ปลาฉลามหัวบาตร | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Chondrichthyes |
ชั้นย่อย: | Elasmobranchii |
อันดับ: | Carcharhiniformes |
วงศ์: | Carcharhinidae |
สกุล: | Carcharhinus |
สปีชีส์: | C. leucas |
ชื่อทวินาม | |
Carcharhinus leucas ( & , 1839) | |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของปลาฉลามหัวบาตร (สีน้ำเงิน) | |
ชื่อพ้อง | |
|
ปลาฉลามหัวบาตร (อังกฤษ: Bull shark; ชื่อวิทยาศาสตร์: Carcharhinus leucas) เป็นปลาฉลามชนิดหนึ่ง อยู่ในวงศ์ปลาฉลามครีบดำ (Carcharhinidae)
ลักษณะและพฤติกรรม
มีรูปร่างอ้วนป้อม หัวกลมป้านมีขนาดใหญ่ ข้อที่สองครีบหลังเป็นกระโดงรูปสามเหลี่ยมมุมป้าน มีนิสัยดุร้าย กินปลาและสัตว์ต่าง ๆ ในน้ำเป็นอาหาร รวมทั้งอาจทำร้ายมนุษย์ได้ด้วย พบอาศัยในทะเลเขตอบอุ่นและเขตร้อนทั่วโลก โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่ง ขนาดโตเต็มที่ได้ถึง 3.5 เมตร น้ำหนักหนักได้ถึง 316.5 กิโลกรัม
ปลาฉลามหัวบาตร เป็นปลาฉลามชนิดที่สามารถปรับตัวให้อยู่ในน้ำจืดได้ โดยพบเป็นบางครั้งในแม่น้ำใหญ่ที่ห่างจากทะเลนับร้อยกิโลเมตร เช่น แม่น้ำมิสซิสซิปปี, แม่น้ำอเมซอน, แม่น้ำแซมบีซี, แม่น้ำไทกริส, แม่น้ำแยงซี, ทะเลสาบนิคารากัว ในประเทศไทยเช่น แม่น้ำโขง, แม่น้ำแม่กลอง, แม่น้ำสาละวิน เป็นต้น โดยปลาจะว่ายเข้ามาจากทะเล มีรายงานว่าอยู่ห่างจากทะเลมากที่สุด คือ แม่น้ำอเมซอน ในทวีปอเมริกาใต้ พบอยู่ห่างจากทะเลถึง 2,200 ไมล์
ปลาฉลามหัวบาตร เป็นปลาที่ล่าเหยื่อเป็นอาหาร สามารถที่จะกินปลาขนาดใหญ่เช่น ปลากระเบน หรือแม้แต่พวกเดียวกันได้ โดยฟันที่อยู่กรามล่างจะมีลักษณะแหลมยาวกว่าฟันที่อยู่กรามบน เพราะใช้ในการกัดเหยื่อก่อน ก่อนที่ฟันกรามบนจะงับซ้ำลงมาเพื่อไม่ให้เหยื่อหลุด ในบางครั้งจะสะบัดเหยื่อให้ขาดเป็น 2 ท่อนด้วย โดยแรงกัดที่วัดได้วัดได้สูงสุดถึง 1,250 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยมักใช้หัวพุ่งชนก่อนกัดเหยื่อ อีกทั้งนับได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนสูงที่สุดในบรรดาสัตว์โลกทั้งมวลอีกด้วย
ปลาฉลามหัวบาตร มีร่างกายที่สามารถปรับตัวให้อาศัยอยู่ในน้ำจืดสนิทได้ ด้วยการควบคุมปริมาณเกลือและยูเรีย จากต่อมที่ทวารหนักที่ทำหน้าที่เหมือนวาล์วเปิดปิดปัสสาวะ ควบคุมปริมาณเกลือให้สมดุลกับร่างกาย อีกทั้งการที่มีส่วนหัวขนาดใหญ่ทำให้ได้เปรียบกว่าปลาฉลามกินเนื้อชนิดอื่น ๆ ด้วยการที่มีรูรับประสาทสัมผัสที่ส่วนจมูกมากกว่า ทำให้ปลาฉลามหัวบาตรรับรู้สนามไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี จนสามารถรับรู้ได้ถึงเสียงหัวใจเต้นของมนุษย์ ทำให้มีประสาทสัมผัสการล่าที่ดีกว่าปลาฉลามชนิดอื่น โดยปกติแล้ว ปลาตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ สามารถสืบพันธุ์และขยายพันธุ์เติบโตในน้ำจืดได้ แม้แต่ขณะที่อยู่ในท้อง ลูกปลาฉลามหัวบาตรจะกินกันเองจนเหลือเพียงไม่กี่ตัวที่จะคลอดออกมา
เป็นปลาที่ใช้ตกเป็นเกมกีฬา รวมถึงใช้บริโภค แต่การเลี้ยงในสถานที่เลี้ยงกลับไม่รอด พบเพียงแต่ที่เดียวเท่านั้น คือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในออสเตรเลีย
ปลาฉลามหัวบาตรที่พบใน ในแอฟริกาใต้ มีพฤติกรรมที่แปลกไปกว่าปลาฉลามหัวบาตรในที่อื่น ๆ คือ ไม่โจมตีทำร้ายมนุษย์หากมีอาหารในแม่น้ำเพียงพอ และจะหาอาหารโดยการขโมยปลาที่ตกได้โดยชาวประมงในท้องถิ่น ด้วยการตามเรือประมงไป จึงทำให้ปลาที่นี่มีขนาดใหญ่กว่าปลาที่พบในที่อื่น
การทำร้ายมนุษย์
ปัจจุบัน มีการจัดอันดับให้ปลาฉลามหัวบาตรเป็นปลาฉลามที่มีอันตรายต่อมนุษย์มากที่สุด เนื่องด้วยการที่พบกระจายอยู่ทั่วโลกและสามารถเข้ามาอาศัยได้ในน้ำจืดได้
ในเหตุการณ์ เป็นการจู่โจมมนุษย์โดยปลาฉลามหัวบาตรที่ขึ้นชื่ออย่างมาก และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ นักเขียนชาวอเมริกัน แต่งเป็นนวยายเรื่อง ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันที่โด่งดังมากในปี ค.ศ. 1975
ในปลายปี ค.ศ. 2002 ซึ่งตรงกับฤดูร้อนของออสเตรเลีย มีนักศึกษาระดับปริญญาเอก 2 คน ได้ลงไปว่ายน้ำในทะเลสาบไมอามี รัฐควีนส์แลนด์ เพื่อดับร้อน คนหนึ่งสามารถว่ายน้ำขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย แต่ โบ มาร์ติน นักศึกษาอีกคนวัย 23 ปี กลับหายไป เมื่อเพื่อนของเขากระโดดลงไปช่วยก็ไม่พบตัว วันรุ่งขึ้น พ่อของมาร์ตินและเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตามหา แต่ก็ไม่พบ อีก 3 วันต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลิกค้นหาแล้ว แต่พ่อของมาร์ตินยังคงค้นหาต่อด้วยเรือแคนู ในที่สุดก็พบศพลูกชายตัวเอง ในสภาพที่กึ่งจมกึ่งลอย ด้วยก๊าซในร่างกายที่ดันศพให้ลอยขึ้นมา ผลของการชันสูตร พบว่า โบ มาร์ติน เสียชีวิตจากการถูกปลาฉลามหัวบาตรกัดถึง 3 ครั้ง โดยบาดแผลฉกรรจ์ที่สุดอยู่ที่ต้นขาซ้าย
ในวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 2003 ที่ ในออสเตรเลีย มีผู้พาม้าแข่งของตัวลงไปว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกาย ปรากฏว่าม้าน้ำหนักถึง 2,000 ปอนด์ ถูกอะไรบางอย่างโจมตีที่ขาหลังและสะโพก จนเกือบจะถูกลากลงไปในน้ำ แม้จะรอดมาได้ด้วยเชือกที่เจ้าของผูกจูงไว้ แต่ด้วยแผลที่ฉกรรจ์ แม้ภายนอกจะหายสนิทแล้ว แต่กล้ามเนื้อภายในคงยังเสียหาย จนไม่อาจใช้เป็นม้าแข่งได้อีกต่อไป ภาพของบาดแผลผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าเป็นการโจมตีของปลาฉลามหัวบาตร
นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานอื่น ๆ มาจากหลายส่วนของโลก เช่น อินเดีย และทะเลสาบมิชิแกน และแม่น้ำมิสซิปซิปปี ในสหรัฐอเมริกา หรือทะเลสาบน้ำจืด ในฟิลิปปินส์ ที่พบว่าปลาฉลามหัวบาตรทำร้ายมนุษย์ หรือสัตว์เลี้ยง แม้กระทั่งกัดกินศพที่ลอยน้ำมาด้วย
ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2015 มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรเลียลงเล่นน้ำทะเลที่ จังหวัดภูเก็ต ถูกสัตว์ทะเลบางอย่างทำร้ายจนมีแผลเหวอะที่เท้าซ้าย สันนิษฐานว่าเป็นปลาฉลาม และน่าจะเป็นปลาฉลามหัวบาตร แต่ในประเทศไทย จัดว่าพบปลาฉลามหัวบาตรน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นปลาที่พบในแนวปะการังซึ่งเป็นปลาขนาดใหญ่ ส่วนในน้ำจืดพบได้น้อยมาก และเป็นปลาขนาดเล็ก เช่น แม่น้ำสาละวิน หรือแม่น้ำแม่กลอง
อ้างอิง
- Simpfendorfer, C. & Burgess, G.H. (2005). "Carcharhinus leucas". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2011.1. สืบค้นเมื่อ 18 August 2011.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Carcharhinus leucas. ITIS Standard Report Page.
- กิตติพงษ์ จารุธาณินทร์ ฉลามน้ำจืด....จากแม่น้ำแม่กลอง Aquarium Biz ฉบับที่ 4 ตุลาคม 2553 หน้า 94
- Freshwater Shark, "River Monsters". สารคดีแอนิมอลแพลนเน็ต.
- [] รายการ Knowledge Zone คลังปัญญา ออกอากาศทางช่อง 9 : 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
- Hidden Predator, "River Monsters" "River Monsters". สารคดีแอนิมอลแพลนเน็ต.
- Handwerk, Brian. "Great Whites May Be Taking the Rap for Bull Shark Attacks". National Geographic News. สืบค้นเมื่อ 1 February 2007.
- "ดร.ธรณ์ มั่นใจ สัตว์กัดนักท่องเที่ยวทะเลภูเก็ต คือ ฉลาม". สนุกดอตคอม. สืบค้นเมื่อ 7 November 2015.
แหล่งข้อมูลอื่น
- รูปและข้อมูลปลาฉลามหัวบาตร
- สารคดีตกปลาฉลามหัวบาตร (1) โดยเจเรมี เวด
- สารคดีตกปลาฉลามหัวบาตร (2)
- สารคดีตกปลาฉลามหัวบาตร (3)
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Carcharhinus leucas ที่วิกิสปีชีส์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
plachlamhwbatrsthanakarxnurksiklthukkhukkham IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Chondrichthyeschnyxy Elasmobranchiixndb Carcharhiniformeswngs Carcharhinidaeskul Carcharhinusspichis C leucaschuxthwinamCarcharhinus leucas amp 1839 aephnthiaesdngkarkracayphnthukhxngplachlamhwbatr sinaengin chuxphxngCarcharhinus azureus Gilbert amp Starks 1904 Carcharhinus nicaraguensis Gill amp Bransford 1877 Carcharhinus vanrooyeni Smith 1958 Carcharhinus zambezensis Peters 1852 Carcharias azureus Gilbert amp Starks 1904 Carcharias leucas Muller amp Henle 1839 Carcharias spenceri Ogilby 1910 Carcharias zambezensis Peters 1852 Eulamia nicaraguensis Gill amp Bransford 1877 Galeolamna bogimba Whitley 1943 Galeolamna greyi mckaili Whitley 1945 Squalus obtusus Poey 1861 Squalus platyodon Poey 1861 plachlamhwbatr xngkvs Bull shark chuxwithyasastr Carcharhinus leucas epnplachlamchnidhnung xyuinwngsplachlamkhribda Carcharhinidae lksnaaelaphvtikrrmmiruprangxwnpxm hwklmpanmikhnadihy khxthisxngkhribhlngepnkraodngrupsamehliymmumpan minisyduray kinplaaelastwtang innaepnxahar rwmthngxactharaymnusyiddwy phbxasyinthaelekhtxbxunaelaekhtrxnthwolk odyechphaabriewnchayfng khnadotetmthiidthung 3 5 emtr nahnkhnkidthung 316 5 kiolkrm plachlamhwbatr epnplachlamchnidthisamarthprbtwihxyuinnacudid odyphbepnbangkhrnginaemnaihythihangcakthaelnbrxykiolemtr echn aemnamississippi aemnaxemsxn aemnaaesmbisi aemnaithkris aemnaaeyngsi thaelsabnikharakw inpraethsithyechn aemnaokhng aemnaaemklxng aemnasalawin epntn odyplacawayekhamacakthael miraynganwaxyuhangcakthaelmakthisud khux aemnaxemsxn inthwipxemrikait phbxyuhangcakthaelthung 2 200 iml plachlamhwbatr epnplathilaehyuxepnxahar samarththicakinplakhnadihyechn plakraebn hruxaemaetphwkediywknid odyfnthixyukramlangcamilksnaaehlmyawkwafnthixyukrambn ephraaichinkarkdehyuxkxn kxnthifnkrambncangbsalngmaephuximihehyuxhlud inbangkhrngcasabdehyuxihkhadepn 2 thxndwy odyaerngkdthiwdidwdidsungsudthung 1 250 pxndtxtarangniw odymkichhwphungchnkxnkdehyux xikthngnbidwaepnstwthimihxromnethsothsethxornsungthisudinbrrdastwolkthngmwlxikdwy plachlamhwbatr mirangkaythisamarthprbtwihxasyxyuinnacudsnithid dwykarkhwbkhumprimanekluxaelayueriy caktxmthithwarhnkthithahnathiehmuxnwalwepidpidpssawa khwbkhumprimanekluxihsmdulkbrangkay xikthngkarthimiswnhwkhnadihythaihidepriybkwaplachlamkinenuxchnidxun dwykarthimirurbprasathsmphsthiswncmukmakkwa thaihplachlamhwbatrrbrusnamiffaidepnxyangdi cnsamarthrbruidthungesiynghwicetnkhxngmnusy thaihmiprasathsmphskarlathidikwaplachlamchnidxun odypktiaelw platwemiycamikhnadihykwatwphu samarthsubphnthuaelakhyayphnthuetibotinnacudid aemaetkhnathixyuinthxng lukplachlamhwbatrcakinknexngcnehluxephiyngimkitwthicakhlxdxxkma source source source source source source plachlamhwbatrtwemiyinekhtxnurksaenwpakarngthificiswnhwplathngtwthithukcbid epnplathiichtkepnekmkila rwmthungichbriophkh aetkareliynginsthanthieliyngklbimrxd phbephiyngaetthiediywethann khux phiphithphnthstwnainxxsetreliy plachlamhwbatrthiphbin inaexfrikait miphvtikrrmthiaeplkipkwaplachlamhwbatrinthixun khux imocmtitharaymnusyhakmixaharinaemnaephiyngphx aelacahaxaharodykarkhomyplathitkidodychawpramnginthxngthin dwykartameruxpramngip cungthaihplathinimikhnadihykwaplathiphbinthixunkartharaymnusypccubn mikarcdxndbihplachlamhwbatrepnplachlamthimixntraytxmnusymakthisud enuxngdwykarthiphbkracayxyuthwolkaelasamarthekhamaxasyidinnacudid inehtukarn epnkarcuocmmnusyodyplachlamhwbatrthikhunchuxxyangmak aelaepnaerngbndalicihaek nkekhiynchawxemrikn aetngepnnwyayeruxng sungtxmaidklaymaepnphaphyntrinchuxediywknthiodngdngmakinpi kh s 1975 inplaypi kh s 2002 sungtrngkbvdurxnkhxngxxsetreliy minksuksaradbpriyyaexk 2 khn idlngipwaynainthaelsabimxami rthkhwinsaelnd ephuxdbrxn khnhnungsamarthwaynakhunfngidxyangplxdphy aet ob martin nksuksaxikkhnwy 23 pi klbhayip emuxephuxnkhxngekhakraoddlngipchwykimphbtw wnrungkhun phxkhxngmartinaelaecahnathitarwcxxktamha aetkimphb xik 3 wntxma ecahnathitarwcidelikkhnhaaelw aetphxkhxngmartinyngkhngkhnhatxdwyeruxaekhnu inthisudkphbsphlukchaytwexng insphaphthikungcmkunglxy dwykasinrangkaythidnsphihlxykhunma phlkhxngkarchnsutr phbwa ob martin esiychiwitcakkarthukplachlamhwbatrkdthung 3 khrng odybadaephlchkrrcthisudxyuthitnkhasay inwnthi 23 minakhm kh s 2003 thi inxxsetreliy miphuphamaaekhngkhxngtwlngipwaynaephuxxxkkalngkay praktwamanahnkthung 2 000 pxnd thukxairbangxyangocmtithikhahlngaelasaophk cnekuxbcathuklaklngipinna aemcarxdmaiddwyechuxkthiecakhxngphukcungiw aetdwyaephlthichkrrc aemphaynxkcahaysnithaelw aetklamenuxphayinkhngyngesiyhay cnimxacichepnmaaekhngidxiktxip phaphkhxngbadaephlphuechiywchaymikhwamehnwaepnkarocmtikhxngplachlamhwbatr nxkcakniaelwyngmiraynganxun macakhlayswnkhxngolk echn xinediy aelathaelsabmichiaekn aelaaemnamissipsippi inshrthxemrika hruxthaelsabnacud infilippins thiphbwaplachlamhwbatrtharaymnusy hruxstweliyng aemkrathngkdkinsphthilxynamadwy inwnthi 1 knyayn kh s 2015 minkthxngethiywhyingchawxxsetreliylngelnnathaelthi cnghwdphuekt thukstwthaelbangxyangtharaycnmiaephlehwxathiethasay snnisthanwaepnplachlam aelanacaepnplachlamhwbatr aetinpraethsithy cdwaphbplachlamhwbatrnxymak swnihycaepnplathiphbinaenwpakarngsungepnplakhnadihy swninnacudphbidnxymak aelaepnplakhnadelk echn aemnasalawin hruxaemnaaemklxngxangxingSimpfendorfer C amp Burgess G H 2005 Carcharhinus leucas IUCN Red List of Threatened Species Version 2011 1 subkhnemux 18 August 2011 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint multiple names authors list lingk Carcharhinus leucas ITIS Standard Report Page kittiphngs caruthaninthr chlamnacud cakaemnaaemklxng Aquarium Biz chbbthi 4 tulakhm 2553 hna 94 Freshwater Shark River Monsters sarkhdiaexnimxlaephlnent lingkesiy raykar Knowledge Zone khlngpyya xxkxakasthangchxng 9 30 phvscikayn ph s 2552 Hidden Predator River Monsters River Monsters sarkhdiaexnimxlaephlnent Handwerk Brian Great Whites May Be Taking the Rap for Bull Shark Attacks National Geographic News subkhnemux 1 February 2007 dr thrn mnic stwkdnkthxngethiywthaelphuekt khux chlam snukdxtkhxm subkhnemux 7 November 2015 aehlngkhxmulxunrupaelakhxmulplachlamhwbatr sarkhditkplachlamhwbatr 1 odyecermi ewd sarkhditkplachlamhwbatr 2 sarkhditkplachlamhwbatr 3 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Carcharhinus leucas khxmulthiekiywkhxngkb Carcharhinus leucas thiwikispichis