวัติวัดไร่ขิงและหลวงพ่อวัดไร่ขิง – วัดดังแห่งนครปฐม". Oknation.
- . จังหวัดนครปฐม. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-18. สืบค้นเมื่อ 2021-04-18.
- "จากวัดไร่ขิงถึงวัดดอนหวาย ทริปพอเพียงแต่เพลิดเพลิน". ผู้จัดการออนไลน์. 2007-06-27.
แหล่งข้อมูลอื่น
- "วัดไร่ขิง". การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamnihruxswnnikhxngbthkhwamtxngkarprbrupaebb sungxachmaythung txngkarcdrupaebbkhxkhwam cdhna aebnghwkhx cdlingkphayin aela hruxkarcdraebiybxun khunsamarthchwyaekikhpyhaniidodykarkdthipum aekikh danbn caknnprbprunghruxcdrupaebbxun inbthkhwamihehmaasm wdirkhing epnwdsakhytngxyuthirimaemnathacin eriykxikchuxwaaemnankhrchysri tablirkhing xaephxsamphran cnghwdnkhrpthm sngkdkhnasngkhfaymhanikay srangody smedcphraphuthththacary phuk mihlwngphxwdirkhingsungepnphraphuththruppangmarwichyepnphraprathan thichawnkhrpthmekharphnbthux edimepnwdrastr txmacungykthanakhunepnphraxaramhlwngchntri chnidsamy emuxwnthi 10 krkdakhm ph s 2533wdirkhingthitngtablirkhing xaephxsamphran cnghwdnkhrpthmpraephthphraxaramhlwngchntri chnidsamynikaymhanikayphraphuththrupsakhyhlwngphxwdirkhingecaxawasphrathrrmwchiranuwtr aeym kittin thor p th 3 swnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnaprawtikhnrunekaidelasubtxknmawa wdirkhingsrangkhunemuxpi ph s 2394 odyphrathrrmrachanuwtr phuk chawemuxngnkhrchysri mnthlnkhrchysri txma thanidrbsthapnasmskdiepn smedcphraphuthacary phuk inkhnannthandarngtaaehnngepnecaxawaswdsalapunwrwihar thanidklbmasrangwdirkhingaelawddxnhway sungepnbanoymbidaaelamardakhxngthan aetyngimaelwesrc smedcphraphuthacary phuk mrnphaphemuxpi wxk ph s 2427 rwmsirixayu 91 pi phrarachthanephlingsph emuxwnthi 9 emsayn trngkbwnphvhsbdi aerm 10 kha eduxn 5 piraka ph s 2428 inkarniphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwidesdcphrarachdaeninphrxmdwysmedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchirunhis syammkudrachkumar maphrarachthanephlingsph n emruphiesswdsalapun dngnn nganthukxyangcungtkepnpharakhxngphrathrrmrachanuwtr xac cn thochot ecaxawaswdsalapunrupthi 6 sungepnhlanchaykhxngthan aetimthrabwathanklbmaptisngkhrnwdemuxidhruxthanxaccamainpi ph s 2453 txnthithanideluxnsmnskdiepnphrathrrmrachanuwtrkxacepnipid sungkhnannthanmixayu 75 pi aelaepnecaxawaswdsalapunrupthi 6 txcaksmedcphuthacary phuk xyangirktam inkarptisngkhrnwdirkhinginsmythanxyupramanpi ph s 2427 hrux 2453 epntnma sahrbchuxwdnn mieruxngelawa phunthiwdinxditmichawcinplukbanxasyxyuknepncanwnmakaelachawcinthimaplukbanxasyinbriewndngklawkniymplukkhingknxyangaephrhlay cnklayepnthimakhxngchuxhmubanhruxchumchninaethbniwa irkhing nnexng txmaemuxmichumchnhnaaennmakyingkhuncungidmikarsrangwdephuxepncudsunyrwmcitickhxngchawban dngnn wdcungidchuxtamchuxkhxnghmubanhruxchumchnwa wdirkhing inrawpi ph s 2446 smedcphramhasmneca krmphrayawchiryanworrs wdbwrniewswihar krungethph esdctrwceyiymwdinekhtxaephxsamphran smedc idesdcmathiwdirkhing aelathrngtngchuxwdihmwa wdmngkhlcindaram thngthrngiswngelbchuxedimtxthaycungklayepn wdmngkhlcindaram irkhing emuxewlaphanphnmananaelakhngepnephraakhwamkrxnkhxngphasacinthaihwngelbhayip khngehluxephiyngkhawa irkhing txthaykhawa mngkhlcindaram cungtxngekhiynwa wdmngkhlcindaram irkhing aetinthangrachkaryngkhngichchuxedimephiyngwa wdirkhing submacnthukwnnihlwngphxwdirkhingwdirkhing phraxaramhlwng xngkhhlwngphxwdirkhingepnphraphuththruppangmarwichy khnadhnatkkwang 4 sxk 2 niwess sung 4 sxk 16 niwess pradisthanxyubnthanxyubnthanchukchi 5 chn ebuxnghnaphathiphyputhxdlngmaxngkhhlwngphxwdirkhingpradisthanepnphraprathanxyuphayinxuobsth hnphraphktripthangthisxudr thisehnux sunghnawdmiaemnankhrchysrihruxaemnathacinihlphan cakhnngsuxprawtikhxngwdirkhingidklawiwwa smedcphraphuthacary phuk idxyechiymacakwdsalapun odynalxngmathangnadwykarthaaephimiphhruxthieriykknwaaephlukbwbrxngrbxngkhphraptimakrn emuxthunghnawdirkhingcungidxyechiykhunpradisthaniwphayinxuobsth trngkbwnkhun 15 kha eduxn 5 sungepnwnsngkrantphxdicungmiprachachncanwnmakmachumnumkn inkhnathixyechiyxngkhhlwngphxkhuncakaeph suparaphithiidekidxscrryaesngaeddthiaephdcaklbphlnhayip khwamrxnraxuinwnsngkrantkbngekidmiemkhdamudthamun lmpnpwn fakhanxng aelabndalihmifnoprylngmathaihekidkhwameynchaaelaekidkhwampiti yindiknodythwhna prachachnthimatangkphakntngcitrxthisthanepnhnungediywkn wa hlwngphxcathaihekidkhwamrmeynepnsukh dbkhwamrxnraykhlaykhwamthukkhihhmdip ducsayfnthiemthnidlihchumcha ecriyngxkngamdwythyyaharchann dngnn wndngklawthitrngkbwnsngkranthruxwnkhunpiihmkhxngkhnithy thangwdcungidthuxepnwnsakhy aelaidcdihminganethskalnmskarpidthxngpracapihlwngphxwdirkhing subtxmacnthungthukwnnitananhlwngphxwdirkhingnncakkhabxkelasubtxknma hruxthieriykwa mukhpatha mihlaytanan dngni tananthi 1 khrngemuxsmedcphraphuthacary phuk chawemuxngnkhrchysri idmatrwceyiymwdinekhtxaephxsamphran idekhaipinphraxuobsthwdirkhing hlngcakkrabphraprathanaelw mikhwamehnwaphraprathanmikhnadelkekinip cungbxkihthanecaxawasphrxmchawbanipxyechiymacakwdsalapun cnghwdphrankhrsrixyuthya odywanglngbnaebbimiphaelanalxngmatamlanaaelaxyechiykhunpradisthaninphraxuobsth trngkbwnphrakhun 15 kha eduxn 5 wnsngkrantphxditananthi 2 wdirkhingsrangemuxpikun phuththskrach 2394 trngkbpisudthayinrchkalthi 3 tnpi inrchkalthi 4 smedcphraphuthacary phuk sungepnchawemuxngnkhrchysri inkhnanndarngsmnskdiphrarachakhnathi phrathrrmrachanuwtr pkkhrxngxyuthiwdsalapunwrwihar cnghwdphrankhrsrixyuthyaidklbmasrangwdthibanekidkhxngtnthiirkhing emuxsrangphraxuobsthesrcaelwcungidxyechiyphraphuththrup sakhyxngkhhnungcakkrungeka cnghwdphrankhrsrixyuthya maephuxpradisthaniwinphraxuobsthaetkarsrangyngimaelwesrcsmburn thanidmrnphaphesiykxn swnnganthiehluxxyuphrathrrmrachanuwtr xac cn thochot hlanchaykhxngthancungdaeninngantxcneriybrxy aelaburnaduaelmaodytlxdcnthungaekmrnphaph tananthi 3 tamtananepneruxngrawthielasubtxknmaekiywkbmiphraphuththruplxynama 5 xngkhkmi 3 xngkhkmiodyechphaaineruxngthielawami 5 xngkhnn trngkbkhawa pycphakhi patihariyksinthuon sungidmikarelaepnnithanwa inkalkhrnghnung miphinxngchawemuxngehnux 5 khn idbwchepnphraphiksuinphraphuththsasnacnsaercepnphraxriybukhkhl chnosdabn mivththixanacthangcitmakidphrxmickntngstyxthisthanwa ekidmachatinicakhxbaephybarmichwyihstwolkidphnthukkh aemcatayipaelw kcakhxsrangbarmichwystwolkihidphnthukkhtxipcnkwacathungphraniphankhrngphraxriybukhkhlthng 5 xngkh iddbkhnthipaelw kekhaipsthitinphraphuththrupthng 5 xngkhcamikhwamprarthnathicachwykhnthangemuxngitthixyutidaemnaihidphnthukkh cungidphaknlxynalngmatamlanathng 5 say emuxchawbantamemuxngthixyurimaemnaehnekha cungidxyechiyaelapradisthaniwtamwdtang midngni phraphuththrupxngkhthi 1 lxyiptamaemnabangpakng khunsthitthiwdosthrwrwihar emuxngaepdriw cnghwdchaechingethra eriykknwa hlwngphxosthr phraphuththrupxngkhthi 2 lxyiptamaemnankhrchysri thacin khunsthitthiwdirkhing emuxngnkhrchysri cnghwdnkhrpthm eriykknwa hlwngphxwdirkhing phraphuththrupxngkhthi 3 lxyiptamaemnaecaphrayakhunsthitthiwdbangphli eriykknwa hlwngphxwdbangphli aetbangtanankwa hlwngphxwdbangphliepnxngkhaerkincanwn 5 xngkh cungeriykwa hlwngphxotwdbangphli phraphuththrupxngkhthi 4 lxyiptamaemnaaemklxng khunsthitthiwdbanaehlm emuxngaemklxng eriykwa hlwngphxwdbanaehlm phraphuththrupxngkhthi 5 lxyiptamaemnaephchrburi khunsthitthiwdekhataekhraemuxngephchrburi eriykwa hlwngphxwdekhataekhra swntanankhxngemuxngnkhrpthmnnelawa miphra 3 xngkh lxynamaphrxmkn aelaaesdngpatihariycaekhaipyngbansrimhaophthi sungmitnophthiihyxyu cungideriyktablnnwa bangphra phraphuththrup 3 xngkhlxyipcnthungpaknathacinaelwklblxythwnnakhunmaihm cungeriyktablnnwa samprathwn hrux smpthwn aetenuxngcaktablthichawbanphaknipchkphrakhunfngephuxkhunpradisthan n hmubankhxngtn aetthaimsaerc txngepiykfnaelatakaeddtaklmcungidchuxwa banlantakfa aela bantakaedd inthisudphraphuththrupxngkhaerkcungyxmsthit n wdirkhingeriykknwa hlwngphxwdirkhing swnxngkhthi 2 lxynaipaelwsthitkhunthiwdbanaehlmcnghwdsmuthrsngkhram eriykwa hlwngphxwdbanaehlm aelaxngkhthi 3 lxytamnaiptamcnghwdephchrburi aelwkhunsthitthiwdekhataekhra eriykwa hlwngphxwdekhataekhra aetnxangxinghnngsuxngannmskarpidthxnghlwngphxwdirkhing pi ph s 2533 Kritwat Talk 2009 11 13 prawtiwdirkhingaelahlwngphxwdirkhing wddngaehngnkhrpthm Oknation cnghwdnkhrpthm khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2021 04 18 subkhnemux 2021 04 18 cakwdirkhingthungwddxnhway thripphxephiyngaetephlidephlin phucdkarxxniln 2007 06 27 aehlngkhxmulxun wdirkhing karthxngethiywaehngpraethsithy